กินกล้วยวันละ 2 ผล
เกิดประโยชน์มหาศาล
>>
>>
ถ้าต้องการให้ระดับพลังงานที่หย่อนยานลงให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็วไม่มีอาหารว่าง
>>
ใดดีไปกว่ากล้วย อุดมด้วยน้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด
คือ ซูโครส ฟรุคโทส
>>
และกลูโคสรวมกับเส้นใยและกากอาหาร
>>
กล้วยจะช่วยเสริมเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันทีทันใด
>>
จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ 2 ผล
ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอ
>>
กับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง 90
นาที
>>
>>
จึงไม่น่าแปลกใจที่กล้วยเป็นผลไม้อันดับหนึ่งของนักกีฬาชั้นนำระดับโลก
>>
ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มพลังงานเท่านั้นยังช่วยเอาชนะ
>>
>>
และป้องกันโรคต่าง ๆ
ที่จะเกิดกับร่างกายได้อีกหลายโรค
>>
จึงควรรับประทานทุกวัน
>> 1.
โรคโลหิตจาง
>>
ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด
>>
และจะช่วยในกรณีที่มีสภาวะขาดกำลัง
หรือภาวะโลหิตจาง
>>
>> 2.
โรคความดันโลหิตสูง มีธาตุโปรแตสเซียมสูงสุด
แต่มีปริมาณเกลือต่ำ
>>
ทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะช่วยความดันโลหิตมาก
>>
อย.ของอเมริกายินยอมให้อุตสาหกรรมการปลูกกล้วยสามารถ
>>
โฆษณาได้ว่า
>>
>>
>>
กล้วยเป็นผลไม้พิเศษช่วยลดอันตรายอันเกิดจากเรื่องความดันโลหิตหรือโรคเส้นเลือด
>>
ฝอยแตก
>>
>> 3.
กำลังสมอง นักเรียน 200 คน ที่โรงเรียน
Twickenham
>>
ได้รับผลดีจากการสอบตลอดปีนี้
ด้วยการรับประทานกล้วย
>>
ในมื้ออาหารเช้า ตอนพัก
และมื้ออาหารกลางวันทุกวัน
>>
เพื่อช่วยส่งเสริมกำลังของสมองในพวกเขา
จากงานวิจัยแสดง
>>
>>
>>
>>
ให้เห็นว่าปริมาณโปรแตสเซียมที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในกล้วยสามารถให้นักเรียนมีการต
>>
ื่นตัวในการเรียนมากขึ้น
>>
>> 4.
โรคท้องผูก
>>
ปริมาณเส้นใยและกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ
>>
และยังช่วยแก้ปัญหาโรคท้องผูกโดยไม่ต้องกินยาถ่ายเลย
>>
>> 5.
โรคความซึมเศร้า จากการสำรวจเร็ว ๆ นี้
>>
ในจำนวนผู้ที่มีความทุกข์เกิดจากความซึมเศร้าหลายคนจะมี
>>
ความรู้สึกที่ดีขึ้นมากหลังการกินกล้วย
เพราะมีโปรตีนชนิดที่เรียกว่า
>> trypotophan
เมื่อสารนี้เข้าไปในร่างกายจะ
>>
ถูกเปลี่ยนเป็น serotonin
>>
เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวผ่อนคลายปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้นได้
>>
คือทำให้เรารู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นนั่นเอง
>>
>> 6.
อาการเมาค้าง วิธีที่เร็วที่สุดที่จะแก้อาการเมาค้าง
คือ
>>
การดื่มกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง กล้วยจะทำให้
>>
กระเพาะของเราสงบลง
>>
>>
>>
ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไปในขณะที่นมก็
>>
ช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา
>>
>> 7.
อาการเสียดท้อง
กล้วยมีสารลดกรดตามธรรมชาติที่มีผลต่อร่างกายของเรา
>>
ถ้าปัญาเกี่ยวกับอาการเสียด
>>
ท้อง ลองกินกล้วยสักผล
คุณจะรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเสียดท้องได้
>>
>> 8.
ความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า
>>
การกินกล้วยเป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหาร
>>
จะรักษาระดับน้ำตาลใน
>>
เส้นเลือดให้คงที่
เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า
>>
>> 9.
