เคยได้ยินสัญญามากมาย ทั้งด้านการเงิน ด้านนิติกรรมต่าง ๆ เคยได้ยินสัญญาในครอบครัวบ้างไหมค่ะ บางคนเขาทำสัญญาก่อนแต่งงานก็มี แต่มาคราวนี้คุณแม่เริ่มเหนื่อยกับงานในบ้านบ้างแล้ว จึงเริ่มทำสัญญาบ้างค่ะ
เขาทำสัญญากันอย่างไร
1.ขั้นตอนแรกประชุมกันในครอบครัวกันก่อน พยายามประชุมแบบสร้างสรรค์ ไม่อย่างนั้น บรรดาสมาชิกต้องโวยวายกันแน่ พูดภาษาเชิงบวก หรือ positive thinking หรือภาษาดอกไม้ว่ากันอย่างนั้นค่ะ
2.ขั้นตอนที่สอง ถ้าต้องการให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงต้องขอให้พูดอย่างชัดเจน อย่าพูดคลุมเครือ เช่น "ก่อนลูกไปโรงเรียน อยากให้ลูกช่วยแม่หุงข้าว ทิ้งไว้ทุกเช้านะครับลูก" แทนคำว่า "ไม่เคยเห็นทำประโยชน์อะไรเลย ตื่นขึ้นมาก็ไปโรงเรียนแล้ว"
*อย่าพยายามให้ลูกเดาใจพ่อแม่ หรือพ่อแม่เดาใจลูก เพราะไม่มีใครที่จะอ่านความคิดของใครได้แม้จะอยู่ร่วมกันมานาน
3.เมื่อจะให้สิทธิพิเศษอย่างใดกับลูก ขอให้พูดอย่างละเอียด ในเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ต้องเป็นที่ตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย (พ่อแม่ลูก) รายละเอียดปลีกย่อยต้องพิจารณาดังนี้
- สำคัญ ไม่ใช่เรื่องปลีกย่อย
- เกี่ยวข้องกับลูก และมีความหมายกับเขา เช่นไปเที่ยวกับเพื่อน เป็นต้น การตกลงต้องไม่เป็นการสั่งการ แต่ต้องเกิดจากการปรึกษากัน เช่น จะยอมให้ไปเที่ยวกับเพื่อนได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ,กลับไม่เกินเท่าใด, สถานที่ไปท่านยอมหรือไม่ยอม
4.ให้กำลังใจเมื่อลูกทำความดี
5.ส่งเสริมกิจกรรมที่แสดงความร่วมมือกันในสมาชิกครอบครัว เช่น ปลูกต้นไม้ หรือทำอาหารกินในวันหยุดสุดสัปดาห์
6.เป็นตัวอย่างที่ดีในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แทนที่เรา จะบอกเขาอย่างเดียวในเรื่องนั้น ๆ แต่เรากลับทำตัวไม่เป็นแบบอย่าง เดี๋ยวเด็กเขาจะย้อนเรา.....อย่างนี้อายเด็กแย่เลย
7.ถ้าเขาทำตามข้อตกลงในสัญญา ท่านอาจจะมีการเสริมแรงให้เขาทั้งคำพูดและการกระทำ ถ้าไม่ทำตามสัญญา ก็ขอให้ทำตามข้อตกลงที่ประชุมกัน ว่าจะจัดการอย่างไร เช่น หากไม่หุงข้าวตามที่ตกลงว่า จะหักเงินค่าขนม 25 % และต้องทำตามสัญญานั้น ๆ แล้ว เพื่อ....ความขลัง
8.โปรดระวัง การชม ถ้าหากเขาทำตามสัญญาตามข้อตกลง ขอให้ชื่นชมอย่างจริงจัง อย่าใช้เป็นเครื่องมือต่อว่า เช่น ดีจังลูกทำการบ้านและอาบน้ำเสร็จ ทำไมลูกต้องให้แม่เตือนทุกวัน (อย่างนี้เขาเรียกว่าขัดแย้งกัน จะชมหรือจะด่าเนี่ยะ)
9.การทำข้อตกลงทุกเรื่อง ควรจะเน้นในหลักการอยู่ร่วมกันเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและการประนีประนอมเสมอ ไม่ควรตกลงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด "ได้" หรือ "เสีย"
10.การประชุมตกลงร่วมกันในระหว่างสมาชิกครอบครัว ไม่ควรนานเกินไป ระยะเวลา 30-45 นาที และไม่ควรทำบรรยากาศให้เคร่งเครียด เป็นที่หวาดระแวงของลูก ๆว่า "วันนี้จะโดนอย่างไร"
พ่อแม่ควรผ่อนคลาย ทำเหมือนเป็นกิจกรรมหนึ่งในครอบครัว ที่ต้องร่วมกันแก้ไขความขัดแย้งหรือไม่ลงรอยกัน และสร้างสรรค์ เพื่อเป้าหมายร่วมกัน คือ ความสุขในครอบครัวของเราเอง
---------- ส่วนหนึ่งจากบทความ ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์--------