ประวัติกลุ่มวรรณกรรมป่งใบ


วิสัยทัศน์กลุ่มป่งใบ คือ เผยแพร่ข่าวสาร ผลิบานวรรณกรรม

ประวัติกลุ่มวรรณกรรมป่งใบ

สาคร  สารคาม และ ทัศนาวดี ผู้ค้นมาเล่า

ประวัติของกลุ่ม ป่งใบ ขอยกคำกล่าวของคุณแผ่นดิน จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในบล็อกhttp://gotoknow.org/blog/pandin/83835

ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นมาป่งใบได้ดี

กลุ่มวรรณกรรมป่งใบ  ก่อตัวและผลิบานขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยมหาสารคามเมื่อกลางปี 2536  (ครั้งนั้นยังเป็น มศว มหาสารคาม)  เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่พิสมัยในงานวรรณกรรม  ส่วนหนึ่งแจ้งเกิดเป็นนักเขียนในบรรณพิภพไปแล้ว  ไม่ว่าจะเป็น  คำผา  เพลงพิณ (สรุพงษ์  จังหาร)  ทัศนาวดี  (สุทัศน์  วงษ์กระบากถาวร)   อณูทิพย์  ธารทอง  สุขุมพจน์  คำสุขุม (สุขุม  คำภูอ่อน)  นอกจากนั้นเป็นนักเขียนมือใหม่ที่หลงใหลในวรรณกรรมอย่างถึงขั้วหัวใจ  อาทิ  สว่าง  ไชยสงค์  วิสัย   สมประสงค์  สาคร  สารคาม  (ธนสาร   บัลลังก์ปัทมา)  จากนั้นก็เป็นนักเขียนหน้าใหม่ มือใหม่ที่วนเวียนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองบรรณาธิการเป็นระยะ ๆ  รวมถึงข้าพเจ้าฯ  บ้างในบางโอกาส

ปรากฏการณ์รวมตัวของ "ป่งใบ  (ป่งใบ  เป็นอาการผลิใบของใบไม้.. เสมอเสมือนการผลิใบและแตกหน่อ - ก่อตัวของวรรณกรรมกลุ่มใหม่ของสังคม)  กลายเป็นปรากฏการณ์แรกเริ่มของกลุ่มคนที่รวมตัวเป็นกลุ่มวรรณกรรมกลุ่มแรกอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยในยุคนั้น  แต่ละท่านล้วนเป็นนิสิตปริญญาโท สาขาภาษาไทย  โดยมี คำผา  เพลงพิณ   เป็นพี่ใหญ่และทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการของจุลสารป่งใบและยิ่งได้ อาจารย์ไพฑูรย์  ธัญญา  (ผศ.ธัญญา  สังขพันธานนท์ :  นักเขียนซีไรต์  ปี  2530  จากรวมเรื่องสั้นชุด ก่อกองทราย)  มาเป็นที่ปรึกษา  คอยดูแลรดน้ำพรวนดิน  ยิ่งช่วยให้ ป่งใบ  ได้ ผลิใบ  ทายท้าฤดูกาลอย่างสง่างาม 

http://gotok

 

