สวัสดีครับเพื่อนชาว gotoknow ช่วงนี้ยุ่ง ๆครับ เพิ่งจะว่างวันนี้เลยนึกสนุกอยากเล่าเรื่องลง blog (กลัวจะกลายเป็น blog ร้างไปซะก่อนนะครับ)
เมื่อเดือนก่อนผมได้อ่านนิตยสาร DDT ประทับใจกับหน้าปกนี้รู้สึกถึงความเท่ที่บอกไม่ถูก ดูเอาเองเถอะครับ ว่าคุณมาโนชในชุดโคบานมันเท่ขนาดไหน
ผมได้อ่านวารสารนี้แล้วนึกถึงตัวเองสมัยมัธยมที่ติดตามรายการบันเทิงคดีที่คุณมาโนชเป็นเจ้าของรายการได้ดีครับ เป็นรายการที่ผมอดหลับอดนอนดูรายการทุกสัปดาห์ ถ้าจำไม่ผิดเป็นช่อง 5 หรือ 11 ในอดีต
โดยกำเนิดผมเป็นคนอยุธยาเช่นเดียวกับคุณมาโนช เลยทำให้ผมประทับใจหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณมาโนชเล่าให้ฟังทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางผ่านเนื้อเพลง/บทสัมภาษณ์ หรือ วิทยุ the radio ตอนนี้ปิดตัวไปเพราะ sponsor ไม่มี (แต่คนฟังล้น rating กระฉูด) เป็นปัญหาของสื่อที่ไม่(ถูกจัด) อยู่ในกระแส เป็นปัญหาของคนที่ทำสิ่งที่ เฉพาะตัวไม่ตามใคร แต่ปรากฎว่า "ไม่เข้าทางของทุนนิยม" ก็เลยไม่มีนายทุนสนับสนุน ผมก็ขอให้กำลังใจคุณมาโนชให้สู้ต่อนะครับ คนอยุธยาอย่างผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ
(รูปจาก concert มาโนช พุฒตาล and The Lamb)
คุณมาโนช พุฒตาล พื้นเพเป็นคนอยุธยา บ้านอยู่แถวหัวแหลม (ใกล้ๆ อนุสาวรีย์พระศรีสุริโยทัย) เป็นน้องชายแท้ ๆ (ดูหน้าก็รู้แล้ว)ของคุณดำรง พุฒตาล อดีต สว. และเป็นเจ้าของหนังสือคู่สร้างคู่สม (นิตยาสารที่มีผู้อ่านมากที่สุดเล่มหนึ่งของเมืองไทย) “สวัสดีครับ ผม มาโนช พุฒตาล บุตรของนายเฉลียว กับนางอำไพ” เป็นถ้อยคำที่แสดงตัวตนที่ชัดเจน มีความกตัญญู และให้ความสำคัญกับรากเหง้าของตัวเองอย่างมาก คุณมาโนชภูมิใจกับความเป็นคนอยุธยามาก (เช่นเดียวกับผม)
คุณมาโนชเป็นคนที่คนที่มีความสามารถในการเล่าเรื่องราวได้ในระดับที่เรียกว่าเห็นภาพมากที่สุดคนหนึ่งในเมืองไทยทีเดียวครับ สีสันของการพูดประกอบข้อมูลที่เกิดจากประสบการณ์ตรงและเป็นคนมองโลกในมุมที่ต่างทำให้เขามีความโดดเด่น ผมว่าถ้าใครอยากเป็นนักพูดขอให้ศึกษาวิธีเล่าเรื่องของแกเถอะครับ ไม่ผิดหวัง
