เห็นเพื่อนๆครู เออรี่ ก็ดีใจด้วยที่จะได้พักผ่อนเสียที แต่ก็เสียดายความรู้ความสามารถ ที่ได้สั่งสมมาเป็นเวลานาน ยังใช้ความรู้ความสามารถอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ ได้อีกมาก แต่ก็นั่นแหละคุณครูท่านคงอ่อนแรง ตัวเราเองก็เหนื่อย ๆล้าๆอยู่เหมือนกัน พักนี้สุขภาพไม่น่าจะดี อันเนื่อมาจาก โรคเบาหวานและความดันและไขมัน สามโรคพี่น้องที่ตามมาติดๆที่เดียว ก็เลยไม่อยากเขียนเรื่องที่มีสาระ หรือวิชาการ อ่านแล้วจะเครียดเอง
เคยดูรายการ เรื่องกรรมลิขิต แล้วนึกถึงตัวเอง เมื่อเวลาที่รู้สึกเจ็บที่ลิ้นปี่เจ็บเหมือนถูกแทง อาจจะอุปทานเอง แต่ก็อยากจะเล่า ให้ฟังว่า สมัยเด็กๆ จะชอบกินปูทะเลมาก ทีนี้เวลาจะนำปูทะเลไปทำเป็นอาหาร จะต้องฆ่าปูทะเลก่อน ปูทะเลถ้าตายจะกินไม่อร่อย เนื้อจะหายหมด ต้องใช้ปูเป็น การฆ่าปูทะเล ก็คือนำปูทะเลให้นอนหงายเอากระดองปูวางบนพื้นแล้วใช้มีดแทงอกปู แกะก้ามออกแกะกระดองปูออก เวลาแทงอกปูตาของปูจะกระพริบดูแล้วน่าสงสารมาก แต่นอนนั้นเป็นเด็กๆยังไม่รู้สึกอะไร และเวลาใครนำปูทะเลมาจะต้องเป็นคนอาสาแทงปูทะเลให้ จนมาเมื่อตอนปิดเทอมเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวแม่กลอง แล้วแวะซื้อปูทะเลมาประมาณ 10 ตัว แล้วก็มานั่งแทงอกปูทะเล ถึง 10 ตัว พอเวลาเราแทงอกปู มีความรู้สึกว่า ใจมันหวิว เหมือนกับว่าเราถูกแทงอกเอง รู้สึกเจ็บทุกครั้งที่นึกถึงปูที่ถูกแทง วันนั้น ปูผัดผงกระหรี่ไม่ได้ตกถึงท้องสักคำ กินไม่ลงเลย ตั้งแต่บัดนั้นมา ให้คำมั่นสัญญาในใจว่าจะไม่นำปูทะเลมาทำอาหารอีกเลย
สวัสดีค่ะ เห็นชื่อโรงเรียนวัดศิวาราม คงจำกันได้ เราไปจัดนิทรรศการที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ใกล้ๆกัน บางทีก็เป็นอุปาทานอย่างว่านะ แต่ทางที่ดีเราน่าจะลด ละ หรือเลิกทานเนื้อสัตว์ก็ดีนะ โดยเฉพาะสัตว์ที่เราต้องจัดการมันกับมือ