๒.๑ อาชีพรับราชการ
พ.ศ. ๒๕๐๒ – ๒๕๑๑ - เป็นครูสอนโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พ.ศ.๒๕๑๑ – ๒๕๑๒ - เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารงานโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย
๒.๒ อาชีพส่วนตัว
พ.ศ. ๒๕๑๒–ปัจจุบัน - เป็นผู้รับใบอนุญาตและประธานคณะกรรมการบริหาร โรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โรงเรียนเอกชน)
๒.๓ การทำงานเพื่อสาธารณกุศล
พ.ศ. ๒๕๐๗–๒๕๓๘ - เป็นเลขานุการสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง
พระนครศรีอยุธยา ทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมของสตรี
ในเรื่องวัฒนธรรมประเพณี ความเป็นกุลสตรี และอื่นๆ
พ.ศ. ๒๕๒๕ – ๒๕๔๖ - เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ “ ศีลนิธิ” และเป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งมูลนิธินี้จะช่วยหญิง
ที่ถูกล่อลวง ค้าประเวณี ให้มีอาชีพดำรงตนอยู่ในศีลธรรม วัฒนธรรม
ประเพณีที่ดี
- ขณะนี้มูลนิธิได้เลิกล้มกิจการ เพราะหญิงถูกล่อลวง ค้าประเพณี
ลดน้อยลง จึงได้นำเงินของมูลนิธิมอบสมทบสร้างอาคารสำนักงาน
เหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พ.ศ.๒๕๓๗ – ปัจจุบัน - เป็นประธานผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัด พระนครศรีอยุธยา
แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ทำหน้าที่ดูแลติดตามและพิจารณาคดีที่
เยาวชนกระทำผิด ให้การอบรมและช่วยเหลือให้กลับตัว กลับใจ
ให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมที่ดี รู้จักรัก ประเพณีไทย รู้จักคำว่า ศีลธรรมและ
วัฒนธรรมที่ดี ไม่ประพฤติในเรื่องที่เสื่อมเสียอีก
- นอกจากนั้น ยังได้ทำหน้าที่ประสานงาน ปัญหาครอบครัว ไกล่เกลี่ย
การแก้ไขปัญหาครอบครัวแตกแยก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับลูกต่อไป
พ.ศ.๒๕๐๔-๒๕๔๙ - เป็นเลขานุการเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ได้ทำงานด้านสาธารณภัยทุกประเภทและเยี่ยมดูแลช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส
และคนชรา รวมทั้งคนพิการ
- การทำงานกาชาด ทำให้ได้ออกไปพบปะเยี่ยมราษฎร์ทุกอำเภอ ทุกตำบล
ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้รู้จักคนหลายระดับ
และในโอกาสเดียวกันได้มีโอกาสเข้าไปพูดอบรมนักเรียนและผู้ปกครอง
ในเรื่องที่เป็นประโยชน์และให้ร่วมกัน “รักษาไว้ซึ่งมรดกทาง ศิลป
วัฒนธรรมของกรุงศรีอยุธยา ราชธานีเก่า”
พ.ศ.๒๕๓๘–ปัจจุบัน - เป็นผู้นำในการทำนุบำรุงศาสนาหลายเรื่อง เช่น เป็นกรรมการมูลนิธิ
ภัตตาหาร วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งเป็นวัดต้นตระกูล ของ ม.ล.ปิ่น มาลากุล โดยได้รับการแต่งตั้งจาก กระทรวงศึกษาธิการ
- ได้ทำหน้าที่หารายได้เพื่อสมทบทุนมูลนิธิเพื่อให้พระสงฆ์ในวัดได้มี
อาหารฉันได้เพียงพอ ทั้งนี้เพราะวัดนี้อยู่ท่ามกลางชุมชนมุสลิม
- การที่จัดหาอาหารถวายพระ ทำให้พระไม่ต้องกังวลในการไป
บิณฑบาต ทำให้มีเวลาที่จะไปเทศนาอบรมสั่งสอนพุทธ-
ศาสนิกชน ให้ประพฤติปฏิบัติในศีลธรรมอันดีและสืบทอดประเพณี
อันดีงามต่อไป
พ.ศ.๒๕๓๙–ปัจจุบัน - เป็นประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำงานด้านวัฒนธรรมโดยตรง
เป็นที่ยอมรับของชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง
พ.ศ.๒๕๔๐–ปัจจุบัน นำนักเรียนเข้าค่ายปฏิบัติธรรมที่วัดสีกุก อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประจำทุกปี
และได้นิมนต์พระหลายวัดมาแสดงปาฐกถาให้นักเรียนฟังทุกปี
พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๔๗ ได้เป็นประธานเชิญชวนพุทธศาสนิกชนตั้งจิตอธิษฐาน ทำบุญทำทาน ทอดผ้าป่าสามัคคี ที่อำเภอลำปลายมาศ
จังหวัดบุรีรัมย์, อำเภอลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี, อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์และอำเภอบัวใหญ่
จังหวัดนครราชสีมา
พ.ศ.๒๕๔๕-ปัจจุบัน เป็นประธานหล่อเทียนพรรษาวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยเชิญชวนชุมชนร่วมทำบุญในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ทุกปี
จากการที่ได้คลุกคลีกับ “ความเป็นครู” มาตลอดเวลา จึงทำให้ต้องประพฤติปฏิบัติตน “อยู่ในแบบอย่างที่ดีงามมาโดยตลอด” และเกิดแรงจูงใจว่า
“ ถ้าจะทำงานให้ก้าวหน้า ให้สำเร็จจะมีแต่ความรู้เพียงอย่างเดียวไม่พอต้องมีพฤติกรรมในทางที่ดี มีศีลธรรม วัฒนธรรมเป็นแบบอย่างที่ดีได้ จึงจะมีคนศรัทธา เชื่อถือและยอมรับ ”
Ü ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงได้เริ่มสร้างผลงานด้วยการเข้ารับใช้สังคมในงาน “บริการชุมชน” เช่น งานกาชาด งานสมาคมต่าง ๆ จากงานต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสคลุกคลีกับชุมชนหลายกลุ่ม หลายระดับ หลายอาชีพได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก มีผลงาน มีการทำงานจริงจัง สม่ำเสมอ ทำให้ได้รับเลือกให้เป็น “กรรมการ” และ “ประธานหรือนายกสมาคมสโมสร ” ขององค์กรต่าง ๆ อาทิ เช่น
๑. เลขานุการเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ – ๒๕๔๙ เป็นเวลา ๔๕ ปี เป็นเลขานุการที่ยาวนานที่สุดของสภากาชาดไทย
๒. ประธานคณะกรรมการมูลนิธิศีลนิธิ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๕ – ๒๕๔๖
๓. นายกสมาคมประถมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๘ – ปัจจุบัน
๔. ประธานสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๘ – ๒๕๔๐
๕. ประธานผู้พิพากษาสมทบ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๗ – ปัจจุบัน
๖. ประธานสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๖ – ปัจจุบัน
๗. ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ถึงปัจจุบัน
๘. ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๗ – ปัจจุบัน
อยากฟังข้อคิด หรือใด ๆ จากอาจารย์จิระพันธุ์ ถ้าให้ท่านเขียนได้จะดีนะครับ เพราะคำสอนของครูรุ่นเก่าและเป็นคนที่ผูกพันกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีน้อยนะครับ จะเป็นการสะท้อนการศึกษายุคก่อนกับยุคปัจจุบัน สงสัยต้อขอร้องให้ท่านเขียนครับ แล้วก็จะมีบทกลอนแทรกอยู่ด้วยแน่ ๆ เลย ไม่อยากให้ความมีคุณค่าหมดไปกับท่านอยากจะให้ฝากไว้กับชนรุ่นหลัง "การศึกษาไทยในจังหวัดพระครศรีอยุธยา"