มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด วิชา หลักการศึกษาและวิชาชีพครู 3(3-0-6) อาจารย์ขอบฟ้า จันทร์เจริญ
บทที่ 2
ปรัชญาการศึกษา
Philosophy มาจากคำว่า Philos + Sophia Philos แปลว่ารัก หรือความรัก Love
Sophia แปลว่า ความฉลาด ความรู้ การเรียนรู้ Wisdom
ดังนั้น Philosophy จึงหมายความถึง ความรักในการที่จะเรียนรู้
ปรัชญา มาจากภาษาสันสกฤต ชญา + ปร หมายความว่าความปราดเปรื่องหรือความรอบรู้
ความหมายตามการใช้
ปรัชญาหมายถึงแนวความคิด คติ ความเชื่อ ข้อคิด ซึ่งมักจะพบได้ในรูปของสำนวนโวหารที่มีคารมคมคาย
_ Carter V.Good ได้ให้ความหมายไว้ว่า ปรัชญาคือศาสตร์ที่มีวัตถุประสงค์ที่จะจัดหมวดหมู่ของ
ความรู้เพื่อที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการอธิบายข้อเท็จจริงต่างๆ ให้เข้าใจ
_ จำนง ทองประเสริฐ - ความคิดเห็นที่ยังพิสูจน์หรือยังไม่สามารถสรุปได้แน่นอน แต่ถ้า
ทำการพิสูจน์แล้วจะเรียกว่า "ศาสตร์"
สรุป ปรัชญาคือวิธีการค้นหาความจริงของสิ่งทั้งหลาย โดยอาศัยความรู้จากศาสตร์ต่างๆมาประกอบกันใน
การคิด พิจารณาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ลึกซึ้ง
Wisdom – ความฉลาด Cosmology - จักรวาลนิยม
Ontology – ภาวะวิทยา Metaphysic - การค้นหาความจริงสูงสุด (อภิปรัชญา)
การศึกษา Education มาจากคำว่า Educare การอบรมสั่งสอนให้เกิดความเจริญงอกงาม
Educere การชักนำให้คนรู้จักตระหนักในคุณสมบัติที่มีอยู่ในตน
Education = สิกขา (การเห็นซึ่งตนเอง เห็นประโยชน์แก่ตนเอง) = การพัฒนามนุษย์ โดยส่งเสริมให้มี
ความเจริญงอกงามอย่างมีอิสระ
John Dewey "ความเจริญงอกงามของชีวิต เป็นความเจริญงอกงามอย่างต่อเนื่องไร้จุดจบ
A S neil "การเตรียมตัวเพื่อชีวิต"
พระราชวรมุณี "ความพยายามแสวงหาจุดมุ่งหมายให้แก่ชีวิต หรือความเป็นอยู่อย่างดีที่สุด โดยมีทั้ง
อิสระภาพภายในและภายนอก
อิสระภาพภายใน คือ การหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง
อิสระภาพภายนอก คือ การหลุดพ้นจากการครอบงำของสิ่งแวดล้อมหรือเป็นการที่มนุษย์ได้มีการพัฒนา
และถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากรุ่นหนึ่ง ไปสู่อีรุ่นหนึ่ง ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
บทบาทของการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์และสังคม
เกี่ยวข้องกับมนุษย์
1. การศึกษาเข้ามามีบทบาทต่อธรรมชาติ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์
2. การศึกษาเป็นการเพิ่มคุณค่า Values ให้ชีวิตมนุษย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด วิชา 11011106การศึกษาและความเป็นครูไทย 3(3-0) อาจารย์ขอบฟ้า จันทร์เจริญ 2
เกี่ยวข้องกับสังคม
1. ศึกษากระบวนการทางสังคม สั่งสอนอบรมให้สมาชิกได้เรียนรู้วิถีชีวิต การดำเนินชีวิต การสืบทอด
ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของ สังคมนั้นๆ
2. สร้างความยอมรับพื้นฐาน เพื่อพัฒนาสังคมให้เกิดความรู้ + ทักษะ (ในการประกอบอาชีพ)
ลัทธิปรัชญาการศึกษา
มีความแตกต่างกันไปตาม แนวความคิดและความเชื่อ
(ความต้องการ,ความจำเป็น,วัฒนธรรม,ประเพณี,วิถีชีวิต ฯลฯ ทำให้แตกต่าง)
1. ยึดปรัชญาทั่วไปเป็นพื้นฐาน
- พุทธปรัชญานิยม - สารัตถนิยม - นิรันตรนิยม
- พิพัฒนาการนิยม - ปฏิรูปนิยม - อัตติภาวะนิยม
ปรัชญาตะวันตก
ธาเลส Thales 624-550 B.C เป็นบิดาแห่งปรัชญาตะวันตก "ธาตุแท้ของทุกสิ่งเป็นน้ำ" เกิดจากน้ำดับแล้ว
กลายเป็นน้ำ โลกเป็นแผ่น กลมลอยอยู่บนน้ำ (คิดปฐมธาตุครั้งแรกของโลกคือน้ำ) จึงได้เป็นบิดาแห่ง
ปรัชญาตะวันตก อแนกซิแมนเดอร์ Anaximander 611-547 B.C เป็นลูกศิษย์ของธาเลส เป็นคนแรกที่
เขียนแผนที่โลกและตำราทางปรัชญา ค้นพบเกี่ยวกับสสารอนันต์ (ร้อน-เย็น) ต่อมาพัฒนาเป็นการทดลอง
ทางวิทยาศาสตร์ สสารเย็น รวมตัวกลายเป็นโลก / สสารร้อน กลายเป็นไฟล้อมรอบโลก ดวงอาทิตย์ ดวง
จันทร์และดาวอื่นๆ อแนกซิมินีส Anaximenenes 588-524 B.Cค้นพบปฐมธาตุของสรรพสิ่ง (อากาศ)
ฟาร์มินิดีส Parmenides 514-459 B.C ทุกสรรพสิ่งคือความเปลี่ยนแปลง ตั้งอยู่และดับไป ต่อมาเป็นสสาร
นิยมและวัตถุนิยม พยายามค้นหาสิ่งที่เป็นนิรันดร์ ซึ่งอยู่ท่ามกลางอนิจจัง "สัต" = Being,
"อสัต" = Not-Being สิ่งที่เป็นความจริงสูงสุดก็คือ "สัต" สิ่งที่ไม่จริงก็คือ "อสัต"
เซโน Zeno 489-430 B.C มีเหตุผลในการสนับสนุนฟาร์มินิดิส เริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่จิตนิยม "โลกแห่ง
ปรากฏแห่งเราเป็นมายาหลอกลวงและเป็นสิ่งไม่จริง" 1. สสารนิยม 2. จิตนิยม 3.ธรรมชาตินิยม
เอมพีโดคลีส Empedocles 495-435 B.C ดินน้ำลมไฟ
** สำนักอะตอมิสต์ ลิวคิปปุส Leucippus**
เดโมคริตุส - อะตอมเป็นหน่วยเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด วิชา 11011106การศึกษาและความเป็นครูไทย 3(3-0) อาจารย์ขอบฟ้า จันทร์เจริญ 3
การรวมตัวของอะตอมทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ที่คนเราเคลื่อนไหวได้เพราะอะตอมเกิดการเคลื่อนที่
อะตอมเป็นสิ่งที่มีอยู่แต่เดิม และไม่ถูกทำลายแต่เกิดการเปลี่ยนรูปร่าง
** สำนักโซฟิสต์ **
ในสมัยที่กรีกเรืองอำนาจ ได้เชลยมาเป็นทาส (พวกโซฟิสต์เป็นทาสที่มีความรู้ ส่วนมากประกอบอาชีพครู)
ต้นกำเนิดอาชีพครู-พร้อมค่าตอบแทน พวกโซฟิสต์ถูกดูถูกเหยียมหยามเพราะเก็บเงินค่าสอนศาสตร์
ก่อเกิดเป็นอาชีพครู พวกโซฟิสต์ไม่รักในกรีกเพราะตนเป็นทาส จึงไม่สอนให้ก่อเกิดประโยชน์ต่อกรีกอย่าง
แท้จริง กรีกจึงอ่อนแอและล่มสลายเพราะ โรมันมายึดครอง (คนเอาแต่เพ้อฝัน) พวกโซฟิสต์เห็นว่า เรื่องที่
ควรศึกษาคือเรื่อง จิตและกระบวนการการรับรู้ของจิตซึ่งขึ้นอยู่กับการรับรู้ของแต่ละคน คือ ความรู้เป็น
เรื่องเฉพาะตัว ต่อมาเป็นแนวทางในการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอน ที่เห็นถึงความแตกต่างในแต่ละ
บุคคลสิ่งใดก็ตามที่เห็นว่าดี เป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันดีสำหรับเรา คนอื่นไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย เพราะฉะนั้น
"ความจริงที่เป็นปรนัยจึงไม่มี มีแต่ความจริงที่เป็นอัตนัย" คือความจริงนั้นๆ ขึ้นอยู่กับตัวเรา
**โปรทากอรัส Protagoras 480-410 B.C**
ไม่มีความจริงชนิดใดที่เป็นอิสระจากจิต (ถือเป็นพวกโซฟิสต์) คือไม่มีความจริงแบบปรนัย มีแต่ความจริง
ของอัตนัยเท่านั้น ไม่มาตราฐานแน่นอนตายตัวที่จะตัดสินความจริง เพราะความจริงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ
ของบุคคล จิตนิยม เน้นเรื่องจิตเป็นใหญ่ เช่น ผมคิดว่าอากาศในห้องนี้ร้อน
วัตถุนิยม เน้นเรื่องวัตถุ เช่น ผมคิดว่ากระดาษนี่สีขาว (เห็นด้วยตา)
ภายหลังคำสอนของพวกโซฟิสต์พัฒนามาเป็นจริยธรรม
**โสคราตีส Socrates 469-B.C -339B.C ใช้หลักการสอนแบบถาม-ตอบ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้
ก่อเกิดเป็นหลักจริยศาสตร์ มีพื้นฐานมาจากญาณวิทยา (แหล่งที่มาของความรู้) "คุณธรรมคือความรู้"
"คุณธรรมคือความรู้" - คนเราต้องมีความรู้เสียก่อนว่าสิ่งใดดี จึงสามารถทำสิ่งนั้นได้ การปฏิบัติทาง
จริยธรรมจึงขึ้นอยู่กับความรู้ คนมีความรู้ย่อมไม่ทำผิด คุณธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาแต่กำเนิด
ต่อมา เลเน เดการ์ต กล่าวว่า "มนุษย์มีความคิดติดตัวมาแต่กำเนิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับมาจากพระเจ้า"
ปรัชญาแนวนี้มีการเน้นเรื่องความกล้าหาญ การควบคุมตนเอง ความยุติธรรม ความเสมอภาคกัน
ไม่กีดขวางความสามารถของคนอื่น ซึ่งมักไม่ค