จากการหมอนน และคุณศรีวิภา มาเยี่ยมดู KM ของศูนย์อนามัยที่ 8 ตามบันทึก http://gotoknow.org/blog/kongkiet/189964 นั้น พอจะทบทวนด้วยตัวเองได้คือ
- การเตรียมรับการเยี่ยมนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไม่เตรียมอะไรเลย เพราะหากทำงานได้จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะดูที่จุดไหน ก็จะเห็นเนื้องานทั้งหมดที่มีอยู่ สิ่งที่มีก็จะมี สิ่งไม่มี ถึงจะปลูกผักชีให้ดีอย่างไร ผักชีก็ยังแสดงให้เห็นว่าเป็นผักชีที่ปลูกขึ้นมาใหม่ หรือบางครั้งปลูกไม่ดีผักชีก็จะแสดงอาการเหี่ยวเฉาให้เห็น
- ผู้มาเยี่ยมเป็นผู้ให้ เราเป็นผู้รับ แต่ในความเป็นจริงผู้เยี่ยมและผู้รับทั้งสองฝ่ายต้องเป็นผู้ให้และรับไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งในการเยี่ยมครั้งนี้เรามีการให้และรับกันจริง ๆ
- จากการเข้าเยี่ยมของทีม KM กรมอนามัย ทำให้ทราบว่าจุดอ่อนของทีม KM ของศูนย์อนามัยที่ 8 คือการบันทึก และการประชาสัมพันธ์
- เราทำ KM ให้เนียนไปกับเนื้องานก็จริง แต่หากเราคิดว่าการบันทึกไม่ใช่กิจกรรมที่เราคิดว่าเป็นการเนียนในเนื้องาน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก็จะไม่เกิด ขุมความรู้ที่เราต้องการเอาออกมาจากตัวคน ก็คงเป็นไปไม่ได้
-
การประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญของการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ หากองค์กรเรียนเอง รู้เอง ความรู้ก็จะไม่แตก อันนี้อาจเป็นเหมือนกบในกะลา (คิดเอาเองครับ)
- วิธีการทำ KM ซึ่งเราบอกว่าไร้รูปแบบ แต่จริง ๆ แล้วการใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง ซึ่งศูนย์ ฯ ได้ทำให้ดูในเรื่อง "ก้าวเดินสะสม" ในโครงการไร้พุง ก็ยังไม่เนียนนัก ผู้เล่ายังเล่าด้วยความเกร็ง (อาจเนื่องจากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในกลุ่มด้วย) อีกทั้งยังมีรูปแบบที่ตายตัวคือการเล่าทีละคน และประเด็นเรื่องเล่าที่กว้าง จนจับประเด็นไม่ได้
-
การสกัดความรู้ที่ได้จากการเล่ายังเป็นสิ่งที่เป็นข้อด้อย เพราะถ้าหาก FA หรือ Note taker ตั้งธงไว้ว่าจะให้ผลประชุมออกมาเป็นรูปแบบใดตั้งแต่แรกแล้ว ความรู้ได้ก็อาจไม่ใช้ความรู้ที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มอย่างแท้จริง
-
การฟังเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหากไม่ฟังก็จะไม่รู้ แต่บางคนฟังอย่างเดียว อันนี้ก็ไม่ใช่ KM เพราะหัวใจของ KM คือ Give and Take นั้นคือฟัง แล้วต้องพูดด้วย
- บางคนจะรู้จัด AAR (After action review) เท่านั้น จริง ๆ แล้วการทำ BAR (Before action review) และ BwAR (Between action review) ก็มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในการทำ KM แต่การทำ BAR นั้นอาจลือว่าไม่ใช่การตั้งธงไว้ล่วงหน้า
-
FA เป็นบุคคลสำคัญในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ต้องเป็นคนที่รู้เขา รู้เรา รู้จังหวะในการซัก ในการเบรค เมื่อหลุดประเด็น หรือเวลาเกิน รู้ว่าใครจะเป็นผู้เล่าคนต่อไป ใครยังไม่ได้เล่า รู้จักสร้างบรรยากาศในการเล่า
-
Note taker ก็เป็นคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ การบันทึกมีหลากหลายวิธี แต่หัวใจสำคัญก็คือบันทึกแล้วไม่เปลี่ยนความหมายและไม่ครบถ้วน หลังจากบันทึกแล้วอาจต้องทวนข้อความให้ผู้เล่า และกลุ่มฟังว่า OK หรือไม่ ขาดสิ่งใดไปหรือไม่ และต้องการเพิ่มสิ่งใดอีก ที่สำคัญ Note taker ไม่ใช่คนที่จะสรุปผลการประชุมในครั้งนั้น ๆ (ผู้สรุปที่แท้จริงคือคนทุกคนในกลุ่ม)
- AAR เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ส่วนใหญ่การทำ AAR คือขอให้ได้ชื่อว่าทำ AAR แต่เอาผลการทำ AAR ไปใช้ประโยชน์หรือไม่นั้น ยังไม่รู้ และยังไม่เห็น (อันนี้ต้อง AAR ของ AAR อีกที)
-
AAR คนเดียวไม่สนุก คงต้องรอให้ AAR ทั้งกลุ่ม KM teams แต่ตอนนี้งานเข้าจริง ๆ เวลาไม่มีเลย
-
ขอบคุณครับ