ผลของการให้การปรึกษา เพื่อการเลิกสูบบุหรี่ของสามีที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์
เพ็ญนภา วิชกูล และคณะ*
บทคัดย่อ
การรณรงค์ให้คนเลิกสูบบุหรี่เป็นเรื่องที่บุคลากรด้านสุขภาพควรให้ความสำคัญและค้นหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพ การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาผลของการให้การปรึกษาเพื่อการเลิกสูบุหรี่ของสามีที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นการพัฒนาการปฏิบัติงานที่เป็นงานประจำให้เป็นงานวิจัย กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยสามีที่สูบบุหรี่และมีความต้องการเลิกบุหรี่ในขณะที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ จำนวน 27 คน ซึ่งภรรยามาฝากครรภ์ที่หน่วยฝากครรภ์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี กลุ่มตัวอย่างได้รับการปรึกษาและติดตามผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบด้วย เครื่องมือสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคล และแบบบันทึกติดตามการเลิกบุหรี่ ส่วนเครื่องมือสำหรับการให้การปรึกษา ประกอบด้วย คู่มือในการปฏิบัติตนเมื่อพร้อมจะเลิกบุหรี่ เอกสารคำแนะนำสำหรับภรรยาในการช่วยเหลือสนับสนุนสามีในการเลิกบุหรี่ หาความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ
ผลการศึกษาพบว่า จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 27 ราย มี 4 รายคิดเป็นร้อยละ 14.81 เลิกสูบบุหรี่ได้นานเกิน 6 เดือนเมื่อสิ้นสุดการติดตาม จำนวน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.11 เลิกสูบบุหรี่ได้นาน 3-6 เดือน และจำนวน 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.51 เลิกสูบบุหรี่ได้นาน 1-3 เดือน เหตุผลสำคัญของการเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ คือทำเพื่อลูกและสุขภาพตนเอง และภรรยาต้องการให้เลิก สำหรับเหตุผลสำคัญของกลับไปสูบบุหรี่อีก คือ เห็นเพื่อนสูบหรือคนรอบข้างสูบ ทนอาการถอนยาไม่ได้ เครียดเรื่องงาน ครอบครัว และร่วมสังสรรค์ดื่มเหล้ากับเพื่อน จากผลการศึกษาในครั้งนี้สรุปได้ว่า การให้การปรึกษาเป็นรายบุคคลสามารถช่วยให้สามีที่ภรรยาตั้งครรภ์เลิกสูบบุหรี่ได้ แต่อยู่ในอัตราที่ไม่สูงนัก ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาและค้นหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่สูบบุหรี่มาเป็นระยะเวลานานเพื่อให้สามารถเลิกสูบได้สำเร็จ
ไม่มีความเห็น