ย้อนรอยกลุ่มวรรณกรรมป่งใบ  ตอนที่ 1

คัดลอกจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=168428

      เอ่ยถึงกลุ่มวรรณกรรมป่งใบเมื่อหลายปีก่อนมีนักเขียนสกุลป่งใบเป็น

สกุลต่อท้ายไม่ว่าจะเป็นสุขุมพจน์ คำสุขุม ทัศนาวดี อณูทิพย์ ธารทอง

 ราชบดินทร์ ประกายธรรม   สว่างไชยสงค์ และอีกหลายคน

      ในวันนี้กลุ่มวรรณกรรมป่งใบแตกกิ่งก้านสาขาออกดอกผลิใบให้ชื่น

ชมหลายต้น

      บ่ายวันหนึ่งเมื่อต้นฤดูหนาวได้มีโอกาสอณูทิพย์ ธารทองนักเขียน

หนุ่มจากลุ่มน้ำโขง หนึ่งในนักเขียนกลุ่มป่งใบ เพื่อรำลึกถึงความหลัง

เมื่อครั้งรวมกลุ่มวรรณกรรมในมหาวิทยาลัย ดูเหมือนว่าเขาจะมี

ความสุขกับการที่ได้เล่าถึงเพื่อนผูง เล่าถึงความหลังในบรรยากาศเก่า ๆ

อยากทราบความเป็นมาของกลุ่มวรรณกรรมป่งใบ

       ป่งใบเป็นภาษาอีสาน คำว่า "ป่ง" หมายถึงผลิ หรือแตก ใบ ก็คือ

ใบไม้ เหมือนกับกลุ่มของพวกเราในยุคนั้นที่เริ่มล้มลุกคลุกคลานใน

เส้นทางสายวรรณกรรม

        ความคิดเรื่องการจัดตั้งกลุ่มวรรณกรรมน่าจะมาจ ากพี่คำผา

เพลงพิน(เสียชีวิตแล้ว) คำว่า "ป่งใบ" ถ้าจำไม่ผิดมาจากชื่อบทกวีใน

หนังสือเสียงสั่งจากอีสานของพี่คำผา ซึ่งเป็นผู้รอบรู้ทางวรรณกรรม

ที่บ้านของท่านจะเป็นร้านเช่าหนังสืออยู่บ้านโนนศรีสวัสดิ์

มีหนังสือทุกประเภทตั้งแต่บทกวี เรื่องสั้น การ์ตูน พวกเราชอบไปเช่า

หนังสือมาอ่านตอนหลังสนิทกันก็ยืมอ่าน ช่วงนั้นกลุ่มพวกเรากำลังเรียน

ปริญญาโท ที่ มศว มหาสารคาม(มหาวิทยาลัยมหาสารคามปัจจุบัน)

โดยมีอาจารย์ธัญญาสังขพันธานนท์ เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

 

 สมาชิกกลุ่มวรรณกรรมป่งใบในยุคนั้นมีใครบ้าง

       สมาชิกตอนนั้นมีทั้งนิสิตปริญญาตรี ปริญญาโท ที่สนใจงานด้าน

วรรณกรรม ประกอบด้วยราชบดินทร์  ประกายธรรม ทัศนาวดี

สว่าง ไชยสงค์ สุขมพจน์ คำสุขุม ธนสาร บัลลังค์ปัทมา

สุรเดช จันทร์สม วีรชัย แสงฉายา เกื้อกูล ขวัญทอง สุทัศน์ สังข์สนิท

บุญยิ่ง เคยพุดชา โพไซ สุนนะลาด(นิสิตปริญญาโท ไทยคดีจากลาว)

รวมทั้งชัชวาลย์ โคตรสงคราม ซึ่งเรียนอยู่ที่วิทยาลัยมหาสารคาม

ในขณะนั้นก็ไปมาหาสู่กันประจำในฐานะผู้สนใจงานวรรณกรรม

ย้อยรอยกลุ่มวรรณกรรมป่งใบ  ตอนที่ 2

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=168477

กิจกรรมกลุ่มวรรณกรรมป่งใบในยุคนั้น

     กลุ่มพวกเราเป็นกลุ่มที่สนใจวรรณกรรม กิจกรรมในยุคนั้น

น่าจะเป็นประเภทช่วยกันเขียน เวียนกันอ่าน วานกันชม เป็นความอบอุ่นเล็ก ๆ

น้อย ๆ ที่จะก้าวสู่การเป็นนักเขียน เราก็เป็นหูเป็นตาให้กัน เจองานของเพื่อนใน

กลุ่มที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร วารสารก็ซื้อมาพร้อมกับเขียนลายเชนต์มอบให้เจ้าของ

เรื่อง เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน บางทีได้ค่าเรื่องมา 500 บาท เลี้ยงพรรคพวก

มากกว่านั้นก็มี

       กิจกรรมอย่างหนึ่งน่าจะเป็นการจัดทำจุลสาร "ป่งใบ" ซึ่งถึงว่าเป็นหนังสือ

ทำมือในยุคบุกเบิกก็ว่าได้จะมีเรื่องสั้น บทกวี และบทความของสมาชิกในกลุ่ม

อุปกรณ์ในการจัดทำคือเครืองพิมพ์ดีดกระเป๋าหิ้วของทัศนาวดี หอบหิ้วกันไปหอบ

หิ้วกันมา ตอนนั้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้กัน หัวเรื่องก็ต้องใช้อักษรลอก เมื่อทำ

เสร็จแล้วทำออกมาแจกจ่ายเพื่อนฝูงให้ช่วยอ่าน ให้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยบ้าง

เป็นความภาคภูมิใจที่เห็นผลงานของตนเผยแพร่

บทบาทของกลุ่มวรรณกรรมป่งใบในมหาวิทยาลัย          

        ในส่วนของผมจะรู้กันในหมู่เพื่อนสนิทว่าเป็นนักเขียน จะแสดงตัวทาง

หน้าหนังสือมากกว่า โดยเฉพาะผมจะใช้คำว่า "ป่งใบ" ต่อท้ายนามปากกามาก

ที่สุด

           กิจกรรมในมหาวิทยาลัยส่วนมากจะเป็นการเสวนาทางวรรณกรรมกับชุมนุม

วรรณศิลป์ของมหาวิทยาลัย จำได้ว่ากลุ่มของพวกเราเปิดตัวครั้งแรกในงาน

เสวนาวรรณกรรมของมหาวิทยาลัย มีการเชิญนักเขียนจากส่วนกลางมาร่วม

เสวนา เช่น พิบูลย์ศักดิ์ ละครพล ศักดิ์ศิริ มีสมสืบ ไพวรินทร์ ขาวงาม

ซึ่งตอนนั้นมีคุณสุมาลี โพธิ์พยัคฆ์ กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี

สมาชิกในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง     

         เมื่อจบการศึกษาต่างคนก็แยกย้ายกับกลับภูมิลำเนา ทุกคนต่างมีภาระหน้าที่

เริ่มห่างเหินกันไป ครั้งล่าสุดเคยรวมกันในงาน "วรรณกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย"

ทางมหาวิทยาลัยเชิญสมาชิกกลุ่มป่งใบมาร่วมงาน เป็นการรำลึกความหลัง

 จำได้ว่าวันนั้น  ทัศนาวดีอ่านบทกวีรำลึกถึงพี่คำผา เพลงพิณด้วย

 

ความภาคภูมิใจของกลุ่ม

        ที่เป็นเนื้องานจริง ๆ ก็จะมีสุขุมพจน์ คำสุขุม จากรวมบทกวี "

"สายรุ้งของความรัก" ที่เข้าชิงกวีซีไรต์รอบสุดท้ายปี 2543 อีกคนน่าจะเป็น

ทัศนาวดี มีรวมเรื่องสั้น "ในโลกแคบ" "โลกใบเก่ายังเศร้าเหมือนเดิม" รวมทั้ง

รวมเรื่องสั้นจากเวียตนาม ซึ่งทั้งสองลงทุนพิมพ์งานโดยใช้ทุนตนเอง ไม่มีสำนัก

พิมพ์จัดพิมพ์ให้ ส่วนราชบดินทร์ ประกายธรรมมีผลงานทางนิตยสารเป็นระยะ

ด้านสว่าง ไชยสงค์ และสาคร สารคาม นั้นเงียบหายไป เป็นอย่างไรส่งข่าวให้

พรรคพวกทราบด้วย

       อณูทิพย์ ธารทองกล่าวเอ่ยในตอนท้ายด้วยความอารมณ์ดี

 

สาคร  สารคาม และ ทัศนาวดี ผู้ค้นมาเล่า

สาคร  สารคาม และ ทัศนาวดี ผู้ค้นมาเล่า

 

หมายเลขบันทึก: 197783เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2008 12:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (61)

คิดฮอดหลาย ๆ ...

เล่มใหม่กำลังอ่านอยู่...

....

เดี๋ยวคุยใหม่นะครับ

  • โอโห นานมากๆๆ
  • ตอนนั้นชอบอ่านก่อกองทราย
  • ตอนอาจารย์กลับมาสอนแล้ว
  • ไม่คิดว่า กล้าวรรณกรรมจะยังเหลืออยู่
  • ตอนนั้นทางใต้มีกลุ่ม นาครบวรรัตน์
  • ขอบคุณครับ
  • ทำให้ระลึกถึงเรื่องดีๆๆ
ทัศนาวดี-สารคร สารคาม

สวัสดีครับ คุณแผ่นดิน

ผมใช้คำว่า คุณแผ่นดิน เพราะมันมีความหมายในตัวครับ ไม่คิดว่าจะพบ ป่งใบได้ไวขนาดนี้ครับ นับถือจริง ๆ หวังว่าคงจะส่งบทกวี กล้าวรรณกรรมมาลงบล็อกนี้บ้างครับ และขอบคุณข้อมูล ป่งใบ ครับ

ทัศนาวดี - สารคาม สารคาม (ตอนนี้ช่วยกัน 2 แรง ก่อนครับ)

ทัศนาวดี-สารคร สารคาม

ชาวป่งใบขอขอบพระคุณท่านคุณขจิต ฝอยทอง อย่างสูงครับ

ด้วยความขอบคุณสุดซึ้ง

ทัศนาวดี - สาคร สารคาม

เคยอ่านงานอาจารย์ ชอบมากครับ กลุ่มป่งใบปัจจุบันยังรวมกันบ้างไหมครับ

อาจารย์ทัศนาวดีสบายดีไหมครับ

มาเยี่ยมแล้วนะ พร่งนี้ ทัศนาวดี ขึ้น(เวที)แน่ ที่หนองสอพิทยาคม พูดคุยภาษาวรรณกรรม ครบทุกรส สดตลอดรายการ งานนี้หอบหนังสือมาแจกเด็กและมอบเข้าห้องสมุดด้วย//ขอบคุณ //หากมีใครเขาพูดว่าพี่ไม่คิดถึง สาคร สารคาม นั่นแสดงว่าเขาพูดไม่จริง .......

ผ่านไปด้วยความประทับใจ ทัศนาวดี หอบหนังสือแจกเด็กมัธยมปลายที่หนองสอ และมอบเข้าห้องสมุด รวมกว่า 60 รายการตามคาด งานนี้เด็กชอบใจใหญ่ กรณีเด็กแจกเฉพาะผู้ที่เขียนโดนใจเท่านั้น ///รายนามผู้ร่วมเสวนา คือ ทัศนาวดี คำบางบุตร ไชยสงค์ ศิรินภา อิ่มประสงค์ 6/1 อรทัย จันทวิชัย 6/1 /// เมื่องานนี้ผ่านไปก็ให้คิดถึงเพื่อนพ้องนักเขียน อยากจะให้มาจัดเข้าค่ายพักแรมเสวนาทางวรรณกรรมสักคืนสองคืน เพื่อสนองความปรารถนาและจุดประกายไฟให้เด็ก ที่พวกเขามีความกระตือรือร้นอยากเรียนรู้ ถ้าท่านใดมีแนวคิดอย่างไรแสดงความคิดเห็นมาด้วยนะคราบบบบบบบ

การไปจุดไฟวรรณกรรมให้เด็กนักเรียนในครั้งนี้ ถือว่าประสบผลที่น่าพอใจอย่างยิ่ง อาจารย์สว่าง ไชยสงค์และคณะครูได้ต้อนรับเป็นอย่างดี เด็กหลายคนมีแววนะ น่าต่อยอดส่งเสริม งานนี้ผมจึงแจกหนังสือไม่อั้น ทั้งของตัวเอง และที่ได้รับมาจากเพื่อนมิตรในวงการ อาทิ หนังสือของไพวรินทร์ ขาวงาม กุดจี่ ศิวกานท์ ปทุมสูติ ภานุมาศ ภูมิถาวร เป็นต้น หวังว่าโอกาสหน้าคงจะได้ไปติดตามดูความงอกงามของเด็ก ๆโรงเรียนหนองสอพิทยาคมอีก และครั้งต่อไปอยากให้เพื่อนๆป่งใบมาช่วยกันด้วยเด้อ

ฮักแพงหลาย

ทัศนาวดี

ทัศนาวดี แจ้งมาว่าจะทำ "หนังสือทำมือ" ฉลองครบรอบ ๑๕ ปี ป่งใบ ขอเชิญชาวป่งใบมาร่วมวงวรรณกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน

ด้วยรักและศรัทธาในอำนาจวรรณกรรม

สาคร สารคาม

ขอแสดงความยินดีด้วยกับ "ทัศนาวดี"

สำหรับ "หมู่บ้านแอโรบิก"

ที่เข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ คงได้รับข่าวดี

คำบางบุตร ไชยสงค์

ขอรายละเอียดด้วย จะได้วางแผนถูก รวมป่งใบได้ตงไม่ใช่ความฝันนะ ดีใจจริง ๆ เร่งประสานงานนะ คุณสาคร สารคาม

ส่งต้นฉบับด่วนครับ

ส่วนซีไรต์..ไม่มีความเห็นดอกเด้อ

(..ปากแตกซะบ้อ..)

ป่งใบ ฉบับ ๑๕ ปี น่าจะเปิดบันทึกใหม่ในบลอกป่งใบนี้ ใส่บทกวีเก็บไว้ด้วยนะครับ

ร่วมลุ้นซีไรต์ 51 ด้วยคนครับ

คิดฮอดคำบางบุตรครับ

มาอ่านประวัติ "ป่งใบ" และเยี่ยมยามไทป่งใบค่ะ

เมื่อวาน กลับมาจากงานบรรบายที่ อ.บัวลาย นครราชสีมา (งานนี้พระแพงคำ ป้องจันลา ผู้เขียนเพลงข้างหลังภาพอันโด่งดัง ท่านเป็นแม่งาน) เด็กตั้งใจ มุ่งมั่นดีมาก วิทยากรหลายท่าน อาทิ ไพวรินทร์ กุดจี่ ทนง โคตรชมภู ไฝ สันติภาพ ครูเบิ้ม นิด ลายสือ อาทิตย์ บำรุงเอื้อ ฯ ต่างชื่นชม

ค่ำยังมีคอนเสิร์ตการกุศล นานทีปีหนได้พบเพื่อนพ้อง หลังงานแล้ว จึงได้พูดคุยเสวนากับ พี่หงา คาราวาน ไข่ มาลีฮวนน่า จ่าหลอย เฮนรี่ และเพื่อนในแวดวงศิลปะ จนเกือบซอดแจ้ง

ส่วนงาน 16 ต.ค. ก็นัดหมาย ย้ำอีกทีว่า ขอให้เพื่อน ๆ "ป่งใบ" สละเวลากันด้วยนะครับ ผ่านกาลมานานเนิ่น ยากเหลือเกินจะได้พบกัน

คึดฮอดทุกคน

งานเยอะนะ เมื่อไหร่จะมาหนองสออีกล่ะ เด็กคิดถึง แย้ว !!!!!

