เมื่อบันทึกก่อนได้เขียนถึงเรื่องการใช่รถจักรยานยนต์และการจอดรถของนิสิตที่ผิดที่ผิดทาง ซึ่งต้องการความร่วมมือร่วมใจของหลาย ๆ ฝ่ายจึงจะสามารถแก้ไขได้สำเร็จ รวมทั้งการทำเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ด้วย วันนี้ขอเอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ที่บริเวณที่พักอาศัยของผู้ใหญ่มาเล่าครับ
เรื่องมีอยู่ว่าช่วงเช้าวันนั้นขณะที่ผมกำลังเตรียมตัวที่จะออกไปทำงาน ก็มีเสียงแตรรถยนต์ดังติดต่อกันนานมาก ต่อมาก็ได้ยินเสียงการสั่งการว่า ไปเอาที่ยกมายกรถออกไปให้พ้นทาง ผมจึงโผล่หน้าออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้เห็นว่า มีรถยนต์คันหนึ่งไม่สามารถออกจากที่จอดได้ เพราะมีรถจอดขวางอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง เจ้าของรถคันที่จอดอยู่ตรงกลางคงมีธุระด่วนที่จะต้องออกไป แต่ออกไม่ได้จึงบีบแตรดังลั่นติดต่อกันนาน เพื่อเรียกให้ทุกคนสนใจ และคงหวังว่าเจ้าของรถคันที่จอดขวางอยู่คงได้ยินและออกมาเลื่อนรถออกให้ แต่ทำอยู่สักพักก็ยังไม่ปรากฏว่ามีผู้เป็นเจ้าของรถทั้งสองคันที่อยู่หน้าหลังออกมา ท่านเจ้าของรถคันกลาง ซึ่งเข้าใจว่าคงเป็นผู้ใหญ่ระดับ VIP เพราะได้ยินการสั่งการให้คนไปเอาเครื่องยกรถ มายกรถออกไปให้พ้นทาง และเมื่อผมลงไปข้างล่างก็เห็นมีคนกำลังใช้แม่แรงยกคันหน้าอยู่พอดี โดยมีท่านเจ้าของรถคันกลางยืนกำกับอยู่ด้วย เป็นภาพที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็น และนึกถึงรายการ นักข่าวพลเมือง ของทีวีไทยขึ้นมา จึงเอามือถือออกมาบันทึกภาพไว้ มาประกอบการเล่าเรื่อง
ผมไม่ได้อยู่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นจนจบ เพราะต้องรีบไปทำงาน จึงไม่ทราบว่าผลสุดท้ายลงเอยอย่างไรครับ แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นคงจะเป็นตัวอย่างอันหนึ่งที่แสดงถึง จิตสำนึกและวัฒนธรรม ในการใช้ของสาธารณะร่วมกัน หรือการใช้ของส่วนรวมร่วมกันของคนในชุมชน
ผมคิดอยู่หลายวันเหมือนกัน ว่าจะนำภาพและเรื่องนี้มาบันทึกไว้ดีหรือไม่ เพราะอาจจะกระทบกับท่านผู้ใหญ่ VIP หลายคน ในที่สุดก็คิดว่าน่าจะเป็นกรณีตัวอย่าง ที่เป็นประโยชน์ ให้ข้อคิดเตือนสติได้บ้าง จึงปรับภาพเป็นขาวดำมาลงประกอบเรื่องครับ
ให้สังเกตุในภาพให้ดีนะครับ ลักษณะการจอดรถทั้งจักรยานยนต์ รถยนต์ ในบริเวณนี้เป็นอย่างไร ? มันแสดงถึงจิตสำนึกและวัฒนธรรมของคนในชุมชน (บางคน)เป็นอย่างไร ? บริเวณที่เกิดปัญหา เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างที่พักอาศัยสองหลัง ที่มีการทำเครื่องหมายห้ามจอดไว้ คือการทาสีขอบทางเป็นสีขาวสลับแดงไว้ทั้งสองข้าง และเคยมีการแจ้งเวียนหนังสือเรื่องการห้ามจอดในบริเวณที่ทำเครื่องหมายห้ามจอดให้คนในชุมชนได้ทราบไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีผู้ที่ไม่สนใจปฏิบัติตามเรื่องดังกล่าวอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งเกิดเหตุดังที่เล่ามา และหลังจากวันนั้นมาก็ยังคงมีรถมาจอดในบริเวณถนนที่เชื่อมระหว่างที่พักสองหลังนี้เช่นเดิม......แล้วอย่างนี้จะไปบอกนิสิตให้จอดรถจักรยานยนต์ให้เป็นระเบียบและถูกที่ถูกทางอย่างไร ? ผมเห็นใจฝ่าย รปภ. และผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ๆ ครับ......หรือเป็นความสุขที่ได้ทำอะไรตามสะดวกหรือตามใจฉัน เพื่อให้สอดคล้องกับจังหวัดที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในประเทศ.....5555
สวัสดีค่ะอาจารย์
เห็นด้วยค่ะ ที่วิทยาลัยก็ไม่แตกต่างกัน หมายถึงการจอดรถจักรยานยนต์ของนักศึกษานะคะ ที่จอดแบบไม่สนใจใครเลย..จนซ้อนคันแล้วซ้อนคันอีก แบบบางทียังนึกไม่ออกเลยว่าคันที่อยู่ในสุดจะออกได้อย่างไร หรือแม้กระทั่งปิดทางเดินเข้าออกบริเวณหน้าเสาธง ไม่เคยรู้จักเส้นแดง-ขาว หรือทางเข้าออก
นักศึกษา..ที่กำลังจะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำเช่นนั้นต่อไปอีก
ผู้ใหญ่ ในเวลานี้ จึงต้องช่วยกันสร้างวัฒนธรรมในองค์กร สร้างจิตสำนึกและคุณธรรม สร้างน้ำใจ สร้างวินัยเพื่อให้นักศึกษาในวันนี้ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีสิ่งดี ๆ เหล่านี้ในจิตใจ
จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคมในวันข้างหน้า เช่นเดียวกับผู้ใหญ่บางคน ณ วันนี้
สวัสดีค่ะอาจารย์ Panda คะ
ภาพคุ้นตามากเลยค่ะอาจารย์ หนิงก็เจอประจำค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไร รปภ.ก็ไม่กล้า อย่าโทษว่าแต่นิสิตเลยนะ เพราะในที่ตึกที่พักอาศัยของบุคลากรก็เจอ 555 จะเดินขึ้นตึกยังไม่ช่องจะให้เดินเลยอ่ะค่ะ