การผลิตขายและการใช้เชื้อบิวเวอเรีย

การผลิตขยายและการใช้เชื้อบิวเวอเรีย

                ปัจจุบันพี่น้องเกษตรกรได้ให้ความสนใจในการผลิตขยายและใช้สารชีวภาพในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชมากขึ้น เชื้อบิวเวอเรีย (Beauveria Bassiana) จึงมีความโดดเด่นขึ้นมาทันที เชื้อบิวเวอเรีย มีคุณสมบัติในการป้องกันและกำจัดแมลงหวี่ขาว เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ มวน เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล  เพลี้ยจั๊กจั่น ด้วง และแมลงที่กินใบพืชเป็นอาหาร ทั้งในพืชไร่และพืชผักต่างๆ โดยสปอร์ของเชื้อราบิวเวอเรีย เมื่อตกไปที่ผนังลำตัวแมลงและมีความชื้นที่เหมาะสมสปอร์ก็จะงอก ก้านชูสปอร์ (Germ Tule) แทงทะลุผ่านลำตัวแมลงเข้าไปในช่องว่างภายในลำตัวแมลง หลังจากนั้น เชื้อราจะเจริญเพิ่มปริมาณเส้นใยเป็นท่อนสั้นๆ ในทางเดินโลหิต นอกจากนี้เชื้อราบิวเวอเรีย ยังมีการสร้างพิษเชื้อบิวเวอริซิน (Beau vericin) สารพิษเหล่านี้จะไปยับยั้งระบบภูมิคุ้มกันของแมลง  เซลล์เม็ดเลือดในตัวแมลงก็จะถูกทำลายให้เลือดที่อยู่ในตัวแมลงมีน้อยลง แต่ทางกลับกัน เชื้อรากลับมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  จนเต็มช่องว่างของตัวแมลง ทำให้แมลงเป็นอัมพาตและตายในที่สุด หลังจากแมลงตายเชื้อราจะแทงก้านชูสปอร์ทะลุผ่านผนังลำตัวออกมาภายนอกแล้วสร้างสปอร์ ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ในธรรมชาติ  เชื้อราบิวเวอเรีย สามารถทำลายแมลงได้ทุกระยะ

            การผลิตผลิตขยายเชื้อราบิวเวอเรีย

            1. นำเมล็ดข้าวโพดประมาณ 80 กิโลกรัม  มาล้างให้สะอาด และแช่น้ำไว้ประมาณ 12-24 ชั่วโมง

            2. นำเมล็ดข้าวโพดแช่น้ำไว้แล้วไปต้มน้ำเดือด (ประมาณ 15 นาที) แล้วตักออกไปผึ่งบนตาแกรงให้แห้งพอหมาดๆ แล้วนำไปบรรจุถุงพลาสติกทนความร้อนขนาด 6 x12 นิ้ว ถุงละ 500 กรัม (5 ขีด)

            3. ใส่ขวดพลาสติกแล้วปิดด้วยจุกสำลี แล้วใช้กระดาษอลูมิเนียมหรือกระดาษปิดทับอีกชั้นหนึ่ง

            4. นำถุงเมล็ดข้าวโพดไปนึ่งในหม้อนึ่งความดัน เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรค ด้วยอุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส ความดัน 15 ปอนด์ ต่อตารางนิ้วนาน 30-60 นาที (ถ้าเป็นหม้อนึ่งลูกทุ่งใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง)

            5. นำถุงเมล็ดข้าวโพดออกจากหม้อนึ่ง ทิ้งไว้ให้เย็นจากนั้น จึงนำไปใส่หัวเชื้อราบิวเวอเรียต่อไป

            6. เมื่อใสหัวเชื้อรา ในถุงเมล็ดข้าวโพดเสร็จแล้ว ให้นำไปเก็บไว้ในห้องหรือในร่มใต้ถุนบ้าน ไม่ให้ถูกแสงแดด รออีกประมาณ 15 วัน ก็สามารถนำเชื้อราบิวเวอเรียไปฉีดพ่นป้องกันแมลงศัตรูพืชได้

            การใช้เชื้อราบิวเวอเรียควบคุมศัตรูพืช

            1. เชื้อราบิวเวอเรีย 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 80-100 ลิตร โดยแบ่งน้ำออก 2 ส่วน

                 - น้ำส่วนที่ 1 จำนวน 5 ลิตร ผสมกับเชื้อราบิวเวอเรีย จำนวน 1 กิโลกรัม ทำให้สปอร์เชื้อราหลุดจากเมล็ดข้าวโพดแล้วกรองด้วยผ้าบางๆ

                 - น้ำส่วนที่ 2  จำนวน 75-95 ลิตร ผสมกับสารจับใบคนให้เข้ากัน

            2. นำน้ำที่ได้จากส่วนที่ 1 และ 2 มาผสมกัน และคนให้เข้ากัน

             3. นำไปฉีดพ่นในแปลงที่พบแมลงศัตรูพืชเช่น เพลี้ยไฟ มวน เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ด้วงแมลงหวี่ขาว เพลี้ยอ่อน โดยฉีดพ่นในช่วงที่มีความชื้นสูง (ช่วงเวลาเย็นที่มีแสงแดดอ่อน ๆ หรือตอนเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น)

            4. ควรฉีดพ่อติดต่อกัน 3 ครั้ง ระยะห่างแต่ละครั้ง 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการระบาด

            5. การปรับหัวฉีดให้พ่นฝอยละเอียดจะฉีดได้ผลดี และได้พื้นที่เพิ่มขึ้นสามารถตรวจสอบผลการควบคุมศัตรูพืชได้ หลังจากใช้เชื้อราบิวเวอเรีย ไปแล้ว 5-7 วัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายฌัญชานนท์  เมืองมา  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรประจำ ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ โทร.056-882260 หรือ 056-882259

    

[นายกล่ำ หาโกสีย์]

โรงเรียนบ้านเขาภูมิ่ง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ผมอยากจะหาเชื้อนี้ได้ที่ไหนครับ และตู้เขี่ยเชื้อไม่มี ผมทำในห้อใทงานผมที่เป็นห้องปิดห้องมิดชิดได้ไหมครับ

[ศักดา]

มีอุปกรณ์และหัวเชื้อ และเชื้อราพร้อมใช้สนใจติดด่อ 0819734296 พร้อมชีวภัณฑ์ชนิดอื่นๆ เช่นเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เมตตาไรเซี่ยม เชื้อ บีที