รวมคนป่งใบ บอกเวลาด้วย กลางวันหรือกลางคืน หนีบคนข้างเคียงไปด้วยได้ไหม ???

ยินดีเสมอครับท่านคำบางบุตร ผมเองนัดหมายเพื่อนสมาชิกป่งใบวันที่ 16 ตุลาคม เวลา ก่อนเที่ยง พกมครมาดเวยก็ได้ครับ และโอกาสนี้ขอเชิญทุกท่านด้วย โดยเฉพาะมิตรเพื่อนเก่าแก่ อาทิ ท่านเจน อักษราพิจารณ์ ท่านชัชวาลย์ โคตรสงคราม ท่านฮอยล้อ ฯลฯ

16 ต.ค. 51 อยู่ได้ไม่นาน เพราะ โทมง านกฐินพอดี กะจะดริ๊งค์สัก 2 - 3 เป๊ก พอหอมปากหอมคอ ก่อนลากลับมาช่วยงานกฐินที่กมลาไสย / สาคร สารคาม มาไหม

ทันญารัตน์ บุญเทียบ

สวัสดีค่ะ อ.สว่าง ไชยสงค์ เป็นงัยบ้างค่ะ อาจารย์คงสบายดีนะค่ะ หนูมาเรียนที่สารคามก็ดีนะค่ะ ไม่อะไรทำก็มานั่งเล่นเน๊ตก พอดีนึกถึงอาจารย์ก็เลยลองเปิดเข้าเว๊ตโรงเรียนเข้ามาทักทายค่ะ

อาจารย์คงจะจำได้นะค่ะ

สวัสดีครับทัศนาวดี

กลับถึงกรุงเทพฯหรือยัง

ช่วยดูแลต้นฉบับ 15 ปี ป่งใบ ด้วยเด้อ

ต้นฉบับ "ป่งใบ 15 ปี" กำลังดูอยู่อย่างเอาใจใส่ ตอนนี้อยากขอ สาคร สารคาม สุขุมพจน์ และ เถิกผู้ ด้วย

เปิดเทอมใหม่ก็ยุ่งเหมือนกัน ยิ่งรับหน้าที่หัวหน้าภาค(อีสาน) ยิ่งงานยุ่งหนัก อยากเขียนตำราก็ไม่นิ่ง เรื่องสั้นชุดใหม่ อยากให้ดีกว่าเก่าก็ได้แต่วาดหวัง เลื่อนลอย และที่สำคัญ อยากย้ายกลับบ้านครับ

คึดฮอดบ้านหลาย ซำบายดีเด้อเพื่อนมิตร

ดีใจหลายที่ได้พบอณูทิพย์ ธารทอง ที่เป็นโรคกลัวคอม (พิวเตอร์)

คิดถึงทันญารัตน์ บุญเทียบ ดุจกัน ทุกลมหายใจแลยแหละ เมลล์ไปนะ[email protected] รัก

ป่งใบอีกคราแรงกว่าเดิม

ยิ่งริเริ่มผลิดอกออกรวงผล

นับวันแตกแยกกิ่งก้านสู่สาถุชน

มากเหลือล้นบนทางวรรณคดี

ข่าวชาวป่งใบ

จากการไปร่วมงานประกาศผลรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด เมื่อ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ โรงแรมดุสิตธานี ชาวป่งใบเราได้รับรางวัลดังนี้

สุขุมพจน์ คำสุขุม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทกวีนิพนธ์ (ระเบียงตะวัน) รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 50000 บาท

ทัศนาวดี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รวมเรื่องสั้น หมู่บ้านแอโรบิก รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 30000 บาท

แถมด้วยหลานชายชาวป่งใบ (ลูกชายคนเดียวของพี่คำผา เพลงพิณ) รางวัลชนะเลิศประเภทนักเขียนหน้าใหม่ (เยาวชน) จากนวนิยาย (จำชื่อไม่ได้) มิ่งมนัสชน จังหาร ใช้นามปากกาว่า ปัเจกปกรณ์ น่าจับตา น่าชื่นชม

ข่าวชาวป่งใบ

จากการไปร่วมงานประกาศผลรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด เมื่อ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ โรงแรมดุสิตธานี ชาวป่งใบเราได้รับรางวัลดังนี้

สุขุมพจน์ คำสุขุม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทกวีนิพนธ์ (ระเบียงตะวัน) รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 50000 บาท

ทัศนาวดี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รวมเรื่องสั้น หมู่บ้านแอโรบิก รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 30000 บาท

แถมด้วยหลานชายชาวป่งใบ (ลูกชายคนเดียวของพี่คำผา เพลงพิณ) รางวัลชนะเลิศประเภทนักเขียนหน้าใหม่ (เยาวชน) จากนวนิยาย (จำชื่อไม่ได้) มิ่งมนัสชน จังหาร ใช้นามปากกาว่า ปัจเจกปกรณ์ น่าจับตา น่าชื่นชม

