สุขใจเมื่อใกล้ธรรม.ตอน..พรุ่งนี้อาจไม่มีสำหรับเรา...



พรุ่งนี้ไม่เคยมาถึง

เราต่างมีวันนี้ นาทีนี้ และวินาทีนี้เท่านั้น

หลายครั้งที่เราบอก กับตัวเองว่า "พรุ่งนี้"
พรุ่งนี้ค่อยทำ พรุ่งนี้ฉันจะรักเธอ
พรุ่งนี้ฉันจะฝึกสมาธิ พรุ่งนี้ฉันจะกินมังสวิรัติ
พรุ่งนี้ฉันจะเลิกบุหรี่ พรุ่งนี้ฉันจะขอโทษเขา พรุ่งนี้จะให้อภัย
สารพัดสารพันพรุ่งนี้.... แต่ พรุ่งนี้..ไม่เคยมาถึง

ในความเป็นจริง เราไม่ได้มีชีวิตอยู่กับวันพรุ่งนี้
เรามีชีวิตอยู่ในขณะนี้ กับห้วงเวลานี้เท่านั้น

ไม่มีใครจะล่วงรู้ได้เลยว่าเสี้ยววินาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น
หากห้วงยามนี้ฉันหลับตาลง และหลับไปอย่างนิจนิรันดร์
คงมีหลายอย่างที่ฉันพลาดไป และไม่ได้ทำในชีวิต
หลายครั้งเรารอให้โอกาสมาถึง รอให้วันพรุ่งนี้มาถึง
แต่โอกาสไม่มีวันมาถึง วันพรุ่งนี้ไม่เคยมาถึง

ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้น
ไม่เพียงแต่เรากำลังหลอกตัวเอง แต่เรากำลังหลอกคนรอบข้าง
จริงแล้ว โอกาสอยู่ในมือเราแล้วตอนนี้ เวลานี้
โอกาสอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา
และก่อนที่เราจะมาอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ

พระพุทธเจ้าสอนเราให้อยู่กับ "ปัจจุบันขณะ"
อาจารย์ศิลป์ พีระศรี พูดว่า "พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว"
"โอโช" บอกเราว่า "Why Tomorrow?,Why not now.!"

ใช่สิ ทำไม...ทำไมไม่ทำเดี๋ยวนี้! เราเคยลองถามตัวเองไหม
หากได้มองกลับเข้าไปในชีวิต เราชอบที่จะผลัดวันประกันพรุ่งให้กับตัวเองและชีวิต
จริงแล้วการผลัดวันประกันพรุ่งเป็นเพียงกลอุบายของจิต- ที่ทำให้เรารู้สึกมีความหวัง
แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราพลาดโอกาสไป
ในที่สุดเราก็จะมาถึงทางตันของชีวิต คือ "ความตาย"
และสุดท้ายแล้วก็ไม่มีโอกาสใดๆ หลงเหลืออีกเลยในชีวิต

ทำไมเราไม่ลองคิดว่า เราเหลือเพียงวินาทีสุดท้ายในชีวิต
เรากำลังจะตายไปจากโลกนี้ หรือโลกนี้จะงแตกดับไปในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
หากคิดเช่นนั้น...ชีวิตเราคงจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง...

เราคงจะมีชีวิตอยู่กับ "ชีวิตจริงๆ" ของเรามากขึ้น
มากกว่าที่มีชีวิตอยู่กับบ้านหลังใหญ่ หรือหลังต่อไป
รถคันใหม่ หรือคันต่อๆ ไป ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงในธนาคาร
เก้าอี้ในสำนักงาน ตำแหน่งที่วาดหวัง
หรืออยู่กับการเข่นฆ่า แย่งชิงความเป็นใหญ่ หรือการทำสงครามใดๆ ในโลก

คนส่วนใหญ่วางแผนการดำเนินชีวิตไว้ราวกับว่า
ชีวิตคือสิ่งที่ออกแบบได้ตายตัว และเป็นอมตะนิรันดร์
เขาวางไว้ว่าจะเรียนจบเมื่ออายุ ๒๑ หลังจากนั้นทำงาน
เก็บเงินแต่งงานเมื่ออายุ ๒๙ จะมีลูกเมื่อ อายุ ๓๒
แล้วก็จะปลดละวางตัวเองตอนอายุ ๕๐
เสร็จแล้วก็จะเดินทางค้นหาความจริงให้กับชีวิต หรือจะเข้าวัด

บ้างก็ว่าจะเดินทางรอบโลก บ้างก็ว่าจะพักผ่อนหาความสุขให้กับชีวิต
แต่เราแน่ใจได้หรือว่า วันเหล่านั้นจะมาถึง
หรือคุณจะมีชีวิตอยู่ไปจนถึงวันนั้น
ไม่หรอก...มันไม่มี เรามีเพียงวันนี้ และวินาทีนี้เท่านั้น

อย่าลังเลที่จะทำอะไร หรือเติมสิ่งดีๆให้ชีวิตเลย
การพักผ่อนไม่ใช่จะมีได้เมื่อตอนปลดเกษียณ

ฮันนีมูนก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้เฉพาะตอนแต่งงานใหม่ๆ
การจะบอกรักใครสักคนก็ไม่ใช่บอกในวันที่เขาลาจากโลกนี้ไปแล้ว
หรือบางครั้งเราเองต่างหากที่จะจากโลกนี้ไปก่อนที่จะได้บอกคำนั้นกับใครสักคน

การค้นหาความจริงแห่งชีวิตก็เฉกเช่นเดียวกัน
มันไม่มีป้ายบอก วัน/เดือน/ปี ที่ผลิต และวันหมดอายุ
มันมีอยู่จริงไม่ว่าเราจะมีอยู่หรือไม่มีอยู่ก็ตาม
มีแต่ชีวิตเราต่างหากที่มีวันหมดอายุ

หากวันนี้เราคิดที่จะศึกษาหรือค้นหาความจริงแห่งชีวิต
ความจริงก็ได้เปิดออกอยู่ตรงหน้าเราแล้ว อย่ารีรออีกเลย
เพราะพรุ่งนี้... จะไม่มีวันมาถึง


อนุโมทนาสาธุกับเรืองดีดี
ของกัลยาณมิตร

 


หมายเลขบันทึก: 218528เขียนเมื่อ 24 ตุลาคม 2008 12:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

-กราบนมัสการพระคุณเจ้า

-พรุ่งก็สายแล้วจริงๆ พระคุณเจ้า

-กราบนมัสการลาค่ะ

กราบขอบพระคุณมากครับ พรุ่งนี้ไม่เคยมาถึงซักที มีแต่ตอนนี้จริงๆด้วยครับ

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

P 

 

  • ธรรมสวัสดีโยม krutoi 
  • อนุโมทนสาธุที่เข้ามาเยี่ยม
  • ธรรมรักษา..(^______^)

P

 

  • ธรรมสวัสดีกับโยม  hall 
  • อนุโมทนาสาธุที่เข้ามาเยี่ยม
  • ธรรมรักษา......(^_____^)
         

กราบนมัสการค่ะ พระคุณท่าน
ใช่ค่ะ พรุ่งนี้ไม่เคยมาถึง มีแต่ปัจจุบันจริงๆ ค่ะ
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วจะกลายเป็นอดีตที่ดีของเราได้ค่ะ 
กราบขอบพระคุณอีกค่ะ สำหรับ สติ ที่ให้ค่ะ

อ้างอิงจาก http://loorsad.exteen.com/20070107/entry

P

 

  • ธรรมสวัสดีโยมณ จันทร์
  • อนุโมทนาสาธุที่แวะมาอ่าน
  • สติมาปัญญาเกิด-สติเตลิดเกิดปัญหา
  • ธรรมรักษา.....(^____^)

กราบนมัสกาเจ้าค่ะ หลวงน้า

หลวงน้าเจ้าขา สบายดีไหมเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ไม่มีวันมาถึง เป็นข้อคิดที่ดีมากๆเลยเจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะหลวงน้า...หนูจิ

P โก๊ะจิจัง แซ่เฮ~natadee ที่สุดในแก๊ง

 

  • สบายดีไหม ไม่สบายลำบาก
  • แต่ก็ต้องอดทนต้องสู้กับความรู้สึก
  • ที่ไม่ดีของตนเองหลายๆอย่าง
  • แต่หลวงน้าก็พยายามอยู่เรื่อยๆ
  • อนุโมทนาสาธุกับหลานจิที่มาเยี่ยม
  • ธรรมรักษา 

 

 

 

 

 

กราบนมัสการ ครับ

• อ่านแล้ว..เห็นดี เห็นงาม ว่า"ปัจจุบันขณะ" สำคัญยิ่ง ครับ

• ขอบคุณท่านที่ไปแสดงความเห้นที่บล็อก ครับผม

 

 

P

 

  • ธรรมสวัสดีโยม augustman
  • อนุโมทนาสาธุ
  • ธรรมรักษา

กราบนมัสการค่ะพระอาจารย์

เมื่ออ่านบทความของพระอาจารย์แล้ว ก็กลับมาดูตัวเอง

ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ หนู กับ แม่ และ พ่อ ใครจะไปก่อนกัน (นี่ยังไม่นับลูกหนูอีกคนนะคะ) หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่ามีความคิดอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

รู้แต่ว่า วันนี้ ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วอุทิศบุญให้ท่านได้ก็จะทำ เพราะหนูไม่มีเงิน หนูมีแต่แรง แม้จะเริ่มต้นได้ไม่นาน และหนูยังไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ก็อาศัยความเพียรเอา

สำหรับวันนี้ ก็คิดเข้าข้างตัวเอง ว่ามันก็ยังดี (ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรให้ท่านเลย) แต่วันพรุ่งนี้ อยากพาแม่ไปวัด เพราะวันนี้ยังทำไม่ได้ จึงได้แต่..หวัง..

หนูเคยเสียใจมากเพราะแม่ในวัยเด็ก แต่หนูคงเสียใจมากกว่านี้หาก พรุ่งนี้ ไม่มี

พวกท่านอยู่แล้ว

นมัสการค่ะ

มาอ่านพร้อมน้อมนำธรรมะที่ท่านให้ไว้

สาธุค่ะ

ธรรมสวีสดีโยมแอร์

เหตุแห่งการได้ปัญญายิ่งกว่าการฝึกตนไม่มี

เหตุแห่งการได้ทรัพย์ยิ่งกว่าความอดทนไม่มี

เมื่อคิดจะทำดีก็ขอให้เราลงมือเลย เริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ

ในชีวิตของเรา ใกล้ตัวเราก่อน เริ่มจากการถือศีลห้าให้ได้ตามกำลัง

ของเรา ลดละส่วนเกินที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ชีวิตเราลง

ฝึกกินมังสวิรัติ ในวันพระ วันเกิด ขยันทำงานที่มีประโยชน์

แม้จะมีค่าตอบแทนน้อย ลดการงานที่ผิดศีลธรรมลง

เริ่มได้ทุกวันเวลา..ขอเป็นกำลังใจให้..ธรรมรักษา

ธรรมสวัสดีโยมคนไม่มีราก

อนุโมทนากับโยมด้วยที่แวะมาอ่าน

โยมคงสบายดีนะ..ช่วงนี้อาตมากำลัง

มีงานอบรมต้นกล้าอาชีพ และยังจะมีต่อไปอีก

หลายรุ่น ธรรมรักษา

กราบนมัสการค่ะพระอาจารย์

หนู ชื่อเล่นว่าแอร์ค่ะ

     ขอบคุณพระอาจารย์ที่ให้ข้อคิดดีๆค่ะ หนูเริ่มถือศีล 5 ได้ไม่กี่เดือนค่ะ บางวันก็ยังทำได้ไม่ครบ ศีลข้อ 3 กับข้อ 5 ทำได้แน่นอนค่ะ จะมีติดบ้างก็ศีลข้อ 1 : ก็ลด ๆ การตีมดและยุงไปเยอะแล้วค่ะ เค้าก็ 1 ชีวิต เราก็ 1 ชีวิต บางทีก็ทำเป็นมองข้าม ๆ ไป ส่วนข้อ 2 หนูสงสัยว่า การหยิบวัสดุสำนักงาน เช่น กรรไกร ปากกา บนโต๊ะเพื่อนร่วมงานมาใช้ในขณะที่เขาไม่อยู่ แต่ใช้เสร็จก็คืน ไม่ได้ขโมย ถ้ารอเค้าจนเค้าเดินกลับมาได้ก็รอ แต่บางทีมันก็รีบใช้น่ะค่ะ ก็คิดว่าเราผิดศีลหรือเปล่า แล้วก็ข้อ 4 ค่ะ พยายามพูดให้น้อยลง รู้เรื่องใครมาก็พยายามไม่พูดต่อเพราะไม่รู้ว่าจริงหรือไม่  แต่ถ้าวันไหนรู้ตัวว่าทำผิด ก็จะจำเอาไว้ ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ขอพระอาจารย์ช่วยชี้ทางธรรมให้ด้วยค่ะ        

ฝึกกินมังสวิรัติ ในวันพระ วันเกิด ขยันทำงานที่มีประโยชน์ แม้จะมีค่าตอบแทนน้อย ลดการงานที่ผิดศีลธรรมลง

    หนจะลองปฏิบัติตามที่พระอาจารย์แนะนำค่ะ ตอนนี้หนูมีเงินเดือนน้อยมาก หายไปกว่าครึ่ง แต่หนูกลับมีความสุข ตั้งแต่หนูหันมาศึกษาธรรมะ นี่ล่ะค่ะ แค่เราทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกงใคร ใจก็เป็นสุขได้นะคะ

นมัสการพระคุณเจ้า

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ สำหรับบันทึกเตือนใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท