ชาร้อนถ้วยนั้น


เพียงชาร้อนร้อน ที่ทำให้นั่งลงคิด กับความเรียบง่ายและละเอียดอ่อน ในแต่ละการละเมียด ในแต่ละความเชื่องช้า และค่อยค่อยก้าว ค่อยค่อยคิดกับชีวิต ว่าหนทางใดบ้างที่เราควรตระหนัก และอารมณ์ความรู้สึกใดบ้างที่เราควรละเมียด ในแต่ละการคิดคำนึง จนถึงความจริงสำหรับชีวิต ว่าสุดท้ายแล้วชีวิตของเรากำลังเลือกเดินทางไปสู่ทิศทางใด และสิ่งใดบ้าง

ชาร้อนถ้วยนั้น

อ้างอิง - ภาพ http://bangnoikoyrak.multiply.com/

สำหรับผม

อารมณ์ชากับกาแฟ

ล้วนแตกต่างในความละเมียด

หรือในแต่ละรายละเอียดของชีวิต ทั้งในเรื่องราวของการลิ้มรส บรรยากาศของการลิ้มลอง และความสุขเมื่อยามได้ละเลียดแต่ละคำร้อนเหล่านั้น ไม่นับรวมกับความถ้อยทีถ้อยอาศัยจากป้านชา ที่ได้นั่งแบ่งปันให้แก่กัน อุ่นไอร้อนของมือยามอังถ้วย หรืออารมณ์จิบรสยามต้องปาก

ไม่ว่าอารมณ์ละเมียดละไมเหล่านั้น

จะเกี่ยวเนื่องสอดคล้อง

หรือแตกต่างกัน

แต่สำหรับบรรยากาศ ในยามได้เข้าใจในรายละเอียดอันแตกต่าง ระหว่างการสัมผัสรสชาดชา และรสชาดกาแฟ ย่อมทำให้เราเรียนรู้ที่จะเข้าใจ ในแต่ละห้วงอารมณ์ และแต่ละโมงยามของชีวิต รสชาดบางอย่างอาจต้องรอคอยโอกาส รสชาดบางสิ่งอาจต้องขึ้นกับคืนวัน

หรือกระทั่ง

การสัมผัสตามแต่อุณหภูมิ

เร่าร้อนเหน็บหนาวหรือกรุ่นกลิ่นเช่นไร

ล้วนขึ้นอยู่กับจังหวะ ในแต่ละครั้งของการจับสังเกตุ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของสายตา จมูก ริมฝีปาก หรือนิ้วมือ ยามแตะต้องเรื่องราวอันละเมียดละไมเหล่านั้น สำหรับผมแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันไว้เสมอ หากเราเข้าใจแต่ละความแตกต่างเหล่านั้น

ผมอาจเป็นพวกเสพสุนทรีย์มากเกินงาม

เกินกว่าจะลดละเลิกให้น้อยลง

หรือจำกัดความต้องการ

เพื่อให้เข้าใจถึงความเรียบง่ายและเบาบางของชีวิต แต่บางครั้งในท่ามกลางเวลาที่ไม่ได้มากมายนักของชีวิต ผมก็พยายามเรียนรู้ว่า เพียงน้ำร้อนในกา และใบชารสหอม เราก็อาจเข้าใจความไม่มากมายของชีวิตได้บ้าง แม้จะไม่บ่อยครั้งนักก็ตาม แต่ผมก็เชื่อใจในจุดสูงสุดด้านหนึ่ง

ในขณะที่ผมเชื่อ

ถึงความมากมายของชีวิต

ผมก็ยอมรับในความเรียบง่ายเช่นกัน

ในท่ามกลางความมากมายของรสชาด ไม่ว่าจะเป็นสุรา กาแฟ หรือชา แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผมก็เข้าใจว่า เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต น้ำเปล่าในโอ่งเย็นใจนั้น ก็เปี่ยมรสเลิศได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยามชีวิตกระหายน้ำช่ำใจกับรสเพียงชื่นอก ไม่หวานไม่ขม ไม่กลมกล่อมแต่ชื่นใจ

คำตอบเหล่านี้สำหรับคนซึ่งมึนหัวยามเช้า

หลังจากข้ามคืนที่ผ่านการผจญชีวิต

อาจเข้าใจได้ดีถึงรสเช่นนี้

น้ำเย็นกำลังพอดี เมื่อจิบริมฝีปากยามคอแห้งกระหาย กระทั่งไหลผ่านลำคอ ให้ชีวิตได้เรียนรู้ความจริงอันไม่มากมาย อาจช่ำใจได้ยิ่งใหญ่กว่าน้ำผสมของรสขมรสหวาน ของเครื่องกลั่นเครื่องหมักเครื่องดอง เมื่อข้ามคืนที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี อาจแตกต่างด้วยอารมณ์โลดแล่น

 

 

แต่สุดท้าย

ก็มาจบด้วยรสชาดอีกช่วงหนึ่ง

สำหรับชีวิตที่ยังไม่จบสิ้นและวนเวียนเช่นนี้

สำหรับความแตกต่างของรสชาดน้ำเปล่าชื่นใจ ซึ่งข้ามคืนที่ผ่านมา อาจไม่สนุกสนานและบันเทิงเริงรมย์ได้เท่ากับ ความฮาเฮในแต่ละคำพูดโต้ตอบของมิตรภาพ การเล่นหัวสนุกสนานในคำทักทายกล่าวขาน คำหยอกล้อในเพื่อนฝูง ทุกสิ่งอย่างล้วนทำหน้าที่อันแตกต่าง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และอาจขึ้นอยู่กับช่วงวัยของชีวิต ที่จะได้สัมผัสความจริงเหล่านี้

ผู้คนบ้านเราในความเป็นเมืองร้อน

อาจไม่เข้าใจอารมณ์ของ

การอุ่นเหล้าร้อน

หรืออาจต้องรอคอยให้ถึงยามหน้าหนาว กว่าจะเข้าใจถึงอารมณ์ชาร้อนยามเช้า ที่ไอหมอก และความเย็นของสิ่งรอบข้าง ปลุกให้ต้องเรียนรู้ไออุ่นของน้ำร้อน ความอบอุ่นของรสชาดชา กระทั่งละเมียดกับไอกาแฟที่อบอวลในแต่ละความทรงจำ ช่วงเวลาจึงสำคัญต่อชีวิต

ในท่ามกลางเรื่องราว

ในแต่ละความแตกต่างของฤดูกาล

ชีวิตจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงความแตกต่างเหล่านี้

โดยไม่ใช่สิ่งที่ต้องนำมาเปรียบเทียบ ในแต่ละความเปลี่ยนแปลง ระหว่างการลิ้มลองสัมผัสหรือสัมพันธ์ต่อสิ่งรอบตัว สำหรับผมแล้ว กฎเกณฑ์ในการทำความเข้าใจ ต่อความเปลี่ยนแปลงของชีวิตตนเอง ความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และสิ่งแวดล้อมรอบข้างชีวิต ล้วนสำคัญอย่างมาก

เช่นเดียวกับการเปรียบเทียบชีวิตกับสิ่งต่างต่าง

ผมมักมองหาความงามในความแตกต่าง

มองความเหมาะเจาะที่ไม่คล้ายกัน

และมองชีวิต ที่จำต้องเลือกใช้เลือกเป็นไป และเลือกสัมผัสสัมพันธ์ชีวิต เช่นเดียวกับความเข้าใจ ที่จะเลือกความเหมาะสมเหล่านั้น ในห้วงยามใดของชีวิตตนเอง และผู้คนที่อยู่รอบข้าง สำหรับบางคนอาจต้องการทดลองทดสอบ ว่าการจิบชาหน้าร้อน ยามแดดเต้นระยิบนั้นจะเป็นเช่นไร

สำหรับใครบางคน

อาจอยากลิ้มลองเหล้าเย็น

ในอุณหภูมิชีวิตที่กำลังติดลบอยู่

ก็ต้องลองเรียนรู้ และสร้างบทเรียนในใจกันไป จะมาอธิบายแทนกันเพื่อสรุปความ ว่าสิ่งใดดีเลวงดงามแตกต่างเพียงใดนั้น ก็อาจพอเทียบเคียงได้บ้าง แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดสำหรับสิ่งที่จะกลายเป็นคำตอบ กระทั่งจะเป็นบทสรุปของชีวิต ยิ่งในสิ่งสัมผัสลิ้มลองของชีวิตด้วยแล้ว

ยากนักที่จะมานั่งตอบคำแทนกันได้

ถึงความขมหวานของชีวิต

สุดท้ายเราต้องเลือก

ที่จะลิ้มลอง

หากปรารถนาที่จะรู้ ว่ารสชาดชีวิตเป็นเช่นไร

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 184112เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2008 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรียนคุณ kati

* มีเรื่องคาใจอยากจะไถ่ (แต่ไม่มีตัวประกันนะคะ) ถามหน่อยค่ะ

.. อยู่ในใจมาหลายเพลาแล้ว .. แบบไม่ชอบเก็บไว้ มันอึดอัดค่ะ

... เรื่องมีอยู่ว่า  ...