ยินดีด้วยครับกับท่านสุขุมพจน์และท่านทัศนาวดี จะเลี้ยงฉลองที่ราชภัฏพระนครเมื่อไรบอกด้วยนะครับ และสมาชิกป่งใบ...อย่าลืมติดตามบลอกป่งใบ ตอนที่ 3 ข่าวชาวป่งใบนะครับ

ดีที่สุดสุดดีมีที่นี่

หาใดดีกว่านี้มีที่ไหน

ยิ่งนับวันออกดอกผลิบานใบ

ที่นี่ไซร้คือป่งใบใบผลิบาน

ดีใจกับชาวป่งใบที่ได้รับรางวัลอันทรงเ้กียรติ ดีใจด้วยครับ

ปีใหม่นี้ สวสัดีครับ

ฝากความปรารถนาดีไปยังทุกคนด้วย ขอให้มีกำลังใจ และหวังว่า

คงแวะเวียนมาเยี่ยมชาวป่งใบด้วยนะครับ ส่วนเรื่องรวมเล่ม ป่งใบนั้น กำลังดำเนินการครับ

คนที่ครูเคยพูดว่าฝังลึกและจำวันเกิดของครูได้

ถึงครูสว่างที่เคารพ ขอแสดงความยินดีที่ครูได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนอนุกูลนารี ยังรักและเคารพครูสว่างเสมอ

ย้ายที่ทำงาน ขอเป็นกำลังใจให้ คำบางบุตร จงก้าวหน้า ๆๆๆๆ เด้อ ยังรออ่านงานชิ้นใหม่อยู่นะครับ

ยินดีด้วยครับกับท่านมหาสว่าง คำบางบุตร ที่ได้เปลี่ยนที่ทำงาน เค้าบอก 10 ปี เปลี่ยนที่ทำงานหนก็สร้างสีสันดีครับ

SIRINAPAคนเดิมไม่เหินแต่จะเพิ่มทุกวัน

การพบกันคือการเริ่มต้นของคำว่าจาก

ขอให้ครูผู้สรรค์สร้างลูกศิษย์ได้พบกับอะไรที่ใหม่ในรั้วของอนุกูลนารีและลูกศิษย์คนนี้จะไม่ลืมครู และหวังว่าครูคงจะไม่ลืมลูกศิษย์คนนี้เช่นกันนะครูสว่าง

อณูทิพย์ ธารทอง หายหน้าไปเลยนะครับ ไหนทัศนาวดีบอกทำตัวเป็นไวรัสแฝงอยู่ในบลอก โอเคเนชั่น อยู่บลอกไหนช่วยบอกด้วยครับ

ขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ ไม่ว่าจะเป็นสาครสารคาม ทัศนาวดี ศิรินภา อิ่มประสงค์ อนูทิพย์ ธารทองและอีกหลายคนที่เอ่ยนามไม่ทั่วถึง ผมยังรัก เชื่อมั่น ศรัทธาในความเป็นกัลยาณมิตร และความมีน้ำใจใฝ่รักทุกท่านทุกคน อนุกูลนารีอาจเป็นที่ใหม่แต่ใจดวงเดิมนะครับ ไม่มีอะไรเปลียนในความเป็นมหา หมอสู่ขวัญ เจ้าพิธีกรรม แม้กระทั่งหมอหมี อีกหน่อยก็จะเที่ยวลงมีดหมอใคร ต่อใครแล้ว เอิ๊ก เอิ๊ก ฮ่า ฮ่า รักนะครับ

พี่น้องครับ..

หาวันว่างยากเหลือเกิน เมล์ส่งมากก็ขอบคุณหลาย ไม่ค่อยได้เปิดอ่านเลย ยอมรับครับ ตอนนี้พยายามหาทางออกจาก กทม.อยู่ ใจมันถามหา "ความจริงของชีวิต" คิดทบทวนเสมอว่า เราต้องการอะไรกันแน่..บ้านเกิด ชีวิตที่สงบ เพื่อนพ้องน้องพี่ บุพการี บรรยากาศเก่าๆในอดีต ผมคิดว่ากรุงเทพฯกับผมคงหย่าขาดกันในเร็ววันนี้แหละครับ

กลับไปเก็บ..ดอกจานที่บ้านแม่

กลับไปแช่..น้ำหนองคลองสายเก่า

กลับไปเยือน..เพื่อนซี้ที่เคยเย้า

กลับไปเฝ้า..เดือนหงาย..ที่ปลายนา..

คิดถึงครับ

กลุ่มวรรณกรรม "ป่งใบ"ขอร่วมคารวาลัย

รงศ์'วงษ์สวรรค์ พญาอินทรีแห่งวงวรรณกรรมไทย

ขอท่านไปสู่สุคติ นิรันดร์.

เวลาดั่งวารี

มิเคยมีจะหยุดไหล

วันวานย่อมผ่านไป

เหลือไว้เพียงความทรงจำ

รักนะหอยขม

รักมิอาจครอบครอง เพียงแค่ได้มองก็เพียงพอแล้ว

กลับบ้าน..

ในที่สุด..เมื่อเวลาเดินทางมาถึงจุดที่ทำให้ชีวิตต้องเปลี่ยนฉาก

ความเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..

การย้ายที่ทำงานจากราชภัฏพระนคร ที่อยู่มานาน 13 ปีนั้น เป็นสิ่ง

ที่ศิลปินเล็กๆอย่างผมทำใจลำบากเอาการ ที่นั่นอบอุ่น และไม่มีปัญหา

เกี่ยวกับการทำงานเลย ทุกคนเข้าใจตัวตนของผม และเคารพกรอบที่

ผมรับรองว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานในหน้าที่ แต่การที่ผมจากมานั้น

ก็ด้วยเหตุผลส่วนตัว และคิดถึงบ้าน คิดถึงฉากเก่าๆวัยเยาว์ และคิดถึง

หลายสิ่งอย่างที่จากไปนาน

โดยส่วนตัว ยังคิดว่า ไม่อาจคาดเดาว่าจะต้องย้ายที่ทำงานอีกครั้งหรือไม่

มันเป็นเรื่องอนาคต หากย้ายอีกทีก็อยากกลับไปที่เดิม เพราะการเริ่มต้นอะไรใหม่

แต่ละครั้งเป็นเรื่องใหญ่มาก

เกี่ยวกับผองเพื่อน คงมีเวลาพบกันมากขึ้น หากอะไรๆของผมเข้าที่เข้าทาง

ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ยุ่งอยู่กับการเริ่มต้นใหม่อย่างว่า

แต่การรวมเล่มบทกวีของชาวป่งใบ ยังคงมุ่งมั่นกันอยู่ ส่วนงานของผมนั้น

ก็ไม่ค่อยได้ขยับเท่าไหร่ แต่ก็มีเรื่องสั้นลงในราหูอมจันทร์ฉบับบล่า

และรวมเล่ม หมู่บ้านแอโรบิก จัดพิมพ์ครั้งที่ 3 คงเพราะพอขายได้บ้าง

ถึงไม่ตูมตามเหมือนหนังสือที่ได้รางวัล แต่ก็ดีใจที่มหาวิทยาลัยรังสิต และ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ธัญบุรี)กำหนดให้เป็นหนังสืออ่านนอก

เวลาของนักศึกษา ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แค่อยากให้คนอ่านเยอะๆ

ไว้คุยกันใหม่นะครับ มีอะไรแลกเปลี่ยนเพื่อเยียวยากันและกันก็ส่งข่าวมา

ผมยังสบายดี

ดีใจด้วย ที่ได้กลับบ้าน นะทัศนาวดี

คิดถึง อ้อ ศิรินภา

กราบสวัสดี มหาบูรพาจารย์ด้านงานกวี

สวัสดีคุณครูสว่าง ไชยสงค์นะคะ

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ลูกศิษย์คนนี้

ก็ดีได้ด้วยคำสอนครู ดีเพราะครูเป็นผู้จุดประกายให้

งานศิลป์แผ่นดินไทยยังคงอยู่เสมอ

ถ้ามีคนที่สร้างสรรค์งานกวี

คิดถึงครูสว่างเสมอนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าหนูเป็นใครก็ลองเปิดเมลล์

ของอาจารย์ดูนะคะ หนูส่งเมลล์ไปหาและรายงานตัวเรียบร้อยแล้วค่ะ

ด้วยรักจากใจ...

...ลูกข้าวนึ่ง...

อันนทีที่ไหลบ่าในตาเจ้า

ชั้่งหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวเหลียวไม่เห็น

ยิ่งมองยิ่งรู้ยิ่งดูว่าลำเข็ญ

หรือมันเป็นเพียงอุบายคล้ายความจิง

คิดฮอดป่งใบ

ยิ่งจะลืมกลับยิ่งจำและทำต่อ

ยังสานก่อความนัยที่ไขขาน

กลับยิ่งเพิ่มทวีที่กำยาน

สอดผสานในอุรานั้นน่าทำ........................

คิดถึง

เสมอ

โอ๊ยเศร้า.....

อิอิอิอิ 55555555

ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรลงไปต่อดี

เพราะดวงตากำลังจะมีน้ำที่มิอาจห้ามไม่ให้ไหลออกมาได้

ไปแล้วค่ะ

ไปเรียน แล้วจะแวะมาบล๊อกให้ใหม่นะค่ะ

บ๊ายบาย

ย่างเข้าหน้าหนาวแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ทั้งสุขภาพกายและใจ ขอให้

เข้มแข็ง และมีความสุขทุกคน

ฝากบทกวีที่เขียนไว้นานมาแล้ว เพื่อเป็นกำลังใจ และเยียวยากันนะครับ

หนาว

หนาว ฝนหนาวจับเนื้อ จับใจ

หนาว เหน็บเจ็บทรวงใน อกข้า

หนาว กายอิงผิงไฟ พอผ่อน คลายนอ

หนาว รักจักเจียนบ้า ยากข้ามความหนาว ฯ

ทัศนาวดี

ชั่วช้างกระดิกหู

ชั่วงูแลบลิ้น

ชั่วเขียดกระโดดขึ้นจากดิน

ก็ยังดีกว่าไม่ถวิลถึงกันเลย คริคริ 55555

ถึงวรรณมิตร

นานทีเดยวที่ไม่มีข่าวคราวอันใดผ่านเข้ามา แต่เชื่อว่าทุกคนก็กำลังทำงาน ดำเนินชีวิตตามเส้นทางของตน

ผมเองก็เช่นกัน วันๆสอน อ่าน เขียน เตร็ดเตร่บ้างตามแต่โอกาสอำนวย เอาเป็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงวิถีมาอยู่

สารคามสบายดี พบสุขุมพจน์บ่อยๆ เจออาจารย์ธัญญาบ้าง ส่วนเรื่องกิจกรรม"ป่งใบ" นั้น ขอส่งข่าวไปถึงเพื่อนสมาชิก

ว่า ปีนี้ครบครอบ 17 ปีป่งใบ และ ครอบรอบ 10 ปีแห่งการจากไปของ "คำผา เพลงพิณ" เราควรทำกิจกรรมร่วมกันนะ

ผมคิดว่า

1. รวมเล่มผลงานสมาชิก(เสียที) ท่านพี่ราชบดินทร์ส่งง่านมาที่เมล์ผมด้วยนะครับ (ทุนคงไม่มากหรอก เราก็พิมพ์น้อยๆ เป็นหนังสือ

ทำมือนั่นแหละ เรื่องสั้นบ้าง บทกวีบ้าง บทความบ้าง หรือยังไง คุยมาด้วยนะครับ)

2. ทำเสื้อ ..ที่ระลึก ช่วยกันออกแบบด้วยครับ เดี๋ยวผมจะสืบราคามาบอก หรือใครว่าไงส่งข่าวด้วยนะครับ

3. ประกวดกวีรางวัล "คำผา เพลงพิณ" อันนี้เรื่องสำคัญ เราควรทำให้พี่คำผานะ ผมคิดว่าหัวข้อ "เสียงสั่งจากอีสาน" น่าจะเหมาะ

ส่วนรางวัลนี่ก็น่าจะคุยกันด้วย เอาโล่ เกียรติบัตรและเงินรางวัลพอประมาณ(ได้ไหม ส่งข่าวมาแลกเปลี่ยนด้วย) ผมนึกไว้ว่า ประกาศรับสมัครเร็วๆนี้ ตัดสินกลางเดือนกรกฎาคม มอบรางวัล 29 กรกฎาคม (วันภาษาไทยแห่งชาติ) ที่ราชภัฏมหาสารคาม

ส่งข่าวด้วยครับ

ร่วมเชิญชวนส่งผลงานบทกวีร่วมประกวด ปีนี้ทัศนาวดีเอาจริงแน่นอน

สว่างชัย มหาเปรียญธรรม

คิดถึงทุกท่านเด้อ คะรับ

อณูทิพย์ ธารทอง ปรากฎตัวในบลอก โอเคเนชั่น ช่วงปลายมิ.ย. คล้ายกำลังทะเลาะกับใครบางคน

ดีครับจารย์

มีผลงานให้อ่านบ้างหรือเปล่าครับ ไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้เท่าไร หรือว่าผมไกลชายขอบเกินไป

เมื่อช้างไม่กระดิกหู

เมื่องูไม่แลบลิ้น

เมื่อเขียดไม่กระโดดขึ้นจากดิน

เมื่อนั้นถึงจะสิ้นคิดถึงกัน

ห่างเหินไม่ห่างหาย

ห่างเพียงกายแต่ใจอยู่

ร่วมใจร่วมรับรู้

ร่วมเคียงคู่คนวรรรกรรม

"ป่งใบผลิ บานสาส์น วรรณกรรม

หลายคนทำ หลายคนคิด หลายคนเขียน

ให้"คอ"คน วรรณกรรม ได้แวะเวียน

มาผลัดกันเขียน เวียนกันอ่าน วานกันชม"

มาชื่นชมในสิ่งที่ชื่นชอบ

วัฎจักร หมุนเวียน แล้วผันผ่าน

วันวาร วิกฤตน้ำ ท่วมขัง

ต้นไม้ ใบหญ้า เอวัง

น้ำลด พรรณพืช ป่งใบ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท