วิธีเลือกซื้อ sound card Recording


sound card

Recording

วิธีเลือกซื้อ sound card

เวลาผมอยู่ที่ วินเทจสตูดิโอมักจะมีน้องๆที่มาบันทึกเสียงมักจะถามผมว่า sound card อะไรดีกว่ากัน บางคนก็ถามว่าผมอยากฝึกทำเพลง อยากเป็น sound engineer ควรเลือก sound card อย่างไรดี และบังเอิญช่วงก่อนได้มีโอกาสไปดูงานแสดงสินค้า เขาก็เอา sound card มาโชว์เห็นน้องๆนำลายไหลกันเป็นแถว บ้างก็ดูอย่างเดียว บางคนก็ซื้อหากันตามกำลังทรัพย์ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นมักอยู่ในอาการไม่แน่ใจอยากหาที่ปรึกษา พอเดินเข้าไปถาม คนขายก็กลัวจะขายอย่างเดียวก็เลย เก็บเอาความสงสัยกลับบ้านไป พอมีโอกาสได้มาขีดเขียน บรรยายลงใน guitarthai.com ก็เลยเอาเรื่องการเลือกซื้อไอ้เจ้า sound card มาคุยกับชาว guitarthai.com ซักหน่อย โดยจะแบ่งเป็นหลักการง่ายๆดังนี้

1. ไม่แนะนำอย่างยิ่งที่จะเอา sound card ดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมส์ มาใช้สำหรับการบันทึกเสียงหรือทำเพลง
เพราะการที่ตัว sound card ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อบันทึกเสียงโดยตรง จะก่อปํญหากวนใจได้บ่อยๆ อาทิ เวลาบันทึกเสียงแล้วมี Delay , ความไม่เสถียร , ควบคุมสัญญาณที่เข้าไปได้ไม่ดี สัญญาณเข้าไปน้อย และปัญหา อื่นๆอีกร้อยแปด ซึ่ง sound card พวกนี้ใช้ยากมากๆ นอกซะจากว่าคูณเป็นนักแก้ปัญหาจริงๆ แต่ถึงแม้จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ก็ตาม เสียงที่ออกมาก็มักจะไม่ได้ตามความต้องการอย่างแรงถึงแม้คุณอาจจะบอกว่า ทำเพลงอยู่กับบ้านไม่ต้องการความละเอียดมากนัก แต่พอทำงานออกมาผมเชื่อว่าทุกคนก็อยากให้งานออกมาดีพอสมควรเช่นกัน และด้วยการใช้งานที่ค่อนข้างมีปัญหานี้ บางท่านถึงกับเลิกศึกษา ด้านการบันทึกเสียงไปเลยซึ่งน่าเสียดายที่สุด มันเหมือนการเริ่มต้นทำอะไรซักอย่างถ้ารู้สึกว่ามันง่ายเราก็จะมีความมั่นใจในตัวเอง ถ้ารู้สึกว่ามันยากอาจจะถอดใจไปดื้อๆทั้งที่จริงๆแล้วมันอาจจะง่ายนิดเดียวก็ได้ ถ้าจะเปรียบเทียบก็คล้ายๆกับ ฝึกเล่นกีตาร์ไฟฟ้าด้วยกีตาร์โปร่งแหละครับ ถามว่าได้หรือเปล่ามันก็ตอบว่าไม่ได้ก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย เอาเป็นว่ามันไม่ได้ผลดีนักแล้วกันครับ ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่า sound card นั้นเป็นแบบดูหนังฟังเพลงหรือไม่ ดูง่ายมากครับคือถ้าไปซื้อจากร้าน com เป็นแบบที่ใช้ดูหนังฟังเพลงหมดครับ ถ้ารุ่นที่ใช้บันทึกเสียงต้องเป็นพวกที่เป็นตัวแทนจำหน่าย sound card โดยตรงครับถึงจะมี ขอยกตัวอย่างยี่ห้อที่นิยมในตลาดแล้วกันครับ เช่นพวก Digidesign , MOTU , RME , Lexicon, Focusrite , EMU ….

                     

 

       

        

 

2. สำหรับมือใหม่ หรือ เป็นนักแต่งเพลง ควรใช้ sound card ขนาดพกพาสะดวกรุ่นเล็กๆ
ใช้ input/output 2in 2out ก็พอเพราะธรรมชาติคนแต่งเพลงไม่ค่อยยึดติดกับสถานที่ ถ้าใช้ sound card ขนาดใหญ่จะเคลื่อนย้ายลำบาก ถ้าใช้ sound card ขนาดพกพา คู่กับ computer notebook ขนาดเล็กๆคุณสามารถทำเพลงได้อิสระไม่จำกัดสถานที่เลยทีเดียว ซึ่งบางครั้งการอยู่ในห้องสตูดิโอเฉยๆอาจทำให้คุณแต่งเพลงไม่ออกถ้าเครื่องมือหากินของคุณสามารถติดตามคุณไปได้ทุกหนทุกแห่งจะทำให้คุณคิดเพลงได้ดีกว่ามาก ส่วนฟังก์ชันอื่นๆที่ควรมีได้แก่ ช่องเสียบไมค์ ( pre mic ) , ช่องเสียบ line ( pre line ) เอาใว้เสียบกีตาร์หรือเบสเวลาต้องการยิงตรงเข้า sound card ไปเลย , port midi , Phantom(+48v) ใช้ในกรณีต้องต่อกับ condenser microphone ซึ่งตัว Phantomนี้ก็คือตัวไฟเลี้ยง condenser microphone นั่นเอง , ช่องเสียบ Headphone เพราะลำโพงใน notebook มักจะฟังไม่รู้เรื่อง , สามารถใช้ USB 2 ได้ก็จะดีมาก ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วมากขึ้นมากทีเดียว ส่วนพวกที่เป็นการ์ดเสียบอยู่ใน computer ไม่ค่อยแนะนำสำหรับนักแต่งเพลงเพราะใช้กับ notebook ลำบาก

3. สำหรับกลุ่มที่ต้องการมีห้องบันทึกเสียงขนาดกลาง ( ซึ่งเป็นห้องอัดเสียงร้อยละ 90ในบ้านเรา )
และสะดวกกับการทำเพลงพอสมควร ถ้าท่านเป็นบุคคลในกลุ่มนี้แสดงว่าท่านเริ่มมีความต้องการในเรื่องของ คุณภาพ sound ที่มากขึ้น และอุปกรณ์ที่ท่านมีไม่ควรจะเป็นเพียง sound card กับ computer ควรมี Pre Mic กับ compressor outboard ด้วย ( ไว้จะพูดเรื่องพวกนี้อีกครั้งครับ ) ถ้าพูดในส่วนของ sound card เพียงอย่างเดียวละก็ ควรมี Spec ประมาณนี้ครับ คือ ควรมีอย่างน้อย 8in/8out analog ถ้ามี 8in/8out digital ได้ก็ยิ่งดีเพราะ sound card สมัยใหม่ที่มี 8 analog in/out และ 8 digital in/out มักจะใช้ได้ทีละ 16 in/out เลยทีเดียวแต่มีข้อแม้ว่าอาจต้อง เล่นแร่แปรธาตุเล็กน้อย ( ที่บอกว่ามักจะเนื่องจากว่า sound card บางตัวโดยเฉพาะรุ่นเก่า อาจจะเลือก analog หรือ digital ได้อย่าได้อย่างหนึ่งเท่านั้น ) ส่วนวิธีเล่นแร่แปรธาตุอาจจะใช้วิธีหา converter อะไรก็ได้ที่มี analog in และ digital out ที่มี format ตรงกับที่ sound card ที่เรามี ฟังดูอาจจะงงๆนิดนึงแต่ลองทำดูแล้วกันนะครับยังไงก็คิดว่าถ้ามีโอกาสจะเขียนเรื่องการใช้ sound card อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้งครับ ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าเรามีงบแค่ไหนคือ sound card ที่มีฟังก์ชั่นเสริมมากๆไอ้ฟังก์ชันพวกนั้นมันคุณภาพแค่พอใช้ได้ถ้าเรามี outboard อยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้จาก sound card ก็คือต้องดูว่าเรามีอุปกรณ์เสริมมากแค่ไหนแล้วค่อยกำหนด spec ของ sound card ว่าควรเป็นอย่างไรถ้าฟังก์ชันไหนเราไม่มีอุปกรณ์เสริม ก็ควรจะมีอยู่ใน sound card ถ้ามีอุปกรณ์เสริมอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีอยู่ใน sound card ก็ได้ ส่วนอุปกรณ์ที่ควรมีมากับเครื่องควรจะเป็นดังนี้ port Midi , ช่องเสียบ headphone และ port ที่ต่อเข้า comควรเป็น USB 2 หรือ firewire ก็ได้ทำงานได้ทั้งคู่ครับส่วน pre mic แนะนำอย่างมากว่าให้ใช้เป็น outboard ครับ ใช้ใน sound card คงไม่พอครับคือ sound มันคงไม่ดีพอ

