ทำไมนะ...คนไทย


บริษัทไทยหลายต่อหลายแห่งต้องปรับโครงสร้างการบริหาร โดยนำชาวต่างชาติเข้ามา ผู้บริหารต่างชาติที่มาใหม่ต่างชื่นชมข้อดีหลายๆ อย่างของพนักงานไทย แต่ในทางกลับกัน เขาก็มองเห็นจุดอ่อนบางอย่างของเราที่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นด้วย ...

จุดอ่อนลำดับต้นๆ ที่ต้องกำจัดก็คือ คนไทยขาดความกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ หรือเรียกได้ว่า เราไม่มี assertiveness มากพอ เขามองว่าคนไทยไม่กล้าพูดหรือโต้แย้งเมื่อไม่เห็นด้วย ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีและตรงไปตรงมา ไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ และไม่ต้องการท้าทายความคิดของผู้อื่น

ทำไมคนไทยจึงเป็นแบบนี้ เรามาพิจารณากันทีละข้อเลยครับ

**ทำไมคนไทยไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่พูด?

-เพราะคนไทยเกรงว่าความคิดเห็นของตนจะไปกระทบตัวบุคคล แล้วจะไปทำลายความสัมพันธ์อันดีที่อยากรักษาไว้ต่อไป คนไทยกลัวว่าจะมีปัญหากับคนอื่น แล้วตนเองจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวกให้เมื่อถึงคราวจำเป็น ดังนั้น คนไทยจึงระมัดระวังการกระทำของตนเองมาก โดยแสดงออกมาในรูปของความเกรงใจและให้เกียรติ คนไทยจึงไม่กล้าพูดออกมาเมื่อไม่เห็นด้วย

**ทำไมคนไทยไม่แสดงความคิดเห็นของตนเอง และไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์?

-เพราะไม่มีใครสอนให้ทำ และไม่มีใครคาดหวังให้ทำอย่างนั้น โดยเฉพาะผู้อาวุโสกว่า สังคมไทยไม่คาดหวังให้คนไทยต้องแสดงความคิดเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์ต่อประเด็นต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา

-สภาพแวดล้อมการทำงานของคนไทยมีความคาดหวังให้มีคนคอยบอกว่าต้องทำอะไรและทำอย่างไร

-ในโรงเรียนไทย คนไทยเคยชินกับการเรียนการสอนแบบบรรยายโดยครูเป็นผู้พูดอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนนักเรียนมุ่งอยู่กับการหาคำตอบที่ถูกต้องตายตัว

-เวลาที่ใครก็ตามเสนอความคิดเห็นออกมา ซึ่งอาจจะไม่ดีนัก เพื่อนฝูงและผู้ที่อาวุโสกว่ามักล้อเลียนให้ได้อาย

**ทำไมคนไทยจึงรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องโต้แย้ง หรือท้าทายความคิดเห็นของผู้อื่น?

-เพราะคนไทยถูกสอนมาว่า การกระทำอย่างนั้นเป็นการไม่ให้เกียรติ

-คนไทยไม่อยากสร้างศัตรู เพราะในวัฒนธรรมไทย การโต้แย้งหรือการท้าทายความคิดเห็นผู้อื่นถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว ลองดี และเป็นการโจมตีที่ตัวบุคคลไม่ใช่โต้กันที่ความคิด

-สำหรับคนไทย คำว่า aggressive หรือ ความก้าวร้าว กับคำว่า assertive หรือ ความกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ยังเป็นสิ่งคลุมเครือ และถูกมองว่าคล้ายๆ กันอยู่

ผมมีวิธีการในการพัฒนาความกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ (assertiveness) มาฝากครับ วิธีที่ว่านี้เป็นการปลูกจิตสำนึก สร้างทักษะ กระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการนำไปใช้ได้จริงๆ

การปลูกจิตสำนึกเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นการวางทัศนคติและค่านิยมให้กับคนคนนั้น ขั้นตอนต่างๆ มีดังนี้ครับ

