ครั้งแรกที่มีการอ้างว่า อริยะขัดขืน ผู้เขียนก็นึกไปถึง การกระทำเหนือหน้าที่ เพราะคิดว่าสองคำนี้ใกล้เคียงกัน... อริยะขัดขืน มาจากคำว่า Civil disobedience สำหรับความหมายเดิมผู้สนใจ คลิกที่นี้... ส่วน การกระทำเหนือหน้าที่ มาจากคำว่า Supererogation ผู้สนใจ คลิกที่นี้ หรืออ่านบางประเด็นจากบล็อกนี้ ซึ่งผู้เขียนก็ได้เล่าไว้หลายประเด็น... สำหรับบันทึกนี้ จะนำมาเปรียบเทียบสั้นๆ พอได้ใจความเท่านั้น
อริยะขัดขืน คือ การปฏิเสธกฎหมาย คำสั่ง หรือความต้องการของรัฐบาล ในเมื่อเห็นว่าสิ่งนั้นไม่มีความเป็นธรรม โดยปราศจากการใช้ความรุนแรง
การกระทำเหนือหน้าที่ คือ การกระทำที่เกินเลยขอบเขตของหน้าที่ทางจริยธรรม โดยถ้ากระทำก็จัดเป็นความดีพิเศษ แต่ถ้าไม่กระทำก็ไม่จัดว่าเป็นความผิด
จะเห็นได้ว่าทั้งอริยะขัดขืนและการกระทำเหนือหน้าที่ผูกโยงอยู่กับคำว่า กฎ คำสั่ง ระเบียบ หรือ ข้อบังคับ (ทางกฎหมายหรือทางจริยธรรม) ซึ่งผู้เขียนจะรวมสิ่งเหล่านี้แล้วเรียกสั้นๆว่า กรอบ .... โดยทั้งอริยะขัดขืนและการกระทำเหนือหน้าที่มีความเหมือนกันในแง่ว่า ไม่กระทำตามกรอบ ไม่อยู่ในกรอบ หรือทำลายกรอบที่ควบคุมไว้
สำหรัีบอริยะขัดขืน มีความเห็นว่า กรอบ ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม หรือไม่ยุติธรรม จึงจำเป็นต้องฝ่าฝืน...
ส่วนการกระทำเหนือหน้าที่ มีความเห็นว่าถ้ากระทำล่วงเลย กรอบ ที่วางไว้แล้ว จะมีคุณค่าสูงกว่าการกระทำตาม กรอบ ...
ถามว่า...
- ใครเป็นผู้สร้าง กรอบ ?
- ใครเป็นผู้ประเมินค่า กรอบ ?
- ใครเป็นผู้ตัดสิน กรอบ ?
สำหรับอริยะขัดขืน กรอบ ก็คือ กฎหมาย ก็ต้องไปพิจารณาที่มาและแนวคิดของกฎหมาย... ส่วนการกระทำเหนือหน้าที่ กรอบ ก็คือ เกณฑ์ตัดสินจริยธรรม ก็ต้องไปพิจารณาแนวคิดด้านจริยศาสตร์...
ความสัมพันธ์ระหว่าง กฎหมาย กับ จริยธรรม นั้น มีผู้ให้ความเห็นว่า กฎหมายและจริยธรรมเหมือนกันในแง่ว่ากำหนดและตัดสินการกระทำของคนว่าผิดหรือถูก... แต่ต่างกันในแง่ที่ว่า กฎหมายมีสภาพบังคับและถูกลงโทษในเมื่อฝ่าฝืนหรือไม่กระทำตาม ส่วนจริยธรรมไม่มีสภาพบังคับเหมือนดังกฎหมาย เพียงแต่อาจถูกตำหนิติเตียนจากสังคมเท่านั้น
.........
ประเด็นสุดท้ายใคร่จะถามว่า..
- อริยะขัดขืนจัดเป็นการกระทำเหนือหน้าที่ได้หรือไม่ ?
ตามความเห็นของผู้เขียน ถ้าผู้ใช้อริยะขัดขืนมุ่งหวังประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือมวลมนุษยชาติ เล็งเห็นว่า ถ้าใช้อริยะขัดขืนแล้วจะมีคุณค่าสูงกว่าการอยู่ในกรอบ ก็น่าจะจัดเป็นการกระทำเหนือหน้าที่ได้... แต่ถ้าใช้อริยะขัดขืนเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อจุดหมายบางอย่างแก่ตนเองหรือพวกพ้องเท่านั้น ก็ไม่น่าจะจัดเป็นการกระทำเหนือหน้าที่ได้
สำหรับแนวคิดการกระทำเหนือหน้าที่เข้าได้กับทฤษฎีจริยศาสตร์คุณธรรม แต่ขัดแยังกับทฤษฎีจริยศาสตร์หลักการ (จริยศาสตร์หลักการ แบ่งเป็น จริยศาสตร์คานต์และประโยชน์นิยม)... ฉะนั้น ถ้าจะศึกษาอริยะขัดขืนว่าเป็นการกระทำเหนือหน้าที่ได้หรือไม่ ก็ต้องค้นไปถึงแนวคิดทฤษฎีจริยศาสตร์
จริยศาสตร์คุณธรรม มีหลายเกณฑ์หลายมาตรฐาน ดังนั้น ผู้อ้างอริยะขัดขืนอาจมีแนวคิดเรื่องกรอบ ต่างไปจากแนวคิดของผู้วางกรอบ...การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ น่าจะต้องค้นหาถึงจุดเด่นของจริยศาสตร์คุณธรรม นั่นคือ ต้องค้นหาว่า ผู้อ้างอริยะขัดขืนและผู้วางกรอบมีจิตใจประกอบด้วยคุณธรรมหรือไม่
ขณะที่่ จริยศาสตร์หลักการ มีเกณฑ์เดียวมาตรฐานเดียว ดังนั้น ผู้อ้างอริยะขัดขืนจัดว่าผิดก็ต่อเมื่อกรอบนั้นมีมาตรฐานเดียว แต่ถ้ากรอบหรือผู้ใช้กรอบไม่เป็นไปด้วยมาตรฐานเดียวก็ไม่ถือว่าผิด... การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ น่าจะต้องค้นหาถึงจุดเด่นของจริยศาสตร์หลักการ นั่นคือ ต้องค้นหาว่า กรอบหรือผู้ใช้กรอบนั้นวางมาตรฐานเดียวเหมือนกันหรือไม่
ส่วนจุดด้อยของแต่ละทฤษฎีจริยศาตร์นั้นเป็นอย่างไร เมื่อนำมาพิจารณาอริยะขัดขืน ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ...
แต่ผู้เขียนขอละไว้ เพราะเรื่องนี้อาจโยงไปถึงแนวคิดปรัชญากฎหมาย และอาจต่อยอดไปยังประเด็นอื่นๆ ได้อีก เท่าที่นำมาเล่าก็เพื่อว่ามีผู้สนใจนำไปศึกษาต่อเท่านั้น