* ทำไม

.......................................................................

......................................................................

.....................................................................

ทำไมข้อความการเขียนคุณคติ มีประโยคยาว 3 ต่อด้วย

.......................

.......................

.......................

ประโยคสั้นๆ 3 เป็นเหมือนกันหมดทุกบันทึกค่ะ

... เป็นเอกลักษณ์อย่างนึงหรือเปล่าเอ่ยคะ

....

แล้วจะมาใหม่ ฝนตกอย่างหนักค่ะ กลัวเน็ตล่ม เฮอๆ

ขออนุญาตตอบคุณปูนะคะว่า ตามความเข้าใจมันมีอะไรซ่อนอยู่ ให้ลองกด A ตัวใหญ่มุมขวาบนสุดของจอดู จะอ่านได้สามแบบ แบบแรกอ่านรวมหมด แบบสองอ่านเฉพาะตัวหนา แบบสามอ่านเฉพาะตัวบาง เขาเรียกว่าเขียนแบบเทพ

สวัสดีครับ คุณ Poo

วิธีการเขียน

โดยเขียนประโยคสั้นสามบรรทัด แล้วต่อด้วยประโยคยาว หรือมีประโยคสั้นคั่นประโยคยาว ด้วยเหตุผลข้อเดียวจริงจริงครับ คือ ผมมีเหตุผลว่า การอ่านงานเขียนในบล็อค หรือตามหน้าจอคอมพิวเตอร์ มักทำให้คนอ่านไม่ค่อยมีสมาธิ

อาจเป็นเหตุผล

ในเรื่องข้อจำกัดของจอภาพ หรือ ความไม่คุ้นชิน เพราะผมเองก็ไม่ค่อยอ่าน การเขียนตัวอักษรขนาดยาว เต็มพรึดเหมือนการอ่านจากหน้ากระดาษ ไม่รู้เป็นเช่นไร เพราะการอ่านจากหน้าจอมอนิเตอร์ ไม่เหมือนการอ่านจากหน้ากระดาษ ผมเลยมีความคิดว่า ถ้าจะเขียนบล็อค ต้องสรุปความ พยายามจัดประโยค และเน้นย้ำประเด็น

อาจจะดึงความสนใจ

หรืออาจจะเป็นการสร้างรูปแบบการสื่อสาร เพื่อให้คนอ่านได้เข้าใจง่าย อ่านจับใจความได้เร็ว และเน้นย้ำสิ่งที่ต้องการสื่อสารให้ได้ โดยการเขียนรูปแบบนี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าดีหรือไม่ดี เพราะเป็นการทดลองครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำถามที่ดีเช่นนี้

สวัสดีครับ คุณ Little Jazz

เขินอายอย่างยิ่งครับ

สำหรับคำกล่าว ที่อดจะสะดุ้งไม่ได้ ยังไม่ถึงขั้นที่กล่าวหรอกครับ ยังอยู่ในช่วงทดลอง และฝึกฝนงานเขียนครับ เพียงเป็นความพยายามและความตั้งใจ ที่อยากเขียนงาน และพยายามเขียนให้ออกมาดีที่สุด

ส่วนเรื่องการแอบซ่อน

หรือมีการซ่อนเร้นข้อความ ประการนี้ต้องขอยอมรับจริงจริงครับ ว่าเป็นหนึ่งในความพยายาม ของการฝึกฝนและการทดลองเขียนครับ ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร เพราะอยู่ในช่วงทดลอง และฝึกปรืองานเขียน คงต้องรอสักระยะครับ อาจจะได้ข้อสรุป

แต่อย่างไรก็ตาม

ต้องขอขอบคุณอย่างมากครับ สำหรับความคิดเห็น และการเยี่ยมเยือน ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท