บุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายทั้งในโลกนี้และโลกหน้า


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย…

ข้าวเปลือก ทรัพย์ เงินทอง หรือของที่บุคคลหวงแหนอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมทั้งทาษ กรรมกร คนใช้ และที่อยู่อาศัย สิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดนี้ บุคคลนำไปไม่ได้ ต้องทอดทิ้งไว้ทั้งหมด

แต่สิ่งที่บุคคลทำด้วยกาย วาจา หรือด้วยใจ นั่นแหละที่จะเป็นของเค้า เป็นสิ่งที่เค้าต้องนำไปเหมือนเงาตามตัว เพราะฉะนั้นผู้ฉลาดพึงสั่งสมกัลยาณกรรมอันจะนำติดตัวไปสู่สัมปรายภพได้

บุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย ทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า...

 

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
เมื่อไฟไหม้บ้าน ภาชนะเครื่องใช้อันใดที่เจ้าของนำออกไปได้ ของนั้นก็เป็นประโยชน์แก่เจ้าของ ที่นำไม่ได้ก็ถูกไฟไหม้วอดวายอยู่ ณ ที่นั้นเอง

ฉันใด
คนในโลกนี้ ถูกไฟ คือ ความแก่ ความตายไหม้อยู่ก็ฉันนั้น คนผู้ฉลาดย่อมนำของออกด้วยการให้ทาน ของที่บุคคลให้แล้วชื่อว่านำออกดีแล้ว มีความสุขเป็นผล

ส่วนของที่ยังไม่ได้ให้ หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่โจรอาจขโมยเสียบ้าง ไฟอาจจะไหม้เสียบ้าง
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อความตายมาถึงเข้า บุคคลย่อมละทรัพย์สมบัติและแม้สรีระของตนไว้ นำไปไม่ได้เลย


 
ผู้มีปัญญารู้ความจริงข้อดีแล้ว พึงบริโภคใช้สอย พึงให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น

 เมื่อได้ให้ ได้บริโภคตามสมควรแล้ว เป็นผู้ไม่ถูกติเตียน ย่อมเข้าสู่ฐานะอันประเสริฐ

 

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
ความตระหนี่ลาภ เป็นความโง่เขลา เหมือนชาวนาที่ตระหนี่ ไม่ยอมหว่านพันธุ์ข้าวลงในนา เขาเก็บพันธุ์ข้าวเปลือกไว้จนเน่า และเสีย ไม่สามารถจะปลูกได้อีก

ข้าวเปลือกที่หว่านลงแล้วหนึ่งเมล็ดย่อมให้ผลหนึ่งรวงฉันใด
ทานที่บุคคลทำแล้ว ก็ฉันนั้น ย่อมมีผลมาก ผลไพศาล

การรวบรวมทรัพย์ไว้โดยมิได้ใช้สอยให้เป็นประโยชน์ ทรัพย์นั้นจะมีคุณแก่ตนได้อย่างไร
เหมือนผู้มีเครื่องประดับอันวิจิตรตระการตา แต่หาได้ประดับไม่
เครื่องประดับนั้นจะมีประโยชน์อะไร รังแต่จะก่อความหนักใจในการเก็บรักษา

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
นกชื่อ มาหะกะ ชอบเที่ยวไปตามซอกเขาและที่ต่าง ๆ มาจับต้นเลียบที่มีผลสุก แล้วร้องว่า “ของกู ของกู”
ในขณะที่มันร้องอยู่นั่นเอง หมู่นกเหล่าอื่นที่บินมากินผลเลียบตามต้องการแล้วจากไป
นกมาหะกะ ก็ยังคงร้องว่า “ของกู ของกู” อยู่นั่นเอง

ข้อนี้ฉันใด บุคคลบางคนในโลกนี้ก็ฉันนั้น
รวบรวมสะสมทรัพย์ไว้มากมายแต่ไม่สงเคราะห์ญาติตามที่ควร ทั้งมิได้ใช้สอยเองให้ผาสุข มัวแต่เฝ้ารักษาและภูมิใจว่า “ของเรามี ของเรามี” ดังนี้