ยุงกัด ก่อนใช้ครีมทาแก้ยุงกัด
>>
ลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด
มีหลายคนพบอย่าง
>>
มหัศจรรย์ว่า
เปลือกกล้วยสามารถแก้เม็ดผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้
>>
>>
10. ระบบระสาท ในกล้วยมีวิตามินบี สูงมาก
ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลงได้
>>
โรคน้ำหนักเกินและโรคที่
>>
เกิดในที่ทำงาน
จากการศึกษาของสถาบันจิตวิทยาในออสเตรียค้นพบว่า
>>
ความกดดันในที่ทำงานเป็นเหตุนำไปสู่
>>
การกินอย่างจุบจิบ เช่นอาหารพวกช็อคโกแล็ต
และอาหารประเภททอดกรอบต่างๆ
>>
ในนจำนวนคนไข้ 5,000 คน
>>
ในโรงพยาบายต่าง ๆ นักวิจัยพบว่า
ส่วนใหญ่เป็นโรคอ้วนมากเกินไป
>>
และส่วนใหญ่ทำงานภายใต้ความกดดันสูงมาก
จากรายงานสรุปว่า
>>
เพื่อหลีกเลี่ยงการตื่นตระหนกและนำไปสู่การกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง
>>
เราจึงต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือด
>>
ด้วยการกินอาหารว่างที่มีปริมาณคาร์โบโฮเดรตสูง
>>
เช่น กินกล้วยทุก 2 ชั่วโมง
>>
เพื่อรักษาปริมาณน้ำตาลให้คงที่ตลอดเวลา
ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่อยยา
>>
การกินกล้วยที่มีวิตามินบี 6
ซึ่งประกอบด้วย
>>
สารควบคุมระดับกลูโคสที่สามารถมีผลต่ออารมณ์ได้
>>
>>
11. โรคลำไส้เป็นแผล
กล้วยเป็นอาหารที่แพทย์ใช้ควบคุม
>>
เพื่อต้านทานการเกิดโรคลำไส้เป็นแผล เพราะ
>>
เนื้อของกล้วยมีความอ่อนนิ่มพอดี
เป็นผลไม้ชนิดเดียวที่ทานได้ง่าย ๆ
>>
ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรค
>>
ลำไส้เรื้อรัง
และกล้วยยังมีสภาพเป็นกลางไม่เป็นกรด
>>
ทำให้ลดการระคายเคือง
>>
และยังไปเคลือบผนังลำไส้และ
>>
กระเพาะอาหารด้วย
>>
>>
12. การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ในวัฒนธรรมของหลายแห่งเห็นว่ากล้วย
>>
คือผลไม้ที่สามารถทำให้
>>
อุณหภูมิเย็นลงได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
>>
โดยเฉพาะอุณหภูมิของอารมณ์ของคนที่เป็นแม่ที่ชอบคาดหวัง
>>
ตัวอย่างในประเทศไทย
>>
จะให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานกล้วยทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่า
ทกรกที่
>>
เกิดมาจะมีอุณหภูมิเย็น
>>
>>
13. ความสับสนของอารมณ์เป็นครั้งคราว
>>
กล้วยสามารถช่วยในเรื่องของอารมณ์และความสับสนได้
>>
เพราะในกล้วยมีสารตามธรรมชาติ try potophan
ทำให้อารมณ์ดี
>>
>>
14. การสูบบุรี่
กล้วยสามารถช่วยคนที่กำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่
>>
เนื่องจากในกล้วยมีปริมาณของวิตามินซี
>>
เอ บี6 และบี 12 ที่สูงมาก
และยังมีโปรแตสเซียมกับแมกนีเซียม
>>
ที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นคืนตัวได้เร็วอันเป็นผล
>>
จากการลดเลิกนิโคตินนั่นเอง
>>
>>
15. ความเครียด โปรแตสเซียมเป็นสารอาหารสำคัญ
>>
ที่ช่วยให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ
การส่งออกซิเจน
>>
ไปยังสมอง และปรับระดับน้ำในร่างกาย เวลาเกิดอารมณ์เครียด
อัตรา
>>
metabolicในร่างกายของเราจะขึ้นสูง
>>
และทำให้ระดับโปรแตสเซียมในร่างกายของเราลดลง
>>
แต่โปรแตสเซียมที่มีอยู่สูงมากในกล้วยจะช่วยให้เกิดความสมดุล
>>
>>
16. เส้นเลือดฝอยแตก จากการวิจัยที่ลงในวารสาร "The New
England
>> Journal
of Medicine" การกิน
>>
กล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง
40%
>>
>>
17. โรคหูด
การรักษาหูดด้วยวิธีทางเลือกแบบธรรมชาติ
>>
โดยการใช้เปลือกของกล้วยวางปิดลงไปบนหูด
>>
>>
แล้วใช้แผ่นปิดแผลหรือเทปติดไว้ให้ด้านสีเหลืองของเปลือกกล้วยออกด้านนอก
>>
ก็จะสามารถรักษาโรคหูดให้หายได้
>>
เห็นหรือไม่ว่า กล้วยรักษาโรคต่าง ๆ
อย่างธรรมชาติได้มากมาย
>>
ท่านควรลองพิสูจน์ด้วยตัวเองบ้าง
>>
ว่าจะได้ผลตามที่กล่าวหรือไม่
และเมื่อเปรียบเทียบแอปเปิ้ลแล้ว
>>
กล้วยมีโปรตีนมากกว่าแอปเปิ้ล 4 เท่า
มี
>>
คาร์โบรไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า
มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีวิตามินเอ
>>
และธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า และมี
>>
วิตามินรวมทั้งแร่ธาตุอื่น มากกว่าอีก 2
เท่า
>>
และกล้วยยังอุดมด้วยโปรแตสเซียม
กล้วยจึงเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุด
>>
>>
ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่เคยกินแอปเปิ้ลวันละผลทุกวันไม่ต้องไปหาหมอ
>>
หันมาคุ้นเคยกับคำว่า
>>
"กินกล้วยวันละผล ก็ไม่ต้องไปหาหมอ"
>>
นอกจากนี้มีคนที่เคยเป็นตะคริวที่เท้า
>>
ข้อเท้า และน่อง แนะนำให้กิน
>>
กล้วยทุกวัน ตั้งแต่นั้นมาไม่เป็นตะคริวอีกเลย
และหายไป