ใส่บาตรพระ 2000 รูป
เช้าวันนี้ (8 มิถุนายน 2550) ผมได้มีโอกาสไปทำบุตรใส่บาตรครั้งยิ่งใหญ่ที่จังหวัดขอนแก่นจัดขึ้น เพื่อร่วมในโครงการใส่บาตรพระห้าแสนรูปทั่วไทย โดยจะจัดขึ้นตามจังหวัดต่าง ๆ จำนวนพระนั้นมากบ้างน้อยบ้างตามแต่กำลังที่จังหวัดจะจัดได้
ขอนแก่นเราขอสตาร์ทที่ 2000 รูปก่อน เห็นว่าจะมีอีกในภายภาคหน้า ซึ่งผู้จัดโม้ว่าจะเอาให้ถึงหมื่นรูปเลย (แต่ดูจากสภาพวันนี้แล้ว ถ้ามีพระมาเป็นหมื่นรูป คงต้องเปลี่ยนสถานที่ เพราะถนนกลางเมืองนั้นคับแคบมาก)
น่าดีใจที่แม้ว่าทุกวันนี้หันไปทางไหนก็ได้ยินแต่เสียงบ่นเรื่องน้ำมันแพง ข้าวแพง อะไรก็แพงไปหมด (แต่ไม่มีใครบ่นเรื่องเหล้าแพง บุหรี่แพง) ขณะที่รายได้ยังหดตัวเท่าไฝมดอยู่เหมือนเดิม แต่คนที่มาทำบุญใส่บาตรเช้าวันนี้นั้นมากมายมหาศาล จนริมถนนกลางเมืองนั้นแทบไม่มีที่จะยืน มิต้องพูดถึงเรื่องที่จอดรถ ที่เต็มหมดตั้งแต่ยังไม่หกโมงครึ่ง พุทธสานิกชนที่ตื่นสายมาช้ากว่านั้น ต้องจอดไกลออกไปเป็นกิโล แสดงให้เห็นว่าเมื่อถึงเวลา ศาสนาคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการรวมคนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
(คำว่าอันหนึ่งอันเดียวกัน กับการมารวมกันเยอะ ๆ นั้นความหมายแตกต่างกันไม่น้อย กรุณาอย่าสับสน)
อันกระผมนั้นขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นพระสงฆ์องคเจ้าย่างเท้าเดินเรียงกันมาบนพรมแดงที่ปูไว้ต้อนรับนับพันรูป จริงอยู่ว่าช่วงนี้มีข่าวรายงานว่ามีพระอยู่จำนวนหนึ่งที่ประพฤติตัวเหลวไหล แต่เมื่อเราตั้งใจจะทำบุญอันเป็นการเสียสละเพื่อขัดกิเลสออกจากตัวให้เบาบางลงบ้าง ก็ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจอะไรตรงจุดนั้น สู้เอาเวลาน้อมตัวให้ต่ำ ทำใจให้นิ่ง ศรัทธากับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าดีกว่า
พิธีกรประกาศให้พวกเรานั่งใส่บาตร เพราะการยืนนั้นจะทำให้คนเรือนหมื่นแย่งกันใส่ แย่งกันเอาบุญ จนเกิดโกลาหล ซึ่งแม้การนั่งใส่บาตรจะทำให้คนข้างหลังต้องรอนานไปบ้าง แต่ก็ทำให้บรรยากาศดูสงบเรียบร้อยดีทีเดียว
จะมีขัดใจอยู่บ้าง ก็คือเสียงอำนวยอวยพรของท่านพิธีกรหญิง ที่ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะอิ่มบุญหรือปิติอย่างไรไม่ทราบได้ เธอขอให้ทุกคนที่มาใส่บาตรร่ำรวย ๆ อยู่ไม่ขาดปาก บางทีก็ขอให้อุดมด้วยลาภ ยศ สรรเสริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยเธออาจลืมไปว่า แก่นของศาสนาที่แท้คืออะไร และเรามาทำบุญใส่บาตรวันนี้เพื่ออะไร
ตอนสวดบาลีขอพรจากพระ ยังท่องกันอยู่เลยว่า ขอให้ข้าพเจ้าประสบกับนิพพานโดยเร็ว
แล้วมัวแต่มาอยากได้ลาภ ยศ สรรเสริญ เงินทอง ร่ำรวย มันจะไปประสบกับนิพพานได้ยังไง(วะ)
เรามาใส่บาตรเพื่อปล่อยวางจากสิ่งที่เรายึดถือ เพื่อให้เราตระหนักว่าไม่ต้องรวยล้นฟ้า หรือถูกหวยรางวัลที่ 1 ก็สามารถแบ่งปันทรัพย์ที่หามาได้อย่างยากลำบากนั้นให้ยังประโยชน์ไปถึงผู้อื่นได้ มิใช่มาใส่บาตรเพื่อให้ตนเองได้เจริญในทางโลกียะแต่อย่างใด
ความสุขที่แท้มันน่าจะอยู่ตรงนั้น
สาธุจ้า
ที่สุพรรณก็จะจัด ในวันที่ 11 สค นี้ค่ะ