4. สำหรับห้องอัดเสียงขนาดใหญ่
คงจะไม่ค่อยมีใครสร้างเท่าไห่ครับแต่พูดไว้ให้อ่านเล่นๆสนุกๆแล้วกันครับ คือถ้าเราสร้างห้องอัดเสียงแบบนี้ soundcard ที่ใช้ แทนจะไม่มีอะไรเลยครับมักจะมีแค่ in กับ out ลองไปเปิดดูตาม web site ของพวก soundcardได้ครับรุ่นที่ดีที่สุดมักจะราคาแพงที่สุดแต่ไม่มี function อย่างอื่นเลยครับเนื่องจากห้องอัดเสียงขนาดใหญ่จะใช้อุปกรณ์แยกทั้งหมดเช่น premic ก็ต้องเป็น outboard ระบบheadphoneก็มีheadphone system ของตนเอง แล้วบางคนถามว่ามันแพงเพราะอะไร คำตอบคือ มันมี A TO D converter และ D TO A converter ที่ดีครับไอ้สองตัวนี้ครับมักจะแพงจนพูดไม่ถูกแต่อย่างที่เคยพูดไปในบทความเก่าแล้วว่า การที่เสียงจะดีในระบบ digital ได้หรือไม่นั้น converter มีบทบาทสำคัญทีเดียวครับ สรุปแล้วการเลือกใช้ soundcard ต้องดูก่อนว่าเราต้องการใช้งานแบบไหนก่อนแล้วค่อยไปเลือกให้ตรงกับการใช้งานอย่าซื้อเพราะโฆษณา หรือคำบอกเล่าเพราะแต่ละคนการใช้งานมักจะไม่ค่อยตรงกันครับทำให้ soundcard ที่ดีสำหรับเพื่อนอาจจะเป็น soundcard ที่ไม่ดีสำหรับเราครับ

 

 

credit : guitarthai.com

หมายเลขบันทึก: 208598เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2008 11:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เป็นประโยชน์มากครับ ผมตามหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่เพราะจะซื้อซาว์การ์ดที่มันเสถียรและคุณภาพดีจริงๆสำหรับทำเพลง ตามหามาหลายเวป ไม่มีข้อมูลละเอียดสักที โชคดีมาเจอที่นี่เข้า

ต้องขอบคุณพี่เจ้าของกระทู้มากครับที่ให้ความรู้

ป.ล...ผมมีแผนการจะทำห้องอัดเฉพาะเสียงร้องอยู่อ่ะครับ

ช่วยอธิบายเรื่อง ห้องบันทึกเสียงขนาดกลางด้วยนะครับ

ขอบคุณเวปตามลิงค์นี้ด้วยครับ

http://www.guitarthai.com/home.asp

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท