16 แนวทางที่จะสร้างผลงานร่วมกับลูกน้อง
1. ให้ความช่วยเหลือพนักงานที่ประสบปัญหา (Help Employees With Problem)
เมื่อพนักงานประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ที่นำมาปรึกษา ควรจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแสวงหาแนวทางแก้ปัญหา หากเกินกำลังสติปัญญา ก็ควรจะแนะนำได้ว่าพนักงานควรจะไปขอความช่วยเหลือหรือขอคำแนะนำจากใคร พร้อมทั้งติดตามถามข่าวด้วยว่า ปัญหาของพนักงานได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
2. เป็นมิตรกับพนักงาน (Be Friendly to Your Employees)
ฟังแล้วดูเหมือนเป็นสามัญสำนึกพื้น ๆ แต่เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการได้มีโอกาสทักทายกับพนักงานตอนเช้าหรือแสดงออกด้วยความเป็นมิตรต่อข้อซักถามของพนักงาน ก็จะสามารถสร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อการทำงาน ขอเพียงแต่ให้เป็นการแสดงออกอย่างจริงใจและบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่การแสดงความเป็นมิตรอย่างปลอม ๆ เฉพาะเวลาที่จะหลอกใช้พนักงานเท่านั้น
3. ให้ความสำคัญและรางวัลแก่พนักงาน (Recognize and Reward Employees)
พนักงานทุกคนต่างก็ต้องการเป็นบุคคลสำคัญ ฉะนั้นการจำวันเกิดของพนักงาน หรือวันครบรอบปีของการเข้ามาทำงานของพนักงานได้ก็ดี การยกย่องผลงานที่ดีเด่นของพนักงานก็ดี หรือการจัดกิจกรรมในโอกาสพิเศษให้แก่พนักงานก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่จะบำรุงขวัญและกำลังใจของพนักงานทั้งสิ้น เพียงแค่การจดวันเกิดของคนที่เกิดในเดือนนี้ขึ้นบนกระดานเตือนความจำก็จะเกิดผลดีแก่พนักงานแล้ว
4. รู้จักพนักงานทุกคน (Know Your Employees)
ดูจะพื้น ๆ จังเลย แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก การได้รู้จักและเข้าใจความต้องการด้านต่าง ๆ ของพนักงาน จะทำให้เราสามารถแสวงหาวิธีสร้างความพึงพอใจทั้งเป็นรายบุคคลและเป็นทีมได้ พนักงานบางคนต้องการความรู้สึกเป็นกันเอง บางคนต้องการให้ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ และบางคนต้องการการสอนงานอย่างจริงจัง การเรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกน้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
5. ให้พนักงานได้มีส่วนเกี่ยวข้อง (Get Employees Involved)
พนักงานจะมีความตั้งใจและทุ่มเทมากขึ้น ถ้าได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน ตั้งแต่การมีส่วนให้ข้อมูลในขั้นการวางแผน การได้รับรู้เป้าหมายและปัญหาของทีมงาน การได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นในกลุ่มและการได้มีโอกาสร่วมปฏิบัติการแก้ปัญหา
การให้พนักงานเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ อย่างทั่วถึง เช่น กิจกรรม 5 ส. การประชุมความปลอดภัยต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการเตรียมงานฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ต่าง ๆ ก็จะทำให้พนักงานมีความตั้งใจและทุ่มเทมากขึ้น
6. ให้พนักงานเห็นว่าเราห่วงใย (Show Employees That You Care)
พนักงานมักประทับใจในความรู้สึกห่วงใยที่เรามีต่อเขา การถามถึงหรือแสดงออกเพียงง่าย ๆ ว่าเราเป็นห่วงในสวัสดิภาพของเขา จะทำให้พนักงานขยันทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความห่วงใยด้านการตรวจสอบแนะนำงาน ด้านการปรับค่าจ้างตามสิทธิ์ที่พนักงานพึงได้รับ ยามเจ็บไข้ได้ป่วยควรไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลหรืออย่างน้อยก็ถามถึง การจัดกระเช้าเยี่ยมไข้และการถามถึงเมื่ออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว ก็จะทำให้พนักงานมีกำลังใจทั้งสิ้น
หากพนักงานต้องทนอึดอัดทำงานที่ไม่ถนัดหรือไม่ชอบก็ควรได้ปรึกษาหารือกันและแสวงหาแนวทางที่จะให้พนักงานมีโอกาสได้ทำงานที่ถนัด
7. สื่อความเข้าใจอย่างเปิดเผยและสุจริต (Communicate Openly and Honestly)
การสื่อสารสร้างความเข้าใจให้แก่พนักงานเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง อาจใช้การเขียนประกาศบนกระดานสื่อสารหรือติดประกาศบนป้ายประกาศ ตลอดจนการกระจายเสียงตามสายในเวลาอันควร ว่าเรากำลังทำอะไรและมีการเปลี่ยนแปลงอะไรกันบ้าง
การจัดประชุมพนักงานเป็นประจำทุกเดือนและเปิดโอกาสให้พนักงานได้อภิปรายหรือซักถามประเด็นต่าง ๆ ที่ยังค้างคาใจอยู่ นับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง การได้มีโอกาสสะสางสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นโอสถอันวิเศษยิ่งของทีมงาน
