คือ...ดอกหญ้าธรรมดาดอกหนึ่ง
ไร้ซึ่งผู้คนเอาใจใส่
ลมพัดก้อระเนนเอนลู่ไป
แดดจะไล้หรือฉ่ำฝนก็ทนทาน
คือ...อิสระเสรีของชีวิต
ด้วยมีสิทธิจะหยัดอยู่เพื่อชูก้าน
กับวิถีเรียบง่ายริมสายธาร
ไม่ทะยานอยากเด่นเช่นใคร ใคร
คือ...สัจจะสื่อบอกจากดอกหญ้า
ชีวิตใช่ปรารถนาจะเป็นใหญ่
เพียงเรียบง่าย ง่ายงามมีน้ำใจ
และสุขได้เพียงหยัดอยู่คู่....ตะวัน"
บทกลอนนี้ได้มานานเท่าไหร่จำไม่ได้
แต่ทุกครั้งที่อ่านนะนึกถึงตัวตนของตัวเอง
จำไม่ได้ว่าได้มากจากไหน
จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนแต่ง
ขอโทษคนแต่งด้วยนะคะที่จำไม่ได้
แต่ประทับใจและไม่เคยลืมเลือน
นานมาแล้วที่ดอกหญ้าดอกนี้
ยืนยันอยู่คู่ตะวันตลอดมา แม้จะ สุข เศร้า เหงา
เคล้ากันไป แต่ไม่เคยจะหยุดที่จะดำเนินชีวิตต่อไป
ไม่เคยที่จะท้อถอย
โดยอาศัยแรงใจจากดวงตะวัน ที่ไม่เคยเหนื่อยท้อแท้
ที่จะส่องแสงสว่างให้กับโลกมนุษย์
ดอกหญ้าดอกนี้ก็จะยืนหยัดอยู่คู่ตะวันต่อไป
แม้ว่าจะเป็นดอกหญ้าที่ไร้ค่า
และไม่ยิ่งใหญ่เช่นดวงตะวันก้อตาม
ดอกหญ้าดอกนี้จะทำหน้าที่ของดอกหญ้าที่ดี ตลอดไป
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังใจท้อแท้และท้อถอยนะคะ
ถึง..คุณ"ดอกหญ้า"
เช้ามา..ดีใจที่มาเจอ..."บันทึก" (ยิ้ม)
หากแม้..เป็นอะไร...หาใช่ตัวตน
จะเรียกอะไร...ก็หาใช่ตัวตน
"ตน"...สำคัญนั่นคือ..."ไม่มีตน"
ถึง.............ดอกหญ้า
อาจเกิดมา....ไร้ค่า แสนที่จะธรรมดา หรือเพื่อแต่งแต้มให้พื้นดิน ถูกเขาเหยียบ ย่ำ ...............แต่ดอกหญ้าก็ยังเบ่งบาน....บนลานพื้นดิน....และไม่เคยที่จะอยู่สูงเพื่ออวดอ้างให้ผู้อื่น....ขอให้เป็นดอกไม้ที่มีค่า อีกดอกหนึ่ง
ไม่ใช่ดอกไม้สีสันสวย
แต่มีคุณค่าอยู่ที่ในตัว
แม้ใครคิดว่าเป็นเพียงแค่ดอกหญ้า
แต่มีคุณค่าและประโยชน์อนันต์
คุณค่าของความงดงามใช่อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก