Adjectives ( articles -a/an )


Adjectives ( articles -a/an )

Adjectives ( articles -a/an )


 

 

 
 

Articles เป็นคำคุณศัพท์อย่างหนึ่ง   การเรียน Articles ต้องทำความเข้าใจควบคู่ไปกับเรื่องนามนับได้ ( Countable Nouns ) และนามนับไม่ได้ ( Uncountable Nouns ) ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างสับสนสำหรับผู้เรียนซึ่งที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ( Non-native speakers of English ) หรือเรียนภาษาอังกฤษ เป็นภาษาต่างประเทศ ( English as a Foreign Language )  เนื่องจากเป็นเรื่องที่มักจะตัดสินใจยากว่าอะไรเป็นนามนับได้ และอะไรเป็นนามนับไม่ได้  บางครั้งคำเดียวกันสามารถเป็นได้ทั้งสองอย่าง เป็นเรื่องที่มีกฎเกณฑ์มาก และขณะเดียวกัน ก็มีข้อยกเว้นมากเช่นกัน ต้องอาศัยความจำและประสบการณ์ ในการใช้ภาษา เป็นเวลานานจึงจะสามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง

คือ

 

เมื่อกล่าวเป็นการทั่วไป นามนับได้เอกพจน์ จะต้องมี a หรือ an นำหน้าเสมอ
  นามพหูพจน์และนามนับไม่ได้ ไม่ต้องมี article ใดๆ
เมื่อกล่าวเป็นการชี้เฉพาะ จะต้องใช้ the นำหน้าเสมอไม่ว่าจะเป็นนามเอกพจน์หรือพหูพจน์ เป็นนามนับได้หรือไม่ได้

Articles แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ

  • Indefinite Article ได้แก่  และ an ใช้นำหน้านามนับได้ ( Countable Nouns ) เอกพจน์ทั่วๆไป ( Singular )
  • Definite Article ได้แก่  the  ซึ่งใช้นำหน้าคำนามนับได้ ( Countable Nouns ) และนามนับไม่ได้ ( Uncountable Nouns ) ทั้งรูปเอกพจน์ Singular ) และพหูพจน์ ( Plural ) เพื่อให้นามนั้นมีความหมายเฉพาะเจาะจง

การใช้ Indefinite Article : a, an

1. ใช้ a นำหน้าคำนามนับได้ เอกพจน์ ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะและมีความหมายทั่วไปในความหมาย หนึ่ง โดยไม่ต้องการเน้นจำนวน เช่น   a woman, a dog, a dentist, a newspaper, a city , a book , a shop  เช่น

He is reading a newspaper.  เขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์

2. ใช้ an นำหน้าคำนามนับได้ เอกพจน์ขึ้นต้นด้วยสระ และมีความหมายทั่วไป เช่น an orange, an umbrella, an hour, an article

It's raining.You will need an umbrella .ฝนกำลังตก คุณจะต้องมีร่มกันฝน.

หมายเหตุ

  • ถ้าคำนามนับได้ เอกพจน์ นั้นขึ้นต้นด้วยสระ   แต่ว่าออกเสียงเป็นพยัญชนะ ให้ใช้ a   เช่น a uniform, a university, a European, a eucalyptus ( ต้นยูคาลิบตัส ), a utensil, a union, a useful, a unit
  • ถ้าคำนามนับได้ เอกพจน์ นั้นมีคุณศัพท์นำหน้าขยาย   ให้ดูดังนี้
       -หากคำคุณศัพท์นั้นขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะก็ให้ใช้ a  เช่น  a sweet orange, a big umbrella
       -หากขึ้นต้นด้วย เสียงสระให้ใช้ an เช่น   an old city, an ugly woman  เป็นต้น
  • ถ้าคำนามนั้นขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แต่ออกเสียงเป็นสระ   หรือมี adjective ที่ขึ้นต้นด้วยสระมาขยายข้างหน้านามนั้นให้ใช้ an เช่น
       -ออกเสียงเป็นสระ เช่น an hour, an heir, an honor
       -มีคุณศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยสระ เช่น an important person