ผมได้ซื้ออัลบั้ม 2 ชุดล่าสุดของคุณมาโนชมาฟังแล้วรู้สึกประทับใจมาโดยเฉพาะ ผลงานลำดับที่ 1 อยู่อยุธยา (โอโฮ ยังกับเพลง classic เลยนะครับ ที่มีชื่อแบบนี้ เช่น sonata หมายเลข 1) จริง ๆเมื่อก่อนคุณมาโนชบอกว่า เคยทำร่วมกับค่ายเทป แต่ด้วยระบบทุนนิยมทำให้ราคาที่เกิดขึ้นไม่เป็นตามจริง ศิลปินถูกเอาเปรียบทุกทาง (มีค่าการตลาด-ผ่านพ่อค้าคนกลางยังไงยังงั่น) สุดท้ายเลยทำเหมือนขายปลาซะเลย ทำเองทุกขั้นตอน แล้ววางแผงเฉพาะที่ contact มีสมุดเล่มหนึ่งไป check rating ขาดหมด ก็ปั๊มไหม่ style การเล่าเรื่องประกอบเพลง เป็นเอกลักษณ์มาก (ผมว่าสนุกประมาณ คุณเพลิน พรหมแดน เลยละครับ) หรือถ้าจะให้คำจำกัดความคงจะเป็น "แนวนิราศชีวิต" น่าจะเหมาะนะ
ลำดับที่ 1 เล่าเรื่องราวในมุมมองอดีต+เสียดสีสังคมที่เปลี่ยนไปอย่างเจ็บ ๆ คัน ๆ เล่าเรื่องราวของน้ำหลากได้สนุกสุด ๆ ทำให้ผมนึกถึงสมัยเด็ก ๆ ตอนที่อยู่บ้านแล้วถึงฤดูน้ำหลากแล้วแก้ผ้าว่างน้ำเล่น เพลงมี 2 version คือแบบไม่มีเล่าแทรก กับแบบที่ร้องไปเล่าไป (ผมชอบแบบที่ 2 มากกว่า) ขายแผ่นละ 50 บาท ขอร้องครับ คงไม่มีใครก๊อปของแกนะครับ ถ้ามีผมขอสาปแช่งให้เป็นหมัน
ชุดที่ 2 เพลงมีสีสันครับ เล่าเรื่องความชอบเสียฝนมาเป็นเพลง+เล่าที่มาของเพลง พร้อมกับเหน็บคนเล่นเครื่องเสียงให้ฉุกคิด (ผมก็เล่นอีกนั่นแหละ...แต่เป็นแค่ฟังเพลงเพราะครับ ไม่ถึงขั้นบ้า) เกี่ยวกับว่า แกมีเพื่อนคนหนึ่งที่ซื้อเครื่องเสียง เป็นล้านมาฟังเสียงฟ้าผ่า...แกบอกว่า ทำไมไม่ออกมายืนนอกบ้านฟังของจริงเวลาฝนใกล้ตก(เออ..จริงวะ :)
โดยสรุปคงอยากให้พวกเราลองหามาฟังดูครับ คุณจะพบกับมิติของความแตกต่าง...และได้รู้จักกับคนพิเศษคนนี้ มาโนช พุฒตาล
หมายเหตุ : ถ้าสนใจอ่านเพิ่มเติม แนะนำ สารคดี เกี่ยวกับคุณมาโนช
ติดตามรายการที่คุณมาโนชจัดตั้งแต่สมัยเที่ยงวันอาทิตย์จนถึงวันนี้ชอบจนถึงกับบอกได้ว่าคลั่งพี่เขามาก
ใครที่ชื่นชอบคุณมาโนช พบกันได้ในวันที่ 5 กันยายน 2553 ...เสียงของสัตว์ป่าจะดังทั่วหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร... มาโนช พุฒตาล และ ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ ทั้งสองท่านจะมาพูดในนามของสัตว์ป่าอีกครั้งบนเวทีเดียวกัน กับ1 กิจกรรมดีๆๆ ในงาน 20 YEARS 20 DAYS SEUB NAKHASATHIEN
หวังว่าคุณคงได้รับจม.ผมแล้วนะครับคุณมาโนช