เศษเหล็ก - โอวาทจากในหลวง
ท่านสุเมธ ตันติเวชกุล องคมนตรี เล่าประสบการณ์ดีดี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับสั่งให้กำลังใจ ซึ่งเป็นประโยคที่ดีมาก คงได้ประโยชน์กับบางคน ที่กำลังเจอมรสุมกับงานจะได้รู้สึกดี องคมนตรีท่านบอกว่า
ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก มันไม่มีกำลังใจจะทำอะไร ท้อแท้กับงานมาก ไม่มีใครเข้าใจเหมือนทำดีแต่ไม่ได้ดี ในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดี และท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่สู้จะดี ท่านได้สอบถามจนได้ความว่า ผมกำลังท้อแท้กับงาน
ท่านจึงตั้งคำถามและรับสั่งว่า
ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม? เศษเหล็กเหล่านั้นเวลาขาย คุณค่ามันต่ำมากใช่ไหม คงได้เงินมาไม่กี่บาทใช่ไหม? แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเล่านั้น มาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนี้ เหล็กมันคงรู้สึกร้อนใช่ไหม ? พอหลอมเสร็จ เรานำมาทำเป็นดาบ คงต้องนำมาตีให้แบนอีกใช่ไหม ? เวลาตี ก็ต้องคอยเอาไปเผาด้วย ต้องตีไปเผาไปอยู่หลายรอบกว่าเป็นร่างดาบอย่างที่เราต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวดร้อนอยู่นาน แถมเมื่อเสร็จแล้วถ้าจะให้สวยงามดั่งใจ ก็ต้องนำไปแกะลวดลายอีกใช่ไหม ? เวลาที่แกะลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคม มาตีให้เป็นลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงาม ก็จะมีคุณค่าที่สูงมากเทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันสิบลับ
จะเห็นว่า กว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนัก จะกลายเป็นดาบอันงดงามนั้น ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆกว่าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้น ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า ใครไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิต มาเลยนั้น จงอย่าได้ คิดทำการใหญ่
มาอ่าน แล้วครับ ดีจัง สวัสดีครับ พี่เพ็ญ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