3. ใช้ a, an นำหน้านามเอกพจน์ เมื่อกล่าวถึงคำนามนั้นเป็นครั้งแรก เช่น

There is a shop on the corner.   มีร้านอยู่ 1 ร้านที่หัวมุม ( ใช้ a เพราะเป็นการพูดถึงครั้งแรก )

4. ใช้ a, an แทนพวก กลุ่ม หมู่เหล่า เช่น

A cow is an animal. วัวเป็นสัตว์ขนิดหนึ่ง
= Cows are animals.วัวเป็นสัตว์
An owl can see in the dark. นกเค้าแมวมองเห็นได้ในความมืด

5. ใช้ a, an ในการบอกอัตราต่อ 1 หน่วย ( per ) เช่น

She runs three miles a day. เธอวิ่งวันละ 10 ไมล์ ( เป็นกิจวัตร )
I go to the cinema about once a month.
ฉันไปดูภาพยนต์ประมาณเดือนละครั้ง

6. ใช้ a, an หน้าชื่อเฉพาะของผู้มีชื่อเสียงที่รู้จักทั่วไป เพราะมีคุณสมบัติ ความสามารถ หรืออุปนิสัยเหมือนผู้ที่ต้องการเปรียบเทียบ

He is an Einstein. เขาเป็นคนฉลาดเหมือนไอน์สไตน์
He is a Soontorn Poo of our school.  เขาเป็นคนที่แต่งกลอนเก่ง ( เหมือนสุนทรภู่) ของโรงเรียนเรา
     หมายเหตุ แต่ถ้าใช้ the แทน a หมายความว่าคนเช่นนั้นมีคนเดียว
He is the Soontorn Poo of our school.  เขาเป็นคนที่แต่งกลอนเก่งของโรงเรียนเรา ( เพียงคนเดียว)
He is the Khun Phaen of our family.  เขาเป็นคนเจ้าชู้( เหมือนขุนแผน)คนเดียวในครอบครัวเรา

7. ใช้ a, an นำหน้าคำนามที่เป็นสำนวนในประโยคอุทาน เช่น

What a pity !น่าสงสารจัง
What a shame ! น่าอายจัง !

8. ใช้ a, an นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่กล่าวถึงการเป็นสมาชิกของกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มอาชีพ เชื้อชาติ ศาสนา

My father is a teacher.  อาชีพ
Robert is an American.  เชื้อชาติ
John is a Catholic.   ศาสนา

9. ใช้ a, an แทนจำนวน หนึ่งหน้าคำนามที่เป็นสำนวนเกี่ยวกับการนับจำนวนหรือแสดงจำนวนมาก

a dozen of eggs. ไข่จำนวน 1 โหล
a gross of pens ปากกาจำนวน 12 โหล
a lot of people ประชาชนจำนวนมาก
a number of friends เพื่อนจำนวนมาก

10. ใช้ a, an นำหน้านามที่เป็นสำนวนเกี่ยวกับการเจ็บไข้ได้ป่วย  โครงสร้างคือ have + a+ อาการเจ็บป่วย

have a headache ( ปวดหัว ) have a pain in the chest ( เจ็บหน้าอก )
have a stomachache ( ปวดท้อง ) have a cold ( เป็นหวัด )
have a toothache ( ไม่มี a ก็ได้ ) ( ปวดฟัน ) have a fever ( เป็นไข้ )

ยกเว้นถ้าเป็นชื่อโรค ไม่ใช้ a, an เช่น

rheumatism( โรคปวดข้อ ) diabetes ( เบาหวาน )
influenza (ไข้หวัดใหญ ) ่cancer ( มะเร็ง )

เช่น

He had an itch in the middle of his back .เขามีอาการคันที่กลางหลัง
He had a pain in the neck.  เขามีอาการปวดคอ
She is suffering from rheumatism.  เธอกำลังทุกข์ทรมานด้วยโรคปวดข้อ

11. ใช้ a,an ในสำนวนที่มีคำต่อไปนี้นำหน้าคือ    such, quite, rather, many

We didn't expect such a hot day.  เราไม่ได้คาดว่ามันจะเป็นวันที่อากาศร้อนเช่นนี้
He is quite a good boy. เขาเป็นเด็กดีทีดียว
It was rather a short trip. มันเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างสั้น
Many a place in Thailand impressed them. สถานที่หลายแห่งในประเทศไทยประทับใจพวกเขามาก

12. ใช้ a, an หลังโครงสร้างต่อไปนี้

so + adjective+a + นามนับได้ เอกพจน์ ( such a+ นาม ) เช่น
      We didn't expect so great a crowd.  .เราไม่คาดคิดว่าจะมีคนมากมายอย่างนี้

too + adjective + a + นามนับได้ เอกพจน์
      This is too hard a job for him.  นี่เป็นงานหนักเกินไปสำหรับเขา

however + adjective + a + นามนับได้เอกพจน
     
However nice a girl she is, he never like her. ไม่ว่าเธอจะเป็นคนน่ารักอย่างเขาก็ไม่ชอบเธอ

as + adjective + a + นามนับได้ เอกพจน์+ as
     
She is as good a student as you are.เธอเป็นนักเรียนที่ดีเช่นเดียวกับคุณ

13. สำนวนในภาษาอังกฤษที่ใช้ a,an

all of a sudden ทันใดนั้น in a hurry/rush อย่างเร่งรีบ
as a matter of fact อันที่จริงแล้ว in a good/bad mood อารมณ์ดี/เสีย
as a rule ตามปกติ โดยทั่วไป keep an eye on เฝ้าดู
do a favor ช่วยเหลือ make a decision ตัดสินใจ
earn a living หาเลี้ยงชีพ make a living หาเลี้ยงชีพ
give an idea ให้ความคิด make a mistake ทำผิด
go for a walk เดินเล่น make a noise ทำเสียงดัง
go for a ride นั่งรถเล่น make a speech กล่าวสุนทรพจน์
have a good time สนุกสนาน make a wish อธิษฐาน
have a hair cut ตัดผม make a fool of ทำให้ขายหน้า
it's a shame น่าขายหน้า make a request ขอร้อง
it's a pity that น่าเสียดาย,น่าสงสาร tell a lie, tell lies โกหก
take a trip เดินทาง take a look at มอง ดู
take a picture ถ่ายรูป keep a secret เก็บเป็นความลับ
take a seat นั่ง in a position to อยู่ในฐานะที่จะ
with a view to เพื่อจะทำให้ on a large scale อย่างมาก
on an/the average โดยเฉลี่ย make a remark ให้ข้อสังเกต
a couple of สองสาม play a joke on ล้อเล่น

การใช้ a/an และ one

ที่ผ่านมาเป็นการใช้ a/an กับนามนับได้ในความหมายของสิ่งเดียว ( singular ) บางครั้งที่เราต้องการเน้นตัวเลข สามารถใช้ one กับนามนับได้เอกพจน์ เช่น

We'll be in Australia for one ( or a ) year. เราจะอยู่ในออสเตรเลีย 1 ปี
She scored one ( or a ) hundred and eighty points.  เธอได้คะแนน 168 คะแนน

จะใช้ one เท่านั้นเมื่อ

  • ต้องการที่จะเน้นว่าสิ่งที่กล่าวถึง มี/เป็น เพียง 1 ไม่ใช่ 2,3,4...... เช่น

    Do you want one sandwich or two? คุณต้องการแซนด์วิช 1 หรือ 2 อัน
    Are you staying just one night ? คุณจะพักค้างคืนวันเดียวหรือ

  • ใช้ one ในรูปแบบ one ...other / another เช่น

    Close one eye, and then the other. ปิดตาข้างหนึ่งก่อนแล้วจึงปิดอีกข้าง
    Bees carry pollen from one plant to another. ผึ้งนำเกสรดอกไม้จากต้นหนึ่งไปอีกต้น

ที่มา:http://www.aksorn.com

คำสำคัญ (Tags): #การศึกษา
หมายเลขบันทึก: 229661เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2008 10:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท