วันนี้ช่วงเช้าได้มีโอกาสแวะไปให้กำลังใจนักส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชรท่านหนึ่ง คือคุณกิติกานต์ ศรีวิชัย (จันทร์ฉาย) สอบวิทยานิพนธ์ ป.โท สาขายุทธศาสตร์การพัฒนา ที่ มรภ.กำแพงเพชร
คุณกิติกานต์ ศรีวิชัย
ที่นำมาบันทึกไว้ก็เพราะอยากนำมาแลกเปลี่ยนกับนักส่งเสริมการเกษตร หรือท่านที่สนใจก็สามารถนำแนวทางนี้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนางานประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานฯ ได้ เพราะคุณกิติกานต์ ได้ทำวิทยานิพนธ์เรื่อง การพัฒนากลยุทธ์การประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นการวิจัยในงานประจำของคุณกิติกานต์เอง เป็นการวิจัยที่ผสมผสานระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
วัตถุประสงค์/วิธีดำเนินการวิจัย/ประชากร-กลุ่มตัวอย่าง โดยย่อเพื่อพัฒนาหรือสร้างกลยุทธ์มีดังนี้ครับ
1. เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาของการประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร
ใช้แบบสอบถาม ผู้ให้ข้อมูลคือนักส่งเสริมการเกษตรทุกคนของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร
2. เพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการของการประประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร
ใช้แบบสัมภาษณ์กับตัวแทนเกษตรกรจากทุกอำเภอ และการสนทนากลุ่มเพื่อตรวจสอบข้อมูลจากตัวแทนอีก 2 อำเภอ
3. เพื่อพัฒนากลยุทธ์การประประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร
ใช้การประชุมเชิงปฏิบัติการของตัวแทนนักส่งเสริมการเกษตร ผู้สื่อข่าว เกษตรกร จำนวน 2 ครั้ง และการพัฒนา-เกลากลยุทธ์จากผู้บริหารและนักวิชาการอีก 1 ครั้ง โดยนำข้อมูลจากวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 และ 2 มากำหนดกลยุทธ์โดยใช้เทคนิคสวอท
เพื่อนๆ มาให้กำลังใจ
ที่นำมาบันทึกนี้ก็เพียงอยากจะนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ และสำหรับผมแล้ววันนี้ก็เหมือนการได้ไปเรียนรู้เพิ่มเติมจากทุกคนในการสอบครั้งนี้ มีประเด็นใหม่ๆ อีกเยอะที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมในเช้าวันนี้ เพราะในทุกที่ทุกเวลาหากเราไม่ปิดกั้นตนเองแล้ว เราก็สามารถที่จะเปิดรับหรือเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ทำตัวเหมือนเป็นแก้วน้ำที่เติมเท่าไรก็ไม่มีวันเต็ม
มีประเด็นหนึ่งที่อยากจะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมก็คือ ในการทำงานส่งเสริมการเกษตรทั้งงานประชาสัมพันธ์หรือด้านอื่นๆ นั้นปัญหาที่จะพัฒนางาน หรือความรู้ที่จะนำมาพัฒนางานนั้นคงจะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเราสามารถสร้างองค์ความรู้ขึ้นใช้เองได้แล้วในบางส่วน แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม แต่สิ่งที่ยากยิ่งไปกว่านั้นก็คือการหาโอกาสนำความรู้ที่มีอยู่ไปสู่การปฏิบัติ ที่จะทำงานโดยอิสระเพื่อการพัฒนาตามศักยภาพอย่างแท้จริงนั้นยากยิ่งกว่า เพราะทุกวันนี้เราทำงานตามสั่งกันจนชิน จนคิดอะไรไม่ออก (ไม่กล้าคิด-ไม่มีเวลาที่จะคิด) แล้วสิ่งเหล่านี้เรายังครอบงำและส่งต่อสิ่งเหล่านี้ไปยังเกษตรกรที่เราใกล้ชิดอีกด้วย....อิอิ ไม่ได้บ่นนะครับ
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ
สิงห์ป่าสัก
7 สิงหาคม 2551
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะท่านสิงห์สุดเท่ห์
* ....
เดี๋ยวนี้ การปชส. ถือว่ามีความสำคัญมากๆ เลยนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นองค์กร หน่วยงานทั้งรัฐ หรือแม้แต่มูลนิธิต่างๆ
* ....
* มาอ่านความรู้ ให้มีความสุขเพลิดเพลินกับงาน ขอบคุณค่ะ