8. ตักเตือนพนักงานเป็นการส่วนตัว (Criticize Employee in Private)
เมื่อจำเป็นต้องแก้ไขหรือตำหนิพนักงานที่มีความบกพร่อง ควรกระทำเป็นการส่วนตัว ด้วยความเยือกเย็นและด้วยความตั้งใจจริงที่จะเห็นพนักงานปรับปรุงตัวเอง อย่าใช้ถ้อยคำรุนแรง มุ่งแก้ปัญหา ไม่ไปยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของพนักงาน ควรให้ความเป็นธรรมกับพนักงานและคำนึงถึงมนุษยธรรมด้วย และจะพบว่าพนักงานจะกล้าขอคำแนะนำในการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น
9. เป็นตัวอย่างที่ดีแก่พนักงาน (Set an Example For Employees)
พนักงานจะไม่เกี่ยงการทำงานที่หัวหน้าที่หรือเป็นนายก็ทำอยู่เช่นเดียวกัน การทำตัวอย่างที่ดีทั้งในด้านความกระตือรือร้นในการทำงาน การปรับปรุงแก้ไขไปสู่ความถูกต้อง การรายงานความก้าวหน้าของงานให้ทีมงานทราบ หรือการแสดงความรับผิดชอบต่องานที่ทำต่างก็เป็นตัวอย่างที่ดี จงทำอย่างที่ประสงค์จะให้พนักงานทำ อย่าเพียงแต่เทศนาให้ลูกน้องฟังเท่านั้น
10. พัฒนาทีมงาน (Development Team Work)
ทีมงานจะสัมฤทธิ์ผลได้ก็ต่อเมื่อพนักงานทุกคนในทีมร่วมกันปฏิบัติงานโดยมีเป้าหมายร่วมกัน สัมพันธภาพที่ดีภายในทีมจำเป็นต้องได้มาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายในทีมงาน
การได้มีโอกาสคิดร่วมกัน ประสานงานไปด้วยกันและร่วมมือกันด้วยความทุ่มเทเสียสละอย่างจริงจังของทุกฝ่ายจะทำให้ทีมมีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก........แต่ต้องทำ
11. แสวงหาความคิดริเริ่มและแนวทางใหม่ ๆ (Look For New Ideas and New ways)
อย่ากลัวที่จะลองใช้ความคิดริเริ่มใหม่ ๆ ในการปฏิบัติงานควรจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในบางอย่างเมื่อถึงเวลาอันควร หากการเปลี่ยนแปลงนั้นดำเนินไปเพื่อการปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่องได้
12. ให้และรับความร่วมมือจากหน่วยอื่น (Give and Get Cooperation From Other Department)
การขอความร่วมมือและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานหรือทีมงานอื่นเป็นสิ่งที่ควรกระทำด้วยความจริงใจและตั้งใจและการรู้จักแสดงความขอบคุณหน่วยงานอื่นที่ให้ความร่วมมือกับเรา จะยิ่งทำให้เราได้รับความร่วมมือมากขึ้น
บางครั้งอาจเขียนบันทึกสั้น ๆ ชมเชยพนักงานของหน่วยงานอื่นส่งไปให้หัวหน้าหรือผู้จัดการของเขา
หากเกิดความล่าช้าในการได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น ก็ควรจะติดตามงานในฐานะมิตรที่ดี ความร่วมมือที่ดีก็จะคงอยู่ต่อไป ลูกน้องของเราก็จะทำงานสะดวกขึ้น
13. สร้างการควบคุมและการติดตามงาน (Establish Controls and Follow-up)
การเป็นหัวหน้าหรือผู้จัดการที่ดี จำเป็นต้องมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่างานไม่เกิดการบกพร่องโดยจะต้องไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ทั้งนี้ควรมีการทำเป็นบันทึกการติดต่อระหว่างหน่วยงานและมีการติดตามอย่างสม่ำเสมอ
อย่าลืมควบคุมงบประมาณอย่าให้เกิดบานปลาย เพราะการแก้ไขงานอย่างเร่งด่วน มักมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเสมอ
14. จัดระบบการจัดการให้ดี (Stay Organized)
วิธีเดียวที่จะคงประสิทธิภาพในการบริหารงานเอาไว้ให้ได้คือการจัดระบบให้ดี ควรจัดสิ่งที่จะต้องทำในแต่ละวันให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และอย่าลืมกำหนดวันติดตามผลของงานที่ทำไว้ในปฏิทินและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่องานนั้นเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงและหน่วยงานอื่น
15. วางแผนรองรับอุปสรรค (Plan For Interruptions)
การปฏิบัติงานย่อมมีอุปสรรคเกิดขึ้นเสมอ การวางแผนและเตรียมการที่ดีจะทำให้เกิดความราบรื่นในการปฏิบัติงานได้มากขึ้น ก่อนเริ่มโครงการใหม่ ๆ ในแต่ละครั้ง ควรจะมีโอกาสได้ร่วมกันคิดถึงอุปสรรคและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นแล้วหาทางป้องกันหรือแสวงหาวิถีทางที่จะแก้ปัญหาเมื่อเกิดอุปสรรคขึ้น
16. บรรลุทุกความรับผิดชอบให้ได้ (Meet All Responsibilities)
การทำงานทุกอย่างจะต้องคำนึงเสมอว่าจะต้องบรรลุทุกความรับผิดชอบไปพร้อมกัน ทั้งเป้าหมายโดยตรงของงาน ค่าใช้จ่าย ความปลอดภัยในการทำงาน ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดจนการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์ระเบียบข้อบังคับและข้อกำหนดของมาตรฐานต่าง ๆ
ไม่มีความเห็น