เมื่อเขาประพฤติอยู่เช่นนี้ ทรัพย์สมบัติ ย่อมเสียหายไป ทรุดโทรมไป ด้วยเหตุต่าง ๆ มากหลาย
เขาก็คงคร่ำครวญอยู่เช่นเดิมนั่นเอง และต้องเสียใจในของที่เสียไปแล้ว

เพราะฉะนั้น ผู้ฉลาดหาทรัพย์ได้แล้ว พึงสงเคราะห์คนที่ควรสงเคราะห์ มีญาติเป็นต้น

 

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
ทรัพย์ของคนไม่ดีนั้น ไม่สู้อำนวยประโยชน์แก่ใคร เหมือนสระโบกขรณีอันตั้งอยู่ในที่ไม่มีมนุษย์
แม้จะใสสะอาด จืดสนิท เย็นดี มีท่าลงสะดวก น่ารื่นรมย์ แต่มหาชน ก็หาได้ดื่ม อาบ หรือใช้สอยตามต้องการไม่ น้ำนั้นมีอยู่อย่างไร้ประโยชน์
ทรัพย์ของคนตระหนี่ก็ฉันนั้น ไม่อำนวยประโยชน์สุขแก่ใคร ๆ เลย รวมทั้งตัวเขาเองด้วย

ส่วนคนดีเมื่อมีทรัพย์แล้วย่อมบำรุงบิดา มารดา บุตร ภรรยา บ่าวไพรให้เป็นสุข
บำรุงสมณะ พรหมจารย์ ให้เป็นสุข


เปรียบเสมือนสระโบกขรณีอันอยู่ไม่ไกลจากบ้านหรือนิคม มีท่าลงเรียบร้อย สะอาดเยือกเย็น น่ารื่นรมย์ มหาชนย่อมได้อาศัย นำไปอาบ ดื่ม และใช้สอยตามต้องการ
โภคทรัพย์ของคนดีย่อมเป็นเช่นนี้หาอยู่โดยเปล่าประโยชน์ไม่...

 

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
นักกายกรรมผู้มีกำลังกาย คือ นักมวยปล้ำ ผู้มีกำลังมหาศาลนั้น ก่อนที่จะได้กำลังมา เขาก็ต้องออกกำลังไปก่อน การเสียสละนั้น คือการได้มาซึ่งผลอันเลิศในบั้นปลาย “ผู้ไม่ยอมเสียสละ ย่อมไม่ได้อะไร”
 จงดูเถิด มนุษย์ทั้งหลาย รดน้ำต้นไม้ที่โคน แต่ต้นไม้นั้น ย่อมให้ผลที่ปลาย

 

เธอทั้งหลายจงพิจารณาดูความจริงตามธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งเถิด...
คือ แม่น้ำสายใดเป็นแม่น้ำตาย ไม่ไหล ไม่ถ่ายเทไปสู่ที่อื่น หยุดนิ่ง ขังอยู่ที่เดียว แม่น้ำสายนั้น ย่อมพลันตื้นเขิน และสกปรก เน่าเหม็น เพราะสิ่งสกปรกลงมามิได้ถ่ายเท
นอกจากนี้ บริเวณที่ใกล้แม่น้ำสายนั้น จะหาพืชพรรณธัญญาหารที่เขียวสดก็หายาก

 

 

แต่แม่น้ำสายใด ไหลเอื่อยลงสู่ทะเล หรือแตกสาขาออกไป ไหลเรื่อยไป ไม่รู้จักหมดสิ้น คนทั้งหลายได้อาศัยอาบ
ดื่ม และใช้สอยตามปรารถนา มันจะใสสะอาดอยู่เสมอ ไม่มีวันเหม็นเน่าหรือสกปรกได้เลย พืชพรรณธัญญาหาร ณ บริเวณใกล้เคียง ก็เขียวสด สวยงาม

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย…
บุคคลผู้ตระหนี่ เมื่อได้ทรัพย์แล้วก็เก็บตุนไว้ ไม่ถ่ายเทให้ผู้อื่นบ้าง ก็เหมือนแม่น้ำตาย ไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใคร
ส่วนผู้ไม่ตระหนี่ เป็นเหมือนแม่น้ำที่ไหลเอื่อยอยู่เสมอ กระแสน้ำก็ไม่ขาด ทั้งยังเป็นประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งหลาย
เพราะฉะนั้น สาธุชนได้ทรัพย์แล้ว พึงบำเพ็ญตนเสมือนแม่น้ำซึ่งไหลใสสะอาด ไม่พึงเป็นเช่นแม่น้ำตาย

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
อายะ สัมปะทา คือ ทาน จะมีผลมาก อานิสงส์ไพศาล ถ้าประกอบด้วยองค์หก กล่าวคือ
หนึ่ง ก่อนให้ ผู้ให้ก็มีใจผ่องใสชื่นบาน
สอง เมื่อกำลังให้ จิตใจก็ผ่องใส
สาม เมื่อให้แล้ว ก็มีความยินดี ไม่เสียดาย
สี่ ผู้รับ เป็นผู้ปราศจากราคะ หรือปฏิบัติเพื่อปราศจากราคะ
ห้า ผู้รับ เป็นผู้ปราศจากโทสะ หรือปฏิบัติเพื่อปราศจากโทสะ
หก ผู้รับ เป็นผู้ปราศจากโมหะ หรือปฏิบัติเพื่อปราศจากโมหะ

ภิกษุทั้งหลาย ท่านที่ประกอบด้วยองค์หกนี้แล เป็นการยากที่จะกำหนดผลแห่งบุญว่า มีประมาณเท่านั้น เท่านี้
อันที่จริงเป็นกองบุญใหญ่ที่นับไม่ได้ ไม่มีประมาณ เหลือที่จะกำหนด
เหมือนน้ำในมหาสมุทรย่อมกำหนดได้โดยยาก ว่ามีประมาณเท่านั้น เท่านี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย…
คราวหนึ่ง พระเจ้าประเสนธิโกศล ราชาแห่งแคว้นนี้ เข้าไปหาตถาคตแล้วถามว่า “บุคคลควรจะให้ทานในที่ใด...?
เราตอบว่า “ควรให้ในที่ที่เลื่อมใส” คือ เลื่อมใสบุคคลใด คณะใด ควรให้แก่บุคคลนั้น ในคณะนั้น

พระองค์ถามต่อไปว่า “ให้ทานในที่ใดจึงจะมีผลมาก...?”
เราตถาคตตอบว่า ถ้าต้องการผลมากแล้วละก็ “ควรจะให้ทานในท่านผู้มีศีล”
การให้แก่บุคคลผู้ทุศีลหามีผลมากอย่างนั้นไม่

สถานที่ทำบุญเปรียบเสมือนเนื้อนา เจตจาและทัยทานของทายก เปรียบเสมือนเมล็ดพืช


ถ้าเนื้อนาดี คือ บุคคลผู้รับเป็นคนดี มีศีลธรรม และประกอบด้วยเมล็ดพืช คือเจตนา และทัยทานของทายก “บริสุทธิ์” ทานนั้นย่อมมีผลมาก

 

การหว่านข้าวลงในนาที่เต็มไปด้วยหญ้าแฝกและหญ้าคา ต้นข้าวย่อมขึ้นได้โดยยากฉันใด
การทำบุญในคณะบุคคลผู้มีศีลน้อย มีธรรมน้อย ก็ฉันนั้น คือย่อมได้บุญน้อย

ส่วนการทำบุญในคณะบุคคลซึ่งมีศีลดี มีธรรมงาม ย่อมจะมีผลมาก เป็นภาวะอันตรงกันข้ามอยู่ดังนี้
เพราะฉะนั้นบุคคลไม่ควรประมาทว่า “บุญหรือบาปเพียงเล็กน้อยจะไม่ให้ผล”
 
หยาดน้ำที่ไหลลงทีละหยด ยังทำให้แม่น้ำเต็มได้ ฉันใด
การสั่งสมบุญหรือบาปแม้ที่จะน้อยก็ฉันนั้น
ผู้สั่งสมย่อมเปี่ยมล้นไปด้วยบุญ ผู้สั่งสมบาปย่อมเพียบแป้ไปด้วยบาป...

 

 

(พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน...)

หมายเลขบันทึก: 215641เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2008 22:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อ่านไว้เตือนสติตัวเองดีจังเลยครับ ขอบคุณ

ธนิตย์ สุวรรณเจริญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท