"....ถ้าเป็นเก้าอี้ 3 ขาที่เราคุยกันในการฝึกอบรมผปค.นำร่อง จะหมายถึง IQ, EQ และ MQ ที่จะทำให้เด็ก (และเรา) เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้ อย่ามัวเล่นเรื่อง IQ พัฒนาสมองกันกระหน่ำ ปล่อยจินตนาการสุดเหวี่ยง อยากให้เด็กฉลาดสุดๆ จนลืมเรื่อง EQ ซึ่งเน้นเรื่อง self-esteem การรอคอย การจัดการความผิดหวัง ความมุ่งมั่นเอาจริง พลาดแล้วแก้ไข ล้มแล้วลุกขึ้นได้ ฯลฯ และเรื่องที่สำคัญสำหรับการอยู่ร่วมในสังคมคือ MQ ต้องมีจริยธรรม คุณธรรมกำกับการกระทำด้วย ไม่อย่างนั้น เราอาจจะมีหมอหั่นศพ นักการเมืองโกงชาติ คนผลิตนมผสมเมลามีน ฯลฯ อีกเยอะแยะ.....
.....อาจารย์หม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยาย้ำหลายครั้งว่า ความคิดสร้างสรรค์ต้องเกิดขึ้นพร้อมกับความมุ่งมั่นทำให้เป็นรูปธรรมจนเสร็จ และคุณธรรมมากำกับว่า สิ่งที่ฉันทำไม่ก่อโทษกับตนเองและคนอื่น และเป็นกุศล (เป็นประโยชน์) และเมื่อต้องทำงานเป็นทีมก็ยอมรับความแตกต่างและให้โอกาสตนเองที่จะมีความสุขกับผู้คนที่แตกต่าง.....
แต่ครูต้องมีกระบวนการในห้องเรียนที่ช่วยให้เด็กเห็นสาระที่แท้จริงของเรื่องที่เรียน (จะเรียนไปทำไม จะทำไปทำไม) เมื่อก้าวข้ามคำถามแบบนี้แล้ว เราจะได้เด็กที่ทำเพราะเห็นความสำคัญของสิ่งที่ครูอยากให้ทำ และจะทำด้วยความเต็มใจ (ไม่ใช่เพราะไม่เสร็จไม่ได้กลับบ้าน หรือ ทำให้เสร็จๆ ไป ลอกเพื่อนก็เอา) จากนั้นก็เป็นกระบวนการฝึกเรื่องความเอาจริงเอาจัง การแข่งขันแบบที่ให้โอกาสทุกคนชนะ (แข่งกับตัวเอง) และให้เห็นว่า โลกนี้กว้างใหญ่นัก อนาคตก็อีกไม่ไกล วัยเด็กเป็นวัยฝึกตนให้พร้อมจะใช้ชีวิตในโลกกว้าง ดังนั้นเด็กต้องการกำลังใจมากๆ ในการ "ล้มแล้วลุกได้ เอาชนะความอ่อนแอของตัวเอง" เราจึงเล่นเรื่องการสังเกตส่วนดี แล้วชื่นชมเขา (สร้างความสัมพันธ์ที่ดีก่อน) ที่ความพยายาม ความกระตือรือร้น ฯลฯ...."
ข้างบนนี้เป็นข้อคิดดีๆ จาก ดร.บงกช เศวตามร์ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ครูอ้อยคะ ขอบคุณค่ะ
ครูอ้อยกลับมาอ่านอีก เพราะบันทึกนี้ มีสิ่งที่ตรงใจ ดลใจ ให้ครูอ้อยมากเลยค่ะ...
ความจริงยังไม่ได้อ่านหรอกค่ะ
แต่ครูอ้อย(ใครก็ไม่รู้)
บอกว่าบันทึกนี้ดี
...งั้นบอกว่า ดี ด้วยก็ได้ค่ะ