1) ให้ความรู้กับพนักงานไทยว่า การไม่เห็นด้วย ไม่คล้อยตาม มีอะไรก็พูดออกมา และการทักท้วงความคิดของผู้อื่นเป็นสิ่งที่บริษัทคาดหวังจากพนักงานทุกคน ยิ่งถ้าเราได้แลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างเสรีมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้ความคิดใหม่ๆ มากเท่านั้น และเรายังได้การมองปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การหาวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ร่วมกันในที่สุด

2) เชื่อมโยงแนวคิดดังกล่าวให้เข้ากับค่านิยมไทย ผมอยากให้เปลี่ยนมามองว่า การโต้แย้งกันซึ่งๆ หน้าเป็นการแสดงความเคารพและให้เกียรติกันมากกว่าการนินทาลับหลัง คนไทยช่างนินทา แต่อย่าลืมว่าคำนินทาไม่ได้หายไปในอากาศ เจ้าตัวที่ถูกว่าลับหลังจะต้องได้ยินเข้าสักวัน ซึ่งจะสร้างความอึดอัดใจให้กับทุกฝ่าย ฉะนั้น มีอะไรก็ควรคุยกันต่อหน้า เปิดเผย ตรงไปตรงมา และสุภาพต่อกัน

2.1) ถ้าเราต้องการรักษาความสงบสุขในที่ทำงานตามแนวทางของไทยเรา เราควรจะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เอื้อให้พนักงานสามารถโต้แย้งกันได้ในที่ประชุมถ้าไม่เห็นด้วย แทนที่จะเก็บให้ค้างคาใจและอาจรู้สึกไม่พอใจกันตลอดระยะเวลาที่ต้องร่วมงานกัน

2.2) ให้หันมามองว่า ที่จริงการทักท้วงต่อหน้าว่าไม่เห็นด้วยถือเป็นการแสดงน้ำใจของผู้พูด เพราะคนที่รู้ทั้งรู้ว่าคนอื่นผิดพลาดแต่ไม่ยอมบอกถือว่าแล้งน้ำใจ ปล่อยให้ผู้ร่วมงานเดินไปสู่ความล้มเหลว

3) บริษัทกำหนดกติกาพื้นฐานในการทำงานเป็นทีมว่า การโต้แย้งแสดงเหตุผลเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ขอให้ทุกคนยอมรับและยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย

พูดง่ายๆ ก็คือผู้บริหารที่ดีควรจะฝึกให้พนักงานในองค์กรมีความกล้าในทางที่ถูกที่ควร กล้าที่จะบอกว่าไม่เห็นด้วยได้อย่างเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย ผมคิดว่าควรจะมีการฝึกฝนบุคลากรอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้การอบรมเชิงปฏิบัติการ และพยายามสอนให้เขานำไปปฏิบัติจริงด้วย

การกระตุ้นให้พนักงานใช้ทักษะและความกล้าในชีวิตจริงต้องการข้อมูลที่เป็น feedback จากเจ้านายอย่างมาก ผู้บริหารควรส่งเสริม ให้กำลังใจ และแสดงให้เห็นว่าการที่พนักงานมีความกล้าอย่างสร้างสรรค์ หรือ assertiveness นั้นดีอย่างไรต่อตัวเขาเอง ต่อทีม และต่อองค์กรโดยรวมอย่างไรบ้าง

บทความนี้นำมาจากบางส่วนของหนังสือเรื่อง "Bridging The Gap : Managing the Cross-Cultural Workplace in Thailand"

หมายเลขบันทึก: 201843เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2008 15:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 18:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

จริงสิน่ะ ถ้าหากเราอยู่ร่วมกัน 10 คน แล้วเวลาที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็มักจะมี 1 จับคู่ 2 3จับคู่ 4 5จับคู่ 6 หรือที่เค้าเรียกกันว่านินทา หรือไม่ก็ 2จับคู่3 1จับคู่4 ที่เค้าเรียกนกสองหัว เพราะส่วนใหญ่คนเราก็มักจะอยู่กันแบบนี้แหละ กลัวความจริงมีปัญหาอะไรก็ไม่พูดออกมาตรง ๆ คนอื่นเค้ามองตาเค้าก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราคิดมันคืออะไร เค้าจะรู้ได้ไงว่าสิ่งที่เราคิดมันตรงกับสิ่งที่เค้าคิดหรือไม่ เค้าจะไม่มีวันรู้เลยว่าสิ่งที่เค้าทำมันถูกหรือผิด หากไม่มีใครแนะนำหรือแสดงออกด้วยความจริงใจ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะคำ ๆ เดียวที่คนเราเป็นอยู่ไม่เฉพาะแต่คนไทยหรอก นั่นก็คือ เห็นแก่ตัว เมื่อไม่สามารถเอาคำนี้ออกจากนิสัยของคนไทยได้ ก็ไม่สามารถใช้ความกล้าในชีวิตจริงอย่างที่คนพลัดถิ่นนำข้อความมาเสนอได้หรอกค่ะ (yaimod คิดว่า อย่างน้อยก็คนพลัดถิ่นคนนึงนั่นแหละที่น่าจะเป็นอนาคตที่ดีของชาติได้ คนคิดดี ก็มุ่งทำดีไว้น่ะค่ะ สู้ ๆ)

ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ แต่ผมอยาก ไม่เอาคำนี้ เปลี่ยนเป็น ขอร้องให้คนไทยกล้าทำในสิ่งที่ดีๆมากกว่าครับ ช่วยกันหลายๆมือ จะทำให้เราไม่แพ้ชาติไหนๆในโลกหรอกครับ

มาอ่านเกี่ยวกับคนไทยค่ะ

           คนไทยใจดี  รักสงบค่ะ

                    

                      เอามะยมไทย...ที่บ้านมาฝากค่ะ       

                 

        

คนไทยนะสันดานเลว โหด เหี้ยม อำมหิต ใช้อารมณืโกรธ โมโห ฆ่ากัน ประเทศไม่มีทางเขจริญได้ มีแต่ล่มจมเรพาะสวรรคืนรกต้องเก็บพวกมันท้งประเทศ ฉีนใส่หมวกขาว มีอำนาจบารมีและเล่นงานคนไทยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และเก็บมามาก และจะเก็บต่อไปให้ตายทีละชุด คนไทยนิสัยโกง แดก กวนตีน หมาหมู่ หน้าตัวเมีย เล่นพรรคพวก ขี้เกียจ ขี้ฟ้อง อิจฉา ทำร้าย ทำลายคนดีให้อยู้่รอดไม่ได้ ทำให้ตัวเองรอด เจริญก้าวหน้าแต่ทำคนดีให้ฉิบหาย พวกแม่งเห็นแก่ตัวเอง หน้าตัวเมีย ไม่อดทน ใช้อำนาจทางที่ผิด ไม่มีคะุณธรรม ไม่มีสำนึกผิดบาป ไม่กลัวบาป ไม่มีความดีสักตัว พวกึคนไทยกวนตีน หมาลอบกัด บ้าแฟช่นทุกอย่างตามคนอื่น แต่ก่อให้เกิดปัญหาตลอด ทำลายปะเทศ หนักแผ่นดิน และหักหลังประเทศชาติ และเป(็นพวกหมาอาศัยในแผ่นดินเกิดที่มีแต่คนเลว ทำลายประเทศทั้งสิ้น แต่พระเทพและทหารดี พวกคนไทยเลวเหล่านี้ตายไปก็นรกแฃะอเวจีท้ังสิ้น ไม่ได้ผุดเกิดมีแต่ความทุกข์ทรมาน เพราะไม่มีความดี ไม่มีบารมี ไม่กลัวบาป สร้างกรรรมด้วยกายวาจาใจตลอด พวกคนเลวแบบนี้ต้องพังพินาศฉิบหายวายวอดในไม่ช้านี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท