จากที่ได้มีโครงการพัฒนากระบวนการส่งเสริมการเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตพืชยุทธศาสตร์จังหวัด จังหวัดยะลาได้กำหนดพืชยุทธศาสตร์จังหวัด 3 พืช คือ ยางพารา ลองกอง และทุเรียน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้หลักให้กับเกษตรกรในพื้นที่
พูดถึง ลองกอง
จากการพบปะกับเกษตรกรต้นแบบและจัดทำเวที ก็พอสรุปถึงปัญหาหลักของการทำสวนลองกองในพื้นที่ยะลา คือ ผลผลิตลองกองคุณภาพไม่สม่ำเสมอ ลองกองคุณภาพเกรด 1-2 มีปริมาณน้อย ทำให้ราคาจำหน่ายต่ำ ด้วยสาเหตุหลักๆ คือ
1.เกษตรกรสูงอายุ ทำงานบนต้นลองกองสูงอายุลำบาก
2.ขาดน้ำ และระบบให้น้ำที่ดี
3.ปัจจัยการผลิต (ปุ๋ย) ราคาแพง
4.โรคราดำที่ผลสุก ทำให้สีผลไม่สวย
5.เพลี้ยแป้งที่ก้านผลภายในช่อ
6.มด แมลงติดในช่อผล
7.ผลแตก ผลเน่า
8.อายุหลังเก็บเกี่ยวสั้น
เพื่อผลิตลองกองคุณภาพโดยมีต้นทุนการผลิตต่ำ จึงได้เปิดเวทีกับเกษตรกรต้นแบบด้านลองกองจากอำเภอเบตง ธารโตและรามัน สรุปคู่มือฉบับชาวบ้าน ได้ดังนี้
หลักคิด
1. การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม มีเหตุ มีผล
2. การผลิตลองกองให้มีคุณภาพ ต้องปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อน
3. การผลิตต้องคำนึงถึงต้นทุนและกำไรเป็นหลัก
หลักวิชา
1. การลดต้นทุนการผลิตโดยไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิต
2.การพัฒนาคุณภาพผลผลิต โดยการตัดแต่งกิ่ง ดอก และผล เพื่อให้ได้ผลผลิตเกรด 1และเกรด 2
3.การบริหารจัดการศัตรูพืช ด้วยเทคนิคการใส่ถุงคุมช่อผล
4.การปรับปรุงบำรุงบำรุงดินเพื่อให้พืชแข็งแรงด้วยปุ๋ยหมักน้ำหมักและน้ำส้มควันไม้ ให้ โดยให้พร้อมกับการให้น้ำทางระบบน้ำ เพื่อการประหยัด
5.การจัดการผลิตหลังการเก็บเกี่ยวโดยการยืดอายุ ให้ผลผลิตคงสภาพเดิมได้นานที่สุด
หลักปฏิบัติเพื่อเตรียมต้น
1.หลังการเก็บเกี่ยว 1 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมี 15-15-15 ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ½ กก. / ต้น
2. ตัดแต่งกิ่งน้ำค้างและกิ่งที่เป็นโรค
หลักปฏิบัติเพื่อคุณภาพผลผลิต
1. การตัดแต่งดอก ตัดช่อดอกเมื่อมีอายุ 15 วันโดยตัดไว้เพียง 1 ช่อ/จุด ระยะห่างระหว่างช่อ 30 ชม. ไว้จำนวนตามขนาดของกิ่งและความสมบูรณ์ของต้นพืชเช่น กิ่งที่มีขนาดเส้นศูนย์กลาง 1- 1.5 นิ้ว ไว้ ช่อดอก 2-3 ช่อ …ทำครั้งเดียวเพื่อลดต้นทุนแรงงาน/เวลา
2. การตัดแต่งผล ตัดแต่งเมื่อผลมีขนาดเท่าหัวกำไล โดย
แต่งผลให้เหลือ 3 แถว
ปลิดผลที่อยู่ติดขั้ว ออก 2-3 ผล
ปลิดผลภายในแถว ออก 2 - 3 ผล ไว้ 1 ผล สลับกัน ให้เหลือ 5 - 6 ผล ต่อแถว (1 ช่อ จะมีประมาณ 15 - 18 ผล)
ตัดปลายช่อผลส่วนที่เหลือทิ้งพร้อมทำการตัดแต่งกิ่งน้ำค้าง และกิ่งที่เป็นโรคเป็นการลดค่าแรงงาน
3. การจัดการศัตรูพืช เมื่อตัดแต่งผลเรียบร้อยแล้วใช้ถุงพลาสติก ขนาด กว้าง 7 นิ้ว ยาว 11 นิ้ว คลุมช่อผลไว้ เพื่อป้องกันโรครา และแมลงรบกวน
4. การจัดการดิน ปรับปรุงบำรุงดินอยู่เสมอโดยใช้ปุ๋ยหมักน้ำ หรือใช้น้ำส้มควันไม้ 50 ซีซี /น้ำ100 ลิตร
5. การเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้ใช้ถุงพลาสติกกันกระแทกสวมช่อผลก่อนตัดผล แล้วห่อช่อผลด้วยกระดาษ ก่อนลงตะกร้า และก่อนบรรจุลงกล่องกระดาษเพื่อขายตลาดบน หรือ ส่งห้าง และต่างประเทศ
เคล็ดลับ
1. การใช้ถุงพลาสติกสวมคลุมช่อผลต้องใช้กับสวนที่มีร่มเงา ถ้าสวนที่ไม่มีร่มเงาจะทำให้ผลร่วงและฝนตกชุกเกินไปต้องเอาถุงออก เพราะผลอาจเน่าเกิดความเสียหายได้ เช่นกัน จึงควรระวัง
2. การเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อป้องกันผลผลิตร่วงที่เป็นสาเหตุทำให้ตกเกรด ขายได้ราคาตกต่ำ ต้องเก็บผลผลิตที่ความสุก 85 และ 90 %
3. การทำช่อกระปุก ขนาด 600 – 700 กรัม ต่อช่อ ทำช่อค่อนข้างกลมจับถือได้ สะดวก ผลเกาะกลุ่มกันแน่นทำให้ร่วงได้ยากขึ้นบรรจุลงกล่องกระดาษ และตะกร้าได้สะดวก เสียหายทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด
4. ควรตัดแต่งกิ่ง ครั้งใหญ่ 2-3 ปี / ครั้ง เพื่อรักษาทรงพุ่ม
สิ่งที่จะได้
ผลผลิตลองกองเกรด 1 -2
สวัสดีครับ..
ดีนะครับ ดูขั้นตอนแล้วลดต้นทุน และไม่ใช้สารเคมีเลย เยี่ยมมากๆ ครับ
วันนี้มีโอกาสสมัครเป็นสมาชิกใหม่ของ gotoknow ผ่านมาแวะเยี่ยมค่ะ
เสียดายว่าไม่มีต้นลองกองในพื้นที่ ไม่อย่างนั้นคงได้นำข้อคิดดีๆ ไปปฏิบัติ
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะครูฐา ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม ว่าแต่คนที่ใช้นามสกุลเดียวกะครูฐาสบายดีกันไหมคะ
หวัดดีค่ะพี่ชัยพร
หวังว่าจะได้เจอกันน่ะนะ ถ้าได้ไป อิอิ