วงจรชีวิตเครือข่ายการจัดการความรู้
เมื่อเปรียบกับการเวียนว่ายตายเกิดซึ่งเป็นวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตนั้น เครือข่ายการจัดการความรู้คงไม่ต่างไปจากการหมุนเวียนเป็นวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่คนซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพยากรเป็นองค์ประกอบของการจัดการความรู้ ก่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ระหว่างสมาชิกเครือข่ายอันส่งผลให้เกิดคลังความรู้ ที่สามารถนำไปพัฒนาความรู้เพื่อการพัฒนางานที่ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสักวันใดวันหนึ่งผู้เป็นเจ้าของความรู้จะลาจากองค์กรไปแล้วก็ตาม แต่ความรู้นั้นไม่สูญสลาย แตกดับไปพร้อมกับคน และยังรอการปรับปรุงพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนในองค์กรเกิดการเรียนรู้ตลอดอย่างต่อเนื่องภาพที่ 1.3 แสดงวงจรชีวิตเครือข่ายการจัดการความรู้
จากภาพที่ 1.3
แสดงให้เห็นลำดับขั้นของพัฒนาการเครือข่ายการจัดการความรู้ซึ่งประกอบด้วย
4 ขั้นตอน รายละเอียดดังต่อไปนี้
ระยะที่ 1 ระยะก่อตัวของเครือข่ายการจัดการความรู้ ซึ่งการก่อตัวนั้นอาจเกิดจากการรวมตัวแบบไม่เป็นทางการของสมาชิก หรือเกิดจากการสร้างเครือข่ายการจัดการความรู้แบบเป็นทางการ (เครือข่ายแบบจัดตั้ง) สิ่งที่มองเห็นได้ในระยะนี้ คือ ความสัมพันธ์ของสมาชิกยังก่อตัวแบบหลวม ๆ เริ่มมีการสร้างพันธะสัญญาร่วมกัน การค้นหาประเด็นร่วมและการเตรียมความพร้อมเพื่อวางแผนการรองรับกิจกรรมนำไปสู่การขยายตัวในระยะเติบโตของเครือข่าย (ซึ่งจะกล่าวไว้ในรายละเอียดของการสร้างเครือข่ายการจัดการความรู้ในบทที่ 3 ต่อไป)
ระยะที่ 2 ระยะเติบโตของเครือข่ายการจัดการความรู้
ในระยะนี้เราจะมองเห็นพัฒนาการของเครือข่าย
โดยเฉพาะการปฏิสัมพันธ์การแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้
ทั้งในเวทีจริง และเวทีเสมือนจริง
สมาชิกจะมีการไหลเวียนแลกเปลี่ยนความรู้มากมายก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์งาน
และวิธีปฏิบัติอีกมากมาย
สิ่งที่พบเห็นได้ในระยะนี้คือความถี่ในการติดต่อของสมาชิกเพิ่มขึ้น
สมาชิก มีความสนิทสนมกันมากขึ้น
เกิดความสามัคคีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
ในระยะนี้นักประสานเครือข่ายการจัดการความรู้ต้องจัดหารูปแบบกิจกรรมที่จะให้สมาชิกเครือข่ายได้ไปพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันเอง
โดยไม่ต้องรอให้ทีมผู้ประสานเครือข่ายเป็นผู้จัดให้ (ซึ่งในบทที่ 4
จะได้กล่าวถึงรายละเอียดของการกระตุ้นเครือข่ายการจัดการความรู้ในระยะของการเติบโต
(ขยายตัว))
ระยะที่ 3 ระยะอิ่มตัวของเครือข่ายการจัดการความรู้ ในระยะนี้เราจะพบถึงความเฉื่อยชาของสมาชิกเครือข่ายการจัดการความรู้ สิ่งที่นักประสานเครือข่ายจัดการความรู้ มองเห็นและสัมผัสได้คือ ความถี่ในการติดต่อ แลกเปลี่ยนความรู้ การติดต่อสื่อสาร มีอัตราที่ลดน้อยถอยลง จึงเป็นสาเหตุให้คลังความรู้ หรือวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศไม่งอกเงยเพิ่มขึ้นจากเดิม สมาชิกเครือข่ายเกิดการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้า ๆ ออก ๆ จากกลุ่มสมาชิก
ในระยะนี้นักประสานเครือข่ายการจัดการความรู้ต้องค้นหากลวิธีเพื่อกระตุ้นให้สมาชิกเครือข่าย
และเครือข่ายการจัดการความรู้ให้มีดำรงอยู่และมีการพัฒนาการของเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
(ซึ่งจะได้นำเสนอในบทที่ 5
ซึ่งเป็นรายละเอียดของกลวิธี/เทคนิคการพัฒนาเครือข่ายการจัดการความรู้ในระยะอิ่มตัว)
ระยะที่ 4 ระยะถดถอย หากนักประสานงานและสมาชิกเครือข่ายการจัดการความรู้ไม่ได้ดำเนินการค้นหากลวิธี เพื่อกระตุ้นพัฒนาการของเครือข่ายในระยะอิ่มตัวจะส่งผลให้พัฒนาการของเครือข่าย เริ่มถดถอย และสลายไปในที่สุด ซึ่งสัญญาณที่จะบ่งบอกถึงการสลายตัวของเครือข่ายที่สามารถมองเห็นได้ อาทิเช่น
· การหยุดชะงักของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของสมาชิก
· การขาดการติดต่อสื่อสารระหว่างสมาชิก
สมาชิกเครือข่ายลาออกจากการเป็น
สมาชิกภาพ
· หัวข้อ (ประเด็น)
ที่นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ถูกนำมาพัฒนางานหมดแล้ว
จึงไม่จำเป็น
ที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ในประเด็นเดิม
· สมาชิกเครือข่ายขาดแรงจูงใจ
· ขาดการสนับสนุนจากทีมบริหารในองค์กร
ฉะนั้น นักประสานเครือข่ายการจัดการความรู้ต้องมีความไวต่อความรู้สึกถึงสัญญาณ ที่บ่งบอกถึงการสลายตัวของเครือข่าย และรีบดำเนินการหาวิธีการหรือกลวิธีป้องกันไม่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น
ไม่มีความเห็น