ก่ารประกันคุณภาพการศึกษา


การประกันคุณภาพการศึกษาจะช่วยให้ผู้เรียนมีคุณภาพมากขึ้น

การประกันคุณภาพการศึกษา

ศาสตรจารย์สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ (ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา)

 

สถานศึกษาที่พร้อมรับประเมินภายนอกจะพิจารณาจาก

          1. มีระบบการประกันคุณภาพภายใน ซึ่งประกอบด้วย ระบบการพัฒนาคุณภาพ โดยเริ่มตั้งแต่การกำหนดมาตรฐานของสถานศึกษาที่ควรจะเป็น ซึ่งควรเป็น 14++ กล่าวคือ มาตรฐานการศึกษาสำหรับประเมินภายนอกจำนวน 14 มาตรฐาน ซึ่งคณะรัฐมนตรีมติอนุมัติโดยถือว่าเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่สถานศึกษาทุกแห่งพึงมีมาตรฐานดังกล่าว

 

 

          บวก (+) ที่หนึ่งเป็นการเพิ่มมาตรฐานตามความต้องการของต้นสังกัดและบวก (+) ที่สอง เป็นมาตรฐานความต้องการของชุมชนและสถานศึกษา จึงกำหนดวิถีการพัฒนาสถานศึกษาสู่มาตรฐานที่กำหนด และจัดระบบการส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานตามวิถีทางที่กำหนดต่อไปกล่าวคือมีระบบการตรวจติดตามคุณภาพเพื่อแนะนำให้ดำเนินการตามแผนที่กำหนด และมีระบบประเมินคุณภาพภายใน ตามเจตนารมณ์ของการประกันคุณภาพการศึกษา จะเห็นว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาร่วมกับชุมชนโดยการสนับสนุนส่งเสริมจากต้นสังกัด จะเห็นได้ว่าบทบาทของต้นสังกัดในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา เปลี่ยนแปลงจากบทบาท " การควบคุมสั่งการ" เป็น"การสนับสนุนส่งเสริม"

          2. สถานศึกษาจัดทำรายงานการประเมินตนเองในแต่ละปีการศึกษา กล่าวคือ เป็นการจัดทำรายงานประจำปีในรูปของรายงานการประเมินตนเอง ซึ่งประกอบด้วยการแนะนำสถานศึกษาอย่างลุ่มลึกทั้งในด้านความมุ่งมั่น หลักการ ภาคี ระบบ และโครงสร้างการบริหารของสถานศึกษาแผนระยะยาวและแผนระยะสั้น การรายงานกิจการของสถานศึกษาในรอบปี ผลประเมินประสิทธิผลของสถานศึกษา โดยเทียบกับมาตรฐานการศึกษาที่กำหนด ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของสถานศึกษาในปีการศึกษาต่อไปตลอดจนภาคผนวกเกี่ยวกับหลักฐาน สถิติ เอกสารสำคัญที่ใช้ในการประเมินตนเองของสถานศึกษา
          สถานศึกษาใดที่มีการดำเนินการประกันคุณภาพภายในและมีการประเมินตนเองในรอบปีและจัดทำเป็นรายงานประจำปี ก็ถือได้ว่าสถานศึกษาแห่งนี้มีความพร้อมรับประเมินคุณภาพภายนอกแล้ว

การประกันคุณภาพภายในที่ดีจะต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้

 

          1. เป็น " ระบบ" ซึ่งมีทั้งปัจจัยนำเข้า กระบวนการและผลลัพธ์ที่คาดหลังมีทั้งระบบการพัฒนาคุณภาพระบบการตรวจติดตามคุณภาพและระบบการประเมินตนเอง
          2. เป็นระบบที่สถานศึกษาพัฒนาขึ้นโดยดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนจากต้นสังกัด มิใช่การควบคุมสั่งการจากต้นสังกัด
          3. ระบบประกันคุณภาพภายในต้องผสมผสานกับงานบริหารปกติ กล่าวคือ บูรณาการเชื่อมโยงกับการปฎิรูปการเรียนรู้ การสอน การพัฒนาบุคลากรและการบริหารฐานโรงเรียน ( SBM)
          4. การประกันคุณภาพภายในเป็นเรื่องของทุกคนทั้งในสภานสึกษาและชุมชนภายใต้การนำและมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพของ "ผู้บริหาร" เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง

 

          5. ทำงานทุกภารกิจอย่างครบวงจรทั้งระดับบุคคลและหน่วยงานมีการวางแผน ดำเนินการประเมิน และปรับปรุงงานอย่างสม่ำเสมอ
          6. การทำงานของทุกคนในสถานศึกษาไม่ว่าการบริหารจัดการ การสอนและการเรียนรู้มุ่งสู่ผลประโยชน์ที่จะเกิดแก่ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่งมีความสุขสนุกกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต
          7. การดำเนินการประกันคุณภาพภายในที่ควบวงจร คือเมื่อถึงปีการศึกษาจะต้องมีการประเมินตนเอง เพื่อรวมสรุปยอดแล้วจัดทำเป็นรายงานประจำปี รายงานให้หน่วยงานต้นสังกัด หน่ายงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณะทราบ
          8. ผลประเมินจะนำไปสู่การปรับปรุงการบริหาร การเรียนรู้และการสอนโดยถือเป็นหน้าที่ของผู้บริหารต้องกำกับดูแลให้มีการประเมินคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

 

 

หมายเลขบันทึก: 195629เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2008 01:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

แวะมาเยี่ยมเยียน บทความดีมากๆ คุณยายขี้สงสัยยังไม่นอนอีกหรือคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท