อาขยาน (2)
การฝึกเด็กๆให้ท่องบทอาขยานเป็นการสร้างพื้นฐานในการแต่งคำประพันธ์…
ช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2540 - 2546 เคยกำหนดให้นักเรียนท่องอาขยานบทรอง ( บทที่ครูเลือกมาให้นักเรียนท่อง) คือ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน นักเรียนทุกคนท่องจำได้...แม้บางคนจะท่องได้ไม่หมดแต่พอเพื่อนขึ้นต้นให้ก็พอท่องตามเพื่อนๆ ไปได้
มาถึงภาคเรียนที่ 2 สอนเรื่องการแต่งคำประพันธ์ สังเกตเห็นว่านักเรียนที่ท่องบทอาขยานได้ขึ้นใจ สามารถแต่งคำประพันธ์ได้ดี ทั้งเสียงและความหมาย การใช้คำก็ไม่มีลักษณะกลอนพาไป เล่นสัมผัสได้ถูกต้องคล้องจองเหมาะสมเป็นส่วนใหญ่
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547-2549 ที่ไม่ได้กำหนดให้ท่องบทอาขยานอย่างเคร่งครัด การสอนแต่งคำประพันธ์ก็ยากขึ้น ผลงานนักเรียนไม่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
จึงนำประสบการณ์ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ มาส่งเสริมให้นักเรียนท่องบทอาขยานอย่างเคร่งครัดจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อมูลที่ชี้ชัดว่า การท่องอาขยานไม่ได้ทำให้เด็กเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่เป็นการปูพื้นฐานด้านการจำ...ที่ใช้เป็นพื้นฐานความรู้ ก้าวสู่การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการสร้างสรรค์จินตนาการด้วยสุนทรียภาพแห่งถ้อยคำ อันนำไปสู่การพัฒนาในการแต่งคำประพันธ์ได้ดี
เมื่อครั้งมีการสัมมนาเชิงปฎิบัติการเรื่อง “อาขยาน : รากร่วมแห่งวัฒนธรรม” ที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิทยากรที่เชี่ยวชาญด้านการอ่านอาขยาน ได้แสดงทรรศนะไว้อย่างหลากหลายเพื่อสื่อให้เห็นได้ว่า “บทอาขยาน คือ ความงามทั้งสุนทรียทางวรรณกรรม คีตกรรม และนาฏกรรม”
และในครั้งนั้น คุณปพิชญา พรหมกันธา ได้สรุปแนวคิดของวิทยากรด้วยบทร้อยกรองแสดงความรู้สึกที่มีต่อบทอาขยาน...ความสำคัญของบทอาขยานได้อย่างน่าประทับใจว่า
สดับโสตจดจำคำของปราชญ์ ยามประกาศอลังการสารภาษา
อาขยานฐานร่วมรวมปัญญา สุนทรียะคือค่าแห่งร้อยกรอง
เสรีภาพกาพย์กลอนถูกรอนสิทธิ์ อิสรภาพความคิดจะหม่นหมอง
ถ้าเราขาดรากร่วมรวมทำนอง วรรณศิลป์,ครรลอง,คือของใคร
เมื่อไม่อยากให้รากร่วมนั้นร่อยหรอ เราจะให้ใครหนอร่วมพิสมัย
“คันธคีรี”มีลั่นทมห่มฉันใด “อาขยาน”คือหัวใจแห่งกาพย์กลอน
สุนทรียภาพแห่งถ้อยคำจากบทอาขยานจะมีสีสันและจิตวิญญาณได้เพียงใดนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดกระบวนการเรียนรู้....เป็นสำคัญ
“เสนาะกรรณวันวาน เสนาะกานท์วันพรุ่ง คือจุดหมายมุ่ง ท่องอาขยาน ”
สวัสดีครับ
แวะมาอ่านต่อครับ
น่าจะได้มีการคัดบทกลอนดีๆ ให้เด็กได้อ่านได้ท่องกันเพิ่มเติม
นอกเหนือจากที่เคยเห็นในรุ่นก่อนๆ
ส่วนความเรียงร้อยแก้วดีๆ ก็น่าส่งเสริมเหมือนกันนะครับ
สมัยเรียน ผมยังเคยท่องศิลาจารึกหลักที่ 1 หน้า 1(พ่อขุนรามคำแหง)
ไม่เป็นกลอน แต่ก็ท่องได้สนุกดีด้วย
สวัสดีครับ
เข้ามาอ่านบทอาขยานครับ
ครูดอยอยