คลินิกกฎหมายชาวบ้านแม่อาย
คลินิกกฎหมายชาวบ้านแม่อาย ด้านสถานะและสิทธิของบุคคล

ความสับสนเรื่องแรงงานต่างด้าวในพื้นที่แม่อาย


บุญคิดตอนแรกว่าห้องเรียนที่ 5  เป็นห้องเรียนที่หาคนง่ายที่สุดเพราะแม่อายมีคนถือบัตรเลขศูนย์สองตัว

เยอะมากพอลงไปเก็บมาให้เตือนดู แล้วกลับไม่ใช่แต่บุญ ก็จะ พยายาม หาค่ะแต่ยอมรับว่าสับสนเรื่องเลข

ศูนย์สองตัวมาก บางครอบครัวมีเลขศูนย์ทั้งหมดแต่เข้ามาอยู่นานญาติพี่น้องมีบัตรสี    บางครอบครัวถูก

สำรวจ ครั้งแรกพ่อแม่  มีเลขศูนย์สองตัวต่อมาได้ไปเปลี่ยนกลับได้ศูนย์ตัวเดียวแต่ลูกก็ยังถือเลขศูนย์สอง

ตัว เด็ก ที่เตรียมเข้าห้องเรียน 10 คนไม่เข้าเกณฑ์ ต้องพาเตือนลงไปดูในไร่ติดกับไร่ของบุญไปหามาได้

อีกสองคนบุญต้องไปนั่งกรอกข้อมูลอยู่กลางไร่คนงานก็ทำงานอยู่นายจ้างก้ยืนคุมอยู่

บุญ  เขียน

คำสำคัญ (Tags): #แรงงานต่างด้าว
หมายเลขบันทึก: 215781เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2008 15:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 10:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

พี่บุญเขียนเองเลยนะเนี่ยยย..

เป็นความอัดอั้นตันใจในความสับสนเรื่องนักเรียนห้อง 5 ของอาจารย์แหววนั่นแหละค่ะ

ลงพื้นที่ครั้งนี้มีอะไรมากมาย.. ขำสุดๆๆๆ

อืมมม..สอนพี่ๆ เขียนแต่ตัวเองยังบ่มีเวลาเขียนเลยย

(น่าอายชะมัด..)

เดี๋ยวจะเขียนแล้วค่ะ.. ขอเดินทางกลับกทม. ก่อนเนอะ

ว้าว อยากอ่านต่ออีกนะพี่บุญ ว่าจะเป็นอย่างไงต่อ

แล้วตอนนี้เด็กห้องห้า เป็นยังไงบ้าง ได้กี่คนแล้ว พี่บุญเขียนอีกนะ

บุญคะ

ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะมีปัญหา

เราจึงต้องมาสร้างห้องเรียนสอนเขาไงคะ

บุญและคณะมีหน้าที่เล่า "ข้อเท็จจริง" ก็เล่ามา

เดี๋ยวทีมแก้ไขปัญหา ก็จะมาทำงานต่อค่ะ

อ.แหวว

มีชาวบ้านมาถามอยากเข้าห้องเรียนแต่ไม่รู้หนังสือเจ้าตัวถือบัตรแรงงานต่างด้าวและมีบัตรประชาชน

ของพม่าส่วนสามีถือบัตรต่างด้าวถาวรกรณีแบบนี้เข้าไปห้องเรียนที่ 5ได้ไหม

ตอนนี้คนที่จะเรียนห้องเรียนที่ ห้า มี 6 คน ไม่ใช่เด็กส่วนมากเป็นผู้ใหญ่ไม่รู้หนังสือภาษาต้องใช้ล่าม

บางคนติดงานกับนายจ้างอาจารย์ต้องเข้าไปดูชาวบ้านถึงในไร่แล้วหละ

ในพื้นที่ของอำเภอแม่อายมีหลากหลายเผ่าพันธุ์ได้สัญชาติไทยก็ไม่เหมือนกันบางคนเพิ่มชื่อตาม

