ข้าพเจ้ากับกลุ่มเพื่อนเที่ยวด้วยได้ ได้ชวนการไปเที่ยวเขาใหญ่ โดยเข้าทางทางเส้นทางนครนายก-ปราจีนบุรี ช่วงเวลาที่เดินทางมีฝนตกเกือบตลอดทาง ออกจากราชบุรี 6 โมงเช้า ไปถึงเขาใหญ่ 10 โมงเช้า พอจะแวะผาเดียวดาย เกิดมีต้นไม้ล่มขวางทาง ก็เลยไปหาที่พักก่อน แต่ต้องเสียเวลาไปติดต่อที่พัก กางเตนท์ แล้วก็จองเตนท์แบบยกพื้นที่ผากล้วยไม้ ในราคาคืนละ 600 บาท และเหมารถส่องสัตว์ ให้มารับที่ผากล้วยไม้ 200 บาท พอเสร็จก็ไปกินข้าวกลางวันที่ร้านสวัสดิการ อาหารอร่อย ราคาไม่แพงคะ แล้วก็ไปเดินศึกษา ธรรมชาติที่น้ำตกผากล้วยไม้ ทากเยอะฝนก็ตกหนัก เลยไม่กล้าเดินทะลุ ออกน้ำตกเหวสุวัติ จำเป็นต้องกลับมาที่กางเตนท์ ฝนก็ไม่หยุด แถมที่ห้องน้ำ ก็ยังมีทากคะ เผอิญว่าเดินป่าบ่อย ทากเลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แต่มีพี่บางคน ไม่เคยเจอทากเธอก็หย่อง ๆๆ เหมือนกันคะ ฝนตกจนเกือบ 6 โมงเย็น ถึงได้หยุด รถส่องสัตว์มารับตอน 6 โมงครึ่ง กวางจะมีเยอะที่สุด ในที่พักยังเดินให้เห็นหลายตัวเหมือนกัน ส่องก็นานพอสมควร
พอเช้าก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาเดียวดาย หมอกเยอะอากาศดีคะ แล้วก็ไปเที่ยวหนองผักชี น้ำตกเหวสุวัติ และกลับเส้นทางเดิน เจอเก้งวิ่งผ่านหน้ารถคะ แล้วก็ไปน้ำตกเหวนรก เดินได้เหนือยพอควร เพราะขั้นบรรไดเยอะมากแล้วก็ถี่มาก จากนั้นก็เดินทางกลับบ้านคะ ถึงบ้านก็ 6 โมงเย็นได้
ชมภาพบรรยากาศคะ
ทุ่งหญ้าเขี่ยวมาก
เส้นทางไปน้ำตกผากล้วยไม้
โฉมหน้าพี่ ๆที่ไปด้วยกัน
เห็ดอะไรก็ไม่รู้คะ
น้ำตกผากล้วยไม้
ผาเดียวดาย
หนองผักชี
น้ำตกเหวสุวัติ
น้ำตกเหวนรก สวยมากคะ
เที่ยวป่าหน้าฝนได้อารมณ์เขียวชอุ่มจังเลยค่ะ
เราไปกางเต้นท์ตอนช่วง long weekend เมื่อหน้าหนาว
หนองผักชีไม่เขียวเท่านี้ และเดินป่าไม่ต้องสวมถุงเท้ากันทากซะด้วย
น้ำตกช่วงเวลานี้ ก็มีน้ำเยอะดี ...ชอบจัง
...
เห็นแล้วอยากไปกางเต้นท์นอนบนเขาใหญ่อีกจัง
จุดกางเต๊นผากล้วยไม้สวยมากครับ เขาใหญ่นี่ธรรมชาติมากๆครับ
แต่เสียที่ ( พนักงานบางคน พูดไม่เพราะมากๆๆ)
ผมไปปีที่ 2 แล้วครับไปที 15-20 คนครั้งแรกโครตชอบเราก็เลยไปกันอีก แล้วครั้งๆนี้ทำให้พวกผมหมดความรู้สึกดีๆกลับที่นี่ไปเลย และพวกผมคงไม่ไปกันอีกแล้ว (เพราะคนๆเดียวแท้)