ผมหวาดกลัวหลักการ


หนึ่งคำถามสำคัญของชีวิตผม ท่ามกลางวันวัยและการเติบโต ที่เรียนรู้คำพูดคำกล่าว คำอ้างอิง เทียบเคียง เปรียบเปรยถึงหลักการ และการยึดมั่นในหลักการ ผมเพียงแต่มีคำถามในท่ามกลางหลักการอันมากมายของสังคมไทย และเพียงถามตัวเองเบาเบา ว่าหลักการเช่นที่สังคมกำลังดำเนินไปนั้น เป็นเช่นไรบ้าง คิดอย่างไร และเห็นอย่างไรต่อสิ่งที่ปรากฎเบื้องหน้าบ้าง

ผมหวาดกลัวหลักการ

อ้างอิง - ภาพ http://burabhawayu.multiply.com/photos

ในท่ามกลางยุคสมัย

เมื่อผู้คนต่างกล่าวขานถึงหลักการ

นับอ้างอิงจนเป็นดั่งฉลากบ่งบอกสรรพคุณ

มีตัวเลขคุณค่าทางโภชนาการ เสมือนหนึ่งว่าชีวิตนี้ มีคุณงามความดีใดก็ตาม ต่างได้บ่งบอกไว้ข้างลำตัว รอเพียงเครื่องอ่านรหัส จ่อไฟสีแดง สแกนตัวตนออกมาผ่านหลักการดังกล่าว บ่อยครั้งอาจมีเสียงคำพูดทักถามหลังสแกนว่า รับขนมจีบซาละเปาเพิ่มไหม ค่ะ

ใช่ว่าความจริงของหลักการจะไม่ดีงาม

แต่ตรงกันข้ามอย่างยิ่งสำหรับชีวิต

เมื่อผู้คนต่างได้รับการบอกสอน

ให้เข้าใจถึงความดีงามแห่งหลักการ การกระทำตนเป็นดั่งเสา ที่ไม่ได้ปักไว้กลางเลน กลางโคลนตมอันเลื่อนไหล แต่ขอให้ชีวิตเป็นดั่งเสา ซึ่งผู้คนทั่วไปสามารถจับต้องได้ เข้าใจสัมผัสสัมพันธ์รับรู้ได้ว่า คุณคือใคร และ คุณคิดเช่นไร

ในท่ามกลางความหวาดกลัว

ผมหวาดกลัวความโลเลของชีวิตคนเรา

ในท่ามกลางการเอาตัวรอด และต้องเอาตัวให้รอด

หลักการไม่ใช่เพียงเครื่องค้ำยันคุณค่าชีวิต แต่บ่อยครั้งที่หลักการกลับกลายเป็นแบบทดสอบความหมายของชีวิต เสมือนหนึ่งเสียงทดสอบ ยามใครกล่าวถึงผู้คน ว่าหากต้องการทดสอบจิตใจ ความกล้าหาญ ความหวาดกลัว และตัวตนอันแท้จริง ให้มองในยามวิกฤติทุกข์ยาก

เราจึงจะเห็นความจริง ซึ่งจะปรากฎในเบื้องหน้า

ตัวตน ความคิด และการกระทำจะบ่งบอก

ทุกสิ่งอย่างจะแสดงออกมา

ในท่ามกลางภาวะอันผิดปกติของชีวิต นานวันเข้าที่เราได้รับรู้เรียนรู้ เข้าใจและรู้เห็นกับตัวตนของนักการเมือง และผู้คนที่ต่างกอดหลักการ เสมือนเดินกอดหมอนข้างไปทั่วบ้านทั่วเมือง ยิ่งทำให้ผมหวาดกลัว ตระหนกและวิตกเสมอ ถึงหลักการที่ผมอาจมองไม่เห็น

ผมกลัวว่าสักวันหนึ่ง

ชีวิตแวดล้อมผมหรือแม้กระทั่งตัวเอง

จะเอาตัวรอดจากภาวะวิกฤติ แค่เพียงสลัดหลักการ

เสมือนแมลงมีปีกทั่วไป ซึ่งต่างสลัดเปลือกแห่งอดีตเพื่อโบยบินสู่ชีวิตใหม่ ได้เปลือกใหม่ได้คราบใหม่ของชีวิต แต่ไม่ใช่สำหรับมนุษย์ ยามสลัดหลักการเพื่อโบยบินสู่หลักการใหม่ เพียงเพื่อบอกผู้คนทั่วไป ถึงหลักการใหม่แห่งชีวิต และหลักการนั้นได้นำพาให้เขาได้โบยบิน

ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องง่ายของชีวิต

เหมือนเรานั่งมองเพื่อนวันวัยวันวาน

เคยต่อยตีหยอกล้อเล่นหัว

กระทั่งเคยหัวหกก้นขวิดด้วยกัน ผจญภัยและเติบโต ตามแต่ความคะนองของชีวิตจะนำพา บ่อยครั้งที่ประดาผู้ชายหลายคน ต่างนั่งร่วมวงบอกเล่าเรื่องราวครั้งอดีต เสมือนหนึ่งตำนานชีวิต ยามไม่เคยทิ้งเพื่อนยามไม่เคยทิ้งกัน แม้เบื้องหน้าจะมีมีดไม้ กำปั้น และรอยเท้าของผู้คนมากมายรอคอย เพื่อนที่พร้อมจะหันหลังชนกัน เพื่อรับรอยแผลเบื้องหน้า

 

 

หรือกระทั่งเมื่อวิกฤตินั้นผ่านไป

ชีวิตคนสองคน อาจเพียงได้รับรู้ชีวิต

ว่ารอยเจ็บช้ำและรอยเท้ามากมายบนร่างกาย

ยิ่งใหญ่น้อยกว่าหัวใจของคนสองคน อ่อนด้อยต่อความจริงในความรู้สึก ที่ไม่ได้ทิ้งกัน หรือวิ่งหนีผ่านไป เพียงเพื่อเอาตัวรอด สำหรับชีวิตไม่ใช่เรื่องยากนัก เมื่อถึงคราวต้องเอาตัวรอด แต่เป็นเรื่องยาก และบทหนึ่งแห่งการพิสูจน์ความเป็นคน เมื่อถึงคราวิกฤติของชีวิต

เท่าที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกนี้เรียนรู้

มีคำตอบอยู่เพียงไม่กี่ประการ

สำหรับการรวมกลุ่ม

ว่าจะเอาตัวรอด รวมกลุ่มกันต่อสู้ หรือแม้แต่จบชีวิตร่วมกัน หากผลแห่งการรวมกลุ่มนั้นถึงวันสุดท้าย การหักหลังเอาตัวรอด วิ่งหนี ทิ้งกัน กระทั่งแอบรอคอยจังหวะแห่งการสลัด ไปสู่โอกาสที่ดีกว่า ด้วยการอ้างหลักการใหม่ของชีวิต ใครบ้างไม่เคยประสบ สำหรับความจริงในการเอาตัวรอด

ใครที่มีเพื่อน

ซึ่งพร้อมจะหันหลังชนกัน

พร้อมจะยืนยันในวันแห่งวิกฤติชีวิต

แบกหามเราในวันอันอ่อนแอ เพียงเพราะรับรู้ว่าเราคือเพื่อน นับเป็นหนึ่งในมงคลของชีวิต นอกเหนือจากความสุขใจในการเป็นมิตร ยามชีวิตรายล้อมด้วยความสุข แต่เป็นเพื่อนและมิตรซึ่งแม้จะแวดล้อมด้วยทุกข์ หรือ กระทั่งภัยซึ่งอยู่ปลายจมูก เพื่อนและมิตรเหล่านั้น ก็ยังคงไม่หนีหาย

ใครบ้างไม่อยากได้รับพรเหล่านั้นของชีวิต

พรอันยิ่งใหญ่ซึ่งมิตรภาพมอบให้

ไม่ใช่น้องพรหรือพี่พรมามอบ

แต่เป็นพรจากบททดสอบ จากห้วงอารมณ์การเรียนรู้ และร่วมก้าวร่วมเดินฝ่าชีวิตไปจนถึงวันสุดท้าย แต่ความจริงก็คือความจริง เมื่อบททดสอบเหล่านี้ได้เคยกระทำหน้าที่ และทำความจริงเหล่านั้นให้ปรากฎ การทรยศหักหลัง ฉ้อฉล โป้ปด โกหก หรือหลอกลวงต่อมิตรภาพ ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น

แต่เกิดขึ้นเสมอ

สำหรับชีวิตในท่ามกลางความดี

ชีวิตในท่ามกลางความเลวร้ายยังมีอยู่จริง

ไม่ใช่เรื่องเล่าอิงนิยาย แต่ปรากฎให้เห็นอยู่เสมอ สำหรับลาภยศ สรรเสริญ ความมั่งคั่ง เงินทอง กิเลสตัณหา และวันวัยของมิตรสหายที่ต่างเติบโตขึ้น ด้วยความใหญ่โตของตัวตน และด้วยความใหญ่ของหัวใจ ที่เบียดบังพื้นที่แห่งมิตรภาพ ขับให้พื้นที่แห่งความเลวร้าย ครอบครองพื้นที่แห่งความดีงามในจิตวิญญาณของผู้คน

บ่อยครั้งที่ได้ยินเสียงผู้คน อ้างอิงถึงหลักการใหม่

เพียงเพื่อโกหกหักหลังผู้คนรอบข้าง

เพียงเพื่อเอาตัวรอด

ผมเกลียดกลัวสิ่งเหล่านั้น

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 184114เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2008 15:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท