...จรรยาบรรณครู ๙ ประการ...
๑. ครูต้องรักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริม ให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
๒. ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามให้เกิดแก่ศิษย์อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
๓. ครูต้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ
๔. ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์
๕. ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์ อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ให้ศิษย์กระทำการใด ๆ อันเป็นการหาประโยชน์ให้แก่ตนเองโดยมิชอบ
๖. ครูย่อมพัฒนาตนเอง ทั้งในด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ
๗ ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครู และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพครู
๘ ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชน ในทางสร้างสรรค์
๙ ครูพึงประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย
จรรยาบรรณครูเกี่ยวกับผู้รับบริการได้แก่
จรรยาบรรณข้อที่ 1 ครูต้องรักและเมตตาศิษย์โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริม ให้ กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
คำอธิบาย ครูต้องรักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริม ให้ กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์เสมอหน้า หมายถึง การตอบสนองความต้องการ ความถนัดความสนใจ ของศิษย์อย่างจริงใจ สอดคล้องกับการเคารพ การยอมรับ การเห็นอกเห็นใจต่อสิทธิพื้นฐานของศิษย์จนเป็นที่ไว้วางใจเชื่อถือ และชมเชยได้รวมทั้งเป็นผลไปสู่การพัฒนารอบด้านอย่างเท่าเทียมกันเช่น เมื่อเราเห็นแววของลูกศิษย์ของเราว่าเก่ง หรือถนัดในด้านใดเราก็สมควรสนับสนุนเขาให้ได้ดียิ่งขึ้นหรือให้คำแนะนำเพื่อที่จะให้เด็กได้มีกำลังใจในการศึกษาและพัฒนาศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ
จรรยาบรรณข้อที่ 2 ครูต้องอบรมสั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้อง ดีงามได้แก่ศิษย์อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
คำอธิบาย ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามให้แก่ศิษย์อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ หมายถึง การดำเนินการตั้งแต่การเลือกกำหนดกิจกรรมการเรียนที่มุ่งผลต่อการพัฒนาในตัวศิษย์อย่างแท้จริง การจัดให้ศิษย์มีความรับผิดชอบและเป็นเจ้าของการเรียนรู้ ตลอดจนการประเมินร่วมกับศิษย์ในผลของการเรียนและการเพิ่มพูนการเรียนภายหลังบทเรียนต่าง ๆ ด้วยความปรารถนาที่จะให้ศิษย์แต่ละคนทุกคนพัฒนาได้อย่างเต็มตามศักยภาพ และตลอดไปเช่น ครูจะต้องทดสอบหลังเรียนในแต่ละบทเรียนที่เราเรียนผ่านไป และทำ แบบทดสอบเสริมทักษะในแต่ละรายวิชา แบบประเมินผลราบบุคคล
จรรยาบรรณข้อที่ 3 ครูต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ ทั้งกาย วาจา และจิตใจ
คำอธิบาย การประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี หมายถึง การแสดงออกอย่างสม่ำเสมอของศิษย์ที่ศิษย์สามารถสังเกตรับรู้ได้เอง และเป็นการแสดงที่เป็นไปตามมาตรฐานแห่งพฤติกรรมระดับสูงตามค่านิยม คุณธรรม และวัฒนธรรมอันดีงามเช่น ครูจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของการวางตัวในทุกๆ ด้านเพื่อที่เด็กจะได้นำไปเป็นแบบที่ดีอย่างเช่น การไหว้ และการพูดจาต้องมีกาลเทศะ
จรรยาบรรณข้อที่ 4 ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์
คำอธิบาย การไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมศิษย์ หมายถึง การตอบสนองต่อศิษย์ในการลงโทษหรือการให้รางวัล หรือการกระทำอื่นใดที่นำไปสู่การลดพฤติกรรมที่พึงปรารถนาเช่น ครูจะต้องมีความยุติธรรมเสมอภาคต่อนักเรียนทุกคนไม่ใช่ว่าเด็กคนนี้เรียนเก่งก็ให้ความสนใจเฉพาะคนที่เรียนเก่งเท่านั้น ส่วนคนที่เรียนไม่เก่งก็ไม่ให้ความสนใจหรือไม่ให้คำปรึกษาใดๆ ทั้งสิ้นเป็นต้น
จรรยาบรรณข้อที่ 5 ครูต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติและไม่ใช่ศิษย์กระทำการใดๆ อันเป็นการหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองโดยมิชอบ
คำอธิบาย การไม่แสวงหาผลประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติและไม่ใช่ศิษย์กระทำการใดๆ อันเป็นการหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองโดยมิชอบหมายถึง การไม่กระทำการไดๆ ที่จะได้มาซึ่งผลตอบแทนเกินสิทธิที่พึงมีพึงได้จากการปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบตามปกติเช่น ครูนำอุปกรณ์การเรียนการสอนนำมาขายให้นักเรียนเองโดยการขายในราคาที่แพงกว่าตลาด หรืออาจจะนำหนังสือหรือสมุดที่ทางโรงเรียนแจกให้เด็กฟรีแต่ครูนำมาขายให้นักเรียนโดยเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
จรรยาบรรณข้อที่ 8 ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูล และชุมชนในทางสร้างสรรค์
คำอธิบาย ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูล และชุมชนในทางสร้างสรรค์ หมายถึง การให้ความร่วมมือแนะนำ ปรึกษาช่วยเหลือเกื้อกูลแก่เพื่อนครูทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัว และการทำงานตามโอกาสอย่างเหมาะสม รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน โดยการให้คำปรึกษาแนะนำแนวทางวิธีการปฏิบัติตน ปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนเช่น ในชุมชนเมืองพัทยาจะมีการทำบุญในวันกองข้าวของทุกๆ ปีครูก็จะให้คำปรึกษา หรือเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในการทำบุญทุกครั้งอย่างเช่นการอำนวยความสะดวกเรื่องการบริการการนำรถยนต์มาจอดในจุดต่างๆ เพื่อที่จะให้ประชาชนที่จะมาทำบุญได้สะดวกมากยิ่งขึ้น หรือช่วยจัดกิจกรรมร่วมกับวัดโดยการทำกิจกรรมในงานเช่นการสอยดาวเพื่อที่จะนำเงินเข้าวัดดังนั้นครูจึงมีบทบาทหรือเกี่ยวข้องกับชุมชน
ไม่มีความเห็น