สัญชาตญาณแมงป่อง


ไหนแกรับปากว่าจะไม่ต่อยฉัน แล้วนี่แกทำอะไรลงไป

ปุจฉา

สัญชาตญาณแมงป่อง

ในที่ทำงานของผมมีคนอยู่ประเภทหนึ่งครับ วันๆ งานการไม่ค่อยทำ เอาแต่จ้องหาเหตุจับผิดคนโน้นคนนี้ ความดีของคนอื่นไม่เคยสนใจ แต่ถ้าใครทำอะไรเสียหายสักนิดหนึ่งละก็ คนๆ นี้ชอบนัก   ผมอิดหนาระอาใจกับคนประเภทนี้มาก อยากจะไปเสียให้พ้นๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะสมัยนี้ คิดจะเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเลยอยากรู้ว่า คนบางคนที่วันๆ เอาแต่จ้องหาเรื่องเล่นงานคนอื่นนั้น เขาเป็นคนประเภทไหน จะรับมือเขาได้อย่างไรครับ



ปรเมษฐ์/ภูเก็ต
วิสัชนา


เร็วๆ นี้มีลูกศิษย์คนหนึ่งมาเล่านิทานให้ผู้เขียนฟัง   พอได้ฟังแล้วก็ทำให้เกิดความสว่างโพลงในหัวใจได้ไม่น้อย   คุณน่าจะได้ฟังนิทานเรื่องนี้ดู บางทีอาจจะทำให้หายข้องใจได้บ้างว่า คนบางคนนั้น เขามี ' ธาตุแท้ ' ของเขามาอย่างนั้นเอง  
                นิทานนั้นมีอยู่ว่า
                มีอยู่วันหนึ่ง   เจ้าแมงป่องตัวหนึ่ง ไต่ไปมาตามริมฝั่งน้ำจนเซ็งชีวิต &nbs! p; เลยเกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าได้ข้ามน้ำไปยังฝั่งโน้น คงมีอะไรให้ทำมากกว่าการไต่ไปมาอยู่ที่เดิมอย่างซ้ำซากเป็นแน่    มันมองหาวิธีที่จะข้ามน้ำไปยังฝั่งโน้นอยู่หลายวัน และในที่สุด โอกาสก็มาถึงจนได้ เมื่อมันพบกบตัวหนึ่งกำลังจะว่ายข้ามน้ำไปยังฝั่งตรงข้ามพอดี เจ้าแมงป่องเห็นเช่นนั้น จึงขอเป็นผู้โดยสารขี่หลังกบไปชมวิวฝั่งโน้นบ้าง   กบนึกสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงถามว่า
                ' แมงป่องเพื่อนรัก   เธอจะรับประกันได้อย่างไรละว่า เมื่อฉันให้เธอขี่หลังข้ามไปฝั่งโน้นแล้ว เธอจะไม่แว้งมาต่อยฉัน '
                ' กบเพื่อนรัก   ทำไมจึงมองฉันในแง่ร้าย! เช่นนั้น   ถ้าคนอย่างฉันไม่มีคุณธรรมต่อเพื่อ นเช่นเธอเสียแล้ว ในโลกนี้ คงหาคนดีไม่ได้อีกแล้ว '
                ' มั่นใจนะว่าเธอจะไม่ต่อยฉันกลางแม่น้ำแน่ๆ ' กบคาดคั้น
                ' โธ่เพื่อนเอ๋ย - - ถ้าฉันต่อยเธอ   ฉันก็จมไปพร้อมๆ กับเธอนะสิ ' แมงป่องอธิบายอย่างสมเหตุสมผล
                ' เออ   จริงของเธอสินะ   มาสิ   ถ้างั้นเธอขึ้นขี่หลังฉันได้เลย เราจะข้ามไปฝั่งโน้นด้วยกัน '
!
                ว่าแล้ว เจ้าแมงป่องก็ได้ขี่หลังกบสมใจ   กบน้อยพาเพื่อนร่วมทางลอยไปสักพักหนึ่งก็จะถึงฝั่ง พอเห็นฝั่งเคลื่อนตัวมาใกล้ทุกที เหลืออีกเพียงศอกเดียวเท่านั้นก็จะถึงฝั่ง แมงป่องก็เผลอตัวต่อยหลังกบเข้าอย่างถนัดถนี่   กบร้องด้วยความเจ็บปวดขึ้นสุดเสียง พอรู้สึกตัว   กบก็หันมาถามแมงป่องว่า
                ' ไหนแกรับปากว่าจะไม่ต่อยฉัน   แล้วนี่แกทำอะไรลงไป '
                ' ไม่รู้สิ   ฉัน! ไม่ได้คิดจะต่อยเธอเลย   แต่มารู้สึกตัวอีกที< /SPAN>   ฉันก็ต่อยเธอไปแล้ว ' แมงป่องตอบอย่างเสียไม่ได้ไม่ยี่หระกับสิ่งที่ตนทำแม้สักนิด
                อนิจจา   กบน้อยพอลอยแตะฝั่ง ก็ถึงแก่กรรมไป ส่วนแมงป่อง ก็ขึ้นฝั่งอย่างสบายใจ ดูไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรกับสิ่งที่ตนเป็นคนก่อแม้แต่น้อย... '
                ทันทีที่ฟังนิทานเรื่องนี้จบ   ผู้เขียนนึกถึงคำๆ หนึ่งขึ้นมาทันที นั่นคือคำว่า
            ' สันดาน '
                ขออภัย หากคำนี้เป็นคำไม่สุภาพ   แต่ผู้เขียนรู้สึกว่า ในโลกนี้ มีคนบางประเภทจริงๆ ที่เกิดมาแล้วทำตัวเป็น ' อันธพาล ' โดยสายเลือด โดยความเคยชิน จนเป็นนิสัย
                เราไม่ทราบว่า คนที่รู้สึกมีความสุขเสมอ กับการได้ทำร้ายคนอื่นทั้งโดยตรงและโดยอ้อมนั้น เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างไร ได้รับการศึกษามาอย่างไร แต่พอมาเจอกับเรา เขาก็ได้กลายเป็นคนที่มีความสุขกับการเป็นคนเลวไปเสียแล้ว
                สำหรับคนประเภทนี้   คุณคงไม่ต้องไปทำร้าย หรือตอบโต้เขาอีกแล้! ว การที่เขาเป็นคนเช่นนั้น นับว่าเป็นเคราะห์กรรมของเขามากพออยู่แล้ว เพร าะทั้งชีวิตนี้   คนเช่นนี้จะไม่ได้รับความรักจากใครเลย   ลึกๆ แล้วคนที่มีความสุขกับการหาทุกข์ให้คนอื่นนั้น เขาเป็นคนน่าสงสาร บางทีหากเราสามารถคลี่ปมของเขาออกมาดูได้ ก็จะเห็นว่า   คนอย่างนี้ควรได้รับความเห็นใจ มากกว่าจะซ้ำเติมเขา
                ปล่อยเขาไปเถอะคุณ
                การที่เขาเป็นคนเลว (โดยสันดาน) แล้วยังไม่รู้สึกตัวนั้น ก็ทำให้เขาสร้างกรรมหนักหนาสาหัสแก่ตัวเองมากพออยู่แล้ว   เราไม่ควรจะเลวร่วมขบวนกับเขา ด้วยการหาวิธี ' เอาคืน ' แก่เขาเลย
            การไม่ยุ่งกับคนประเภทนี้ คือ วิธีรับมือที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
                พระพุทธเจ้าเคยเล่านิทานว่า ในอดีตชาติ พระองค์ทรงเคยเกิดเป็นราชสีห์เจ้าป่า จู่ๆ วันหนึ่งมีหมูสกปรกที่ชอบนอนกลิ้งเกลือกในหลุมอุจจาระเหม็นคลุ้งมาท้าสู้กัน   ราชสีห์เจ้าป่ามองดูเจ้าหมูสกปรกแล้วก็คำรามขึ้นว่า
                ' เจ้าหมูสกปรกเอ๋ย   หากเจ้าต้องการชัยชนะ   ข้าก็ยินดีจะยกชัยชนะนั้นให้เจ้าเดี๋ยวนี้เลย   แต่จะให้ข้าไปสู้กับเจ้านั้น ข้าไม่สู้หรอก ข้ายินดียอมแพ้เสียยังจะดีกว่าไปสู้กับหม! ูสกปรกอย่างเจ้า '
            คนบางคนนั้น   มีธาตุแท้ไม่ต่างอะไรกับแมงป่อง และมีความสุขกับการทำความเลวเหมือนกับหมูป่าที่ชอบคลุกอุจจาระ   หากคนเห็นเช่นนี้เข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของเรา วิธีที่ดีที่สุด ไม่ใช่การไปสู้กับเขา แต่ควรถอยออกมาจะดีกว่า การถอยนั้น บางครั้งไม่ใช่การยอมแพ้   แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดรูปแบบหนึ่ง
                คนบางประเภทนั้น   เขาเป็นมนุษย์ประเภทสูญเสียสามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่วถูกผิด   หากคุณไม่ถอยให้เขา ก็มีแต่เจ็บตัวฟรี ดีไม่ดีอาจวอดวายหายนะถึงชีวิต และจะหวังให้คนชนิดนี้สำนึกผิดนะหรือ ไม่มีทางเสียหรอก
                แมงป่องน่ะคุณ   เวลามันต่อยใคร มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไปได้อย่างไร จะให้เขาสำนึกจึงเป็นเรื่องไกลเกินฝัน
                ทางที่ดีที่สุด คือ อยู่ห่างๆ ไว้   ปลอดภัยที่สุด.

หมายเลขบันทึก: 214835เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2008 00:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

...แวะมาทักทายครับ..เป็นแนวทางที่ดีในการทำงานอย่างมีความสุข..ต้องนำไปใช้ครับ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท