ชีวิตคนอยู่ในดงมายา มีทั้งสิ่งที่เห็นชัดเจนนิดเดียว แต่มีส่วนซุกซ่อนอยู่เป็นส่วนใหญ่แบบภูเขาน้ำแข็ง และสรรพสิ่งจะมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีส่วนดีอยู่ในส่วนร้าย มี ส่วนร้ายอยู่ในส่วนดี ที่เรียกว่า Complex Adaptive Systems
ไม่ว่าจะทำสิ่งใด ผมฝึกตัวเองให้มองลงไปเห็นภูเขาน้ำแข็งส่วนที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งก็มองเห็นบ้างมองไม่เห็นบ้าง ส่วนใหญ่ผมมองไม่เห็น แต่ก็ตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่ามี แต่เราไม่เห็น
ในเรื่องที่มีการถกเถียงกันแบบหน้าดำหน้าแดง ผมหัดมองด้วยแว่นหลายๆ อัน ซึ่งที่จริงก็คือการสวมหลาย mental model ทำให้เรามองเห็นความซับซ้อนของเรื่อง หัดทำเช่นนี้บ่อยๆ เราก็จะไม่โกรธ “คนที่มีความคิดล้าหลัง” เพราะจริงๆ แล้วเขายึด mental model แบบหนึ่ง ในขณะที่เรา “เปลี่ยนแว่น” ไปนานแล้ว
คนทุกคนเป็น “ภูเขาน้ำแข็ง” เมื่อเราหัดมองให้ทะลุลงไปใต้น้ำ หัดมองว่าเขาสวมแว่นสีอะไร เราก็จะเข้าใจเพื่อน เข้าใจเพื่อนร่วมงาน เข้าใจมิตร เข้าใจศัตรู มากขึ้น เราจะมีเมตตามากขึ้น เราจะควบคุมความรู้สึกรำคาญ ความรู้สึกโกรธ ได้ดีขึ้น เราจะไม่ตราคนอื่น ว่า “คิดโง่ๆ”
เพราะที่จริงแล้ว ตัวเราเองก็ “คิดโง่ๆ” ในเรื่องต่างๆ อีกมากมาย เพราะเราไม่เข้าใจความซับซ้อนของเรื่องเหล่านั้น
วิจารณ์ พานิช
๑๗ ต.ค. ๕๑
ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ...
เหมือนเรื่อง "ลักษณ์" ที่ผมเคยไปเป็นวิทยากรกระบวนการ จิตปัญญา หลายท่านพูดถึงเรื่องนี้ บอกว่า ใจเบาเบา เมื่อเข้าใจเรื่องลักษณ์ ของคน
เหมือนกับ การมองทะลุภูเขาน้ำแข็งเหมือนกัน
เพราะเราไม่เข้าใจ หรือ ไม่เคยฝึกมองแบบนี้ทำให้เราเองก็คิด "โง่ๆ"
-สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์
-หากเราได้ใส่แว่นอันเดียว และบ่อยครั้งเขาใส่แว่นใหม่กว่าเรา คุณภาพดีกว่าเรา
-ก็เลยใช้วิธีมองคนมีแว่นใหม่มอง
-ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากครับ ผมได้ความรู้และแง่คิดดี ๆ จากอาจารย์หลาย ๆ เรื่องครับ
ผมพยายามเข้ามาอ่านทุกวันและอ่านของทุกคนครับ ก็พยายามนำสิ่งดี ๆ ที่ตัวเอง
พอที่จะปฏิบัติได้ ลองนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และเรื่องของการทำงานครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ ที่หาอะไรดี ๆ มาให้ศึกษาเรียนรู้ทุกวันครับ
ความรู้ หาได้โดยไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหนครับผม
ขอบคุณครับ