จากการดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการควบคุมน้ำหนักของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดตาก โดยผู้เข้าร่วมโครงการเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่มีค่าดัชนีมวลกาย มากกว่า 25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร จำนวน 101 คน กิจกรรมมีทั้งในโรงพยาบาล และจัดเป็นค่ายลดความอ้วน บัดนี้มีการประเมินผลลัพธ์โครงการดังนี้
· การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง
· การออกกำลังกายที่ถูกต้อง
สรุปผลการประเมิน ค่าดัชนีมวลกาย รอบเอว เส้นรอบวงกึ่งกลางต้นแขนซ้าย ระดับไขมันในเลือด ภายหลังเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
1. ค่าดัชนีมวลกาย
ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่มีค่าดัชนีมวลกายลดลง 61 คน (ร้อยละ 60.40) รองลงมามีค่าดัชนีมวลกายเท่าเดิม 25 คน (ร้อยละ24.75) และมีผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายเพิ่มขึ้นจำนวน 15 คน (ร้อยละ 14.85)
โดยลดน้ำหนักได้มากที่สุด 12 ก.ก. น้อยที่สุด 0.5 ก.ก. ผู้ที่สามารถลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมายที่กำหนดส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ น้อยกว่า 40 ปี
2. รอบเอว
ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่มีรอบเอวลดลง จำนวน 69 คน (ร้อยละ 63.32) รองลงมามีรอบเอวเท่าเดิมจำนวน 17 คน (ร้อยละ 16.83) และมีรอบเอวเพิ่มขึ้น 15 คน (ร้อยละ 14.85) โดยรอบเอวลดมากที่สุด 20 ซม. น้อยที่สุด 1 ซม.
3. เส้นรอบวงกึ่งกลางต้นแขนซ้าย
ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่มีเส้นรอบวงกึ่งกลางต้นแขนซ้ายของลดลง จำนวน 63 คน (ร้อยละ 62.38) รองลงมามีรอบแขนเท่าเดิม จำนวน 34 คน (ร้อยละ 33.66) และมีรอบแขนเพิ่มขึ้น จำนวน 4 คน (ร้อยละ 3.96 ) โดยรอบแขนลดลงมากที่สุด 5.5 ซม. น้อยที่สุด 0.5 ซม.
4. ระดับไขมันในเลือด
ภายหลังเข้าร่วมโครงการผู้เข้าร่วมโครงการมีระดับเอชดีแอลคอเลสเตอรอลปกติ เพิ่มขึ้น จำนวน 2 คน และมีระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ปกติ เพิ่มขึ้นจำนวน 1 คน ส่วนระดับคอเลสเตอรอล
ก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะจากการดำเนินโครงการ
1. เพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเตือนให้กำลังใจในการควบคุมน้ำหนัก
2. การจัดกิจกรรมให้เกิดการแข่งขัน โดยการประกวดบุคคลต้นแบบในการควบคุมน้ำหนัก
มีผลต่อการสร้างแรงจูงใจในการควบคุมน้ำหนัก ทำให้กลุ่มเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
3. การประเมินด้วยการชั่งน้ำหนัก BMI การวัดรอบเอว เส้นรอบวงแขน ควรใช้คนวัดที่มีมาตรฐานเดียวกัน เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความเที่ยงตรงมากที่สุด
4. ในการดำเนินโครงการครั้งนี้ พบว่าระดับไขมันในเลือดก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการมีการเปลี่ยนแปลงน้อย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับไขมันในเลือดที่ชัดเจน ควรมีการติดตามผลในระยะยาว 6 เดือนขึ้นไป
5. ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดำเนินโครงการครั้งนี้
5.1 ผู้บริหารเห็นความสำคัญ
มีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมสุขภาพบุคลากร เพราะคนเป็นสินทรัพย์
อันมีค่าขององค์กร หากคนในองค์กรสุขภาพไม่แข็งแรง ก็จะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ แต่ควรต้องมีการกำหนดมาตรการหรือกลไกในการส่งเสริมสุขภาพบุคลากรของโรงพยาบาลเพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่ยั่งยืน เช่น
5.1.1 มีการติดตามประเมินผล และจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพเจ้าหน้าที่อย่าง
ต่อเนื่อง
5.1.2 มีการบังคับใช้หรือกำหนดเป็นข้อตกลงร่วมกันที่ทุกคนทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติ
ตามอย่างจริงจังในการส่งเสริมสุขภาพบุคลากร
5.2 มีการทำงานเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักโภชนากร
งานแพทย์แผนไทย ทีมออกกำลังกาย นักสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ เป็นต้น
5.3 มีการจัดสิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์สนับสนุนที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี
โรงพยาบาลถึงแม้มีข้อจำกัดเนื่องจากสถานที่คับแคบไม่มีสนามกีฬา แต่ได้จัดสถานที่
ออกกำลังกาย ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ มีอุปกรณ์ออกกำลังกาย และจัดบริการอาหารเพื่อสุขภาพ ณ ร้านค้าสวัสดิการของโรงพยาบาลและมุมส่งเสริมสุขภาพงานแพทย์แผนไทย
5.4 เกิดชมรม Bye Bye Fat มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เดือนละ 1 ครั้ง
ไม่มีความเห็น