ระเบียบ35บางคนเป็นชาวเขาได้ตามระเบีบ43บางคนได้ตามมาตรา23บางคนพ่อแม่มีสัญชาติไทยลูก

ยังไม่ได้บางคนพ่อแม่ตายลูกอยู่กับญาติบางคนอยู่กับคนอื่นต้องหาพยานกันให้วุ่นไปหมดบางทีไม่มี

ญาติมารับรองเป็นพยานให้คนไหนที่ได้ก็ยิ้มไปคนไหนที่ไม่ผ่านก็เป็นทุกข์บางคนก็เอาความทุกข์มาให้

คลินิกกฏหมายช่วยแก้ปัญหา

เรามารวบรวมกันดูว่า เขามีปัญหาอะไรกันหนักหนา

บันทึก ทางนิติกรบอกให้ทางคลินิกกฎหมาย ประสานงานกับ นางยุพิน ให้ไปสอบที่อำเภอ บุญเป็นคนประสานงานให้ ไปบอกแม่ของนางยุพิน ว่าทางอำเภอเรียกไปสอบ แม่ของนางยุพินว่า แล้วลูกอีกคน ชึ่งเป็นพี่สาว ของนางยุพิน จะให้ทำยังไง บุญบอกไม่น่าจะเอาไปด้วยนะเพราะพี่ของยุพินไม่มีหลักฐานอะไร เลยแล้วบุญก็กลับพอใกล้ ถึงวันที่นางยุพิน จะไปสอบที่อำเภอแม่ของนางยุพิน ก็ไปหาบุญที่บ้านอีก ถามอีกว่าจะไปบอกยังไงกับอำเภอดี บอกว่าพี่สาวของ นางยุพิน สุญหายดีไหม บุญพยามที่จะอธิบายแต่แม่ของนาง ยุพิน ก็บอกว่าลูกฉันจะเอาไปทิ้งที่ไหน บุญก็เลยบอกว่าตามใจอยากเอาไปก็ตามใจ เกิดอะไรขึ้นอย่ามาโทษกันก็แล้วกัน พอไปสอบที่อำเภอเสร็จทางอำเภอเลยให้ไปตรวจดีเอ็นเอทั้งสามแม่ลูก

วัน.4 เดือน กันยายน..พ.ศ.2551

บันทึก บุญไป.อำเภอ.แม่อายเข้าไปหานิติกรที่ชื่อนายเจริญ..เจริญบอกว่าพี่.บุญเราไม่ต้องทำกรณีของ นาง ยุพิน กับพี่สาวและพ่วงหลานอีก 6 คน จะได้ไหม บุญถามทำไมเจริญบอก.ว่าทั้งครอบครัวเกิดที่สบยอนหมดไม่น่าเชือว่าจะเป็นคนมีสัญชาติไmp

วันที่ 29 ตุลาคมพ.ศ.2 551 ทนายตีนเปล่าพาแม่ (เป็นคนใน1243) ของ นาง ยุพินไปตามเรื่อง ลูกๆที่ยังไม่ได้เพิ่มชื่อไป ตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว ไม่ได้ถูกคัดออกจากความเป็นแม่ลูก ปลัดสุรพล บอกกรณีของยุพิน ยังไม่ได้ เสนอนายอำเภอ ถามว่านางคำมีหลานใช่ไหมนางคำบอกว่ามี 5 คนปลัดถามคนที่เป็นวัยรุ่นมีไหมนางคำตอบมีแต่มีภรรยาแล้วหลานเรากินเหล้ากินยาทะเลาะวิวาด ลักเล็กขโมยมีไหม นางคำบอกไม่มี แล้วลูกคนโตของนางคำมีสามีเป็นทหารใช่ไหม นางคำตอบไม่ใช่ และลูกของนางคำมีบัตรประชาชนพม่าด้วยใช่ไหมนางคำบอกว่าอยู่ในหมู่บ้านก็ต้องมีชื่ออยู่ในหมู่บ้าน ปลัดอยากเจอหลานของนางคำบุญถามทำไมต้องเจอขั้นตอนนี้ยังเป็นของแม่อยู่ปลัดบอกอยากจะปรามเด็ก นางคำจึงเรียกหลานมาให้ ปลัดก็ปรามเด็กว่าเรากินเหล้าไหมเด็กตอบกิน เสพยาไหม เด็กตอบไม่ เคยทะเลาะกันผู้ใหญ่บ้านมาห้ามไหม เด็กตอบมีครั้งเดียว ปลัดบอกว่าต่อไปนี้อย่าทำอีก ถ้าแม่เราได้สัญชาติไทยแล้ว ลูกต้องได้ ถ้าทำตัวไม่ดีจะไม่ได้สัญชาติ บอกไม่ใช่อะไรหรอกที่ยังไม่ได้เสนอนายอำเภอเพราะ ผู้ใหญ่ ศิวกร บ้านร่มไทย เขาบอกให้ปลัดสุรพล ว่าถ้าทางอำเภอ อนุมัติ ลูกๆของนางคำ อีกหน่อยลูกของนางคำก็จะยื่นให้หลานอีก หลานได้ก็จะเป็นภัยความมั่นคง ทางที่ดีให้ บุญเซ็นรับรองอีกคน บุญบอกคลินิกกฎหมาย ไม่มีหน้าที่ตรงนี้ มีหน้าที่ประสานงานระหว่างชาวบ้านกับอำเภอ คลินิกกฎหมายทำตามกฎหมาย ผู้ใหญ่บ้านพูดแบบนี้ ปลัด เชื่อได้อย่างไรผู้ใหญ่บ้านมีอะไรอยู่ในใจหรือเปล่า ตอนนี้ก็มีเรืองกับชาวบ้าน ปลัดไม่รู้หรือ ปลัดบอกถ้าเป็นเรืองนี้ทำไมไม่ไล่ออกไป ก็แกไม่ยอมออก อีกอย่างตอนที่มาเซ็นรับรอง นางคำไปเรียกแล้วผู้ใหญ่ ศิวกรไม่มาจึงให้ไปตามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาแทน ปลัดก็รับคำขอของผู้ใหญ่ ศิวกร มาขอให้บุญเซ็นบุญไม่เซ็นติดขัดตรงไหนขอทำหนังสือชี้แจงปลัดก็บอกว่าตอนบ่ายจะติดต่อไปที่ผู้ใหญ่ ศิวกรอีกทีต่อมาเมื่อวัน29ตุลาคม2551ปลัดสุรพลก็ย้ายไปอยู่ฮอดทางคลินิกกฏหมายก็ไม่ได้ตามอีก

วันที่ 3 ตุลาคมพ.ศ.2551 ทนายตีนเปล่าไปส่งชาวเขา3ครอบครัวว่าทางอำเภอจะรับคำร้องไหม

เพราะปลัดฝ่ายทะเบียนย้ายไปแล้วไปดูว่ามีปลัดคนไหนมาแทน สรุปมีปลัดใหม่มาแทนและรับคำร้อง

เหมือนเดิมแต่ปลัดก็บอกว่าขอเคลียเรื่องเก่าที่ค้างก่อนได้ไหม อีกอย่างยังไม่รู้แนวทางปลัดอาวุโสจะ

เอายังไงส่วนคนที่มาวันนี้จะให้ใบนัดก่อนปลัดก็ให้เจริญชึ่งเป็นนิติกรออกใบนัดให้ชาวบ้านต่อจากนั้น

ทนายตีนเปล่าก็ไปถามหาคำร้องของนางยุพินที่เจ้าหน้าที่ชื่อนางรัตนว่าคำร้องยุพินเอาไปเสนอนาย

อำเภอหรือยังนางรัตนบอกยังนางรัตรยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่บ้านนายศิวกรเลยพอดีผู้ใหญ่ศิวกรนั่งอยู่ตรง

หน้าทนายตีนเปล่าพูดเสียงดังให้ได้ยินทั้งห้องทะเบียนว่านี้ใหญ่คลินิกกฏหมายไม่มีหน้าที่จะเซ็นรับรอง

แต่มีหน้าที่ประสานงานระหว่างชาวบ้านกับอำเภอแล้วผู้ใหญ่ศิวกรบอกว่มีคนบอกว่าพี่ของนางยุพินมีบัตร

ประชาชนพ่มามีสามีเป็นทหารและลูกกินเหล้าเป็นคนขี่ขโมยทนายตีนเปล่าตอบถ้าผู้ใหญ่มีข้ออ้างแบบ

นี้ไม่ใช่ขั้นตอนนี้ยังอยู่ทีแม่ยังไม่ถึงลูกจากนั้นเจ้าหน้าที่บอกพี่บุญเอาไปคุยกับปลัดดูรัตนเป็นแค่เจ้า

หน้าที่ทนายตีนเปล่าก็เอาคำไปให้ปลัดและอธิบายผู้ใหญ่ก็ตามถ้าทางคิลนิกกฏหมายไม่เซ็นเขาเซ้นคน

เดียวก็ตายถ้ามีคนฟ้องพี่บุญก็รอด ทนายตีนเปล่าจึงบอกทั้งปลัดและผู้ใหญ่บ้านว่าคลินิกทำตาม

กฏหมายแม่เป็นคนใน1243 มีคำพิพากษาของศาลและแม่มีบัตรประชาชน ลูกเกิดที่ไหนได้สัญชาติ

ไทย ปลัดว่าจะเอายังไงดีทนายตีนเปล่า

บอกว่าปลัดมาใหม่ปลัดเอาไปดูก่อนถ้าจะเอาตามผู้ใหญ่บ้านบอกก็ทำหนังสือชี้แจงมาปลัดก็ตกลงปลัด

ตรวจแล้วบอกว่าปลัดคนเก่าเซ็นหมดแล้วนี่ติดขัดตรงไหนทนายตอบวันที่มาเซ้นเป็นผู้ใหญ่คงไม่มี

ปัญหาเจ้าของปัญหาตามถึงที่บ้านผู้ใหญ่ไม่ยอมมารับรองให้

วันที่16พฤศจิกายนพ.ศ.2551ทางคลินิกกฏหมายชาวบ้านด้านสถานะและสิทธิบุคคลได้เปิดห้องเรียน

การจัดการปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลของคนไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทยมีเด็ก50คนตอนเช้าเด็กๆ

นั่งฟังพระมหานิคมเทศเป็นคำสอนและฟังท่านเล่าถึงชีวิตของแม่ที่มีบัตรประชาชนพอไปทำงานในพื้นที

สับช้อนเรียกว่าสบยอนพอกลับเข้ามาทางกรมการปกครองก็ให้ไปทำบัตรผู้ผลัดถิ่นสัญชาติพม่าคือมี

บัตรสองใบท่านก็ต่อสู้จนได้ไปถวายฎีกาข่วงต่อนี้มีคนเล่าถึงคน1243ขอทำบัตรประชาชนต่อมาถูก

ถอนชื่อออกจากทะเบียนราษฎรเล่าถึงความรู้สึกและการต่อสู้ช่วงที่ต่อสู้มีผู้ใหญ่หลายคนลงมาช่วยจนถึง

ขบวนการฟ้องศาลปกครองตอนบ่ายมีผู้พิพากษามาให้ความรู้เกี่ยวกับความยุติธรรมและแบ่งห้องเรียนให้

เด็กๆรู้จักครูประจำชั้น ความรู้สึกของเด็กห้องที่5บอกว่าตอนแรกๆไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนจึงเล่าถึง

ชีวิตของตัวเอง มาเข้าใจตอนบ่ายช่วงที่ผู้พิพากษามาให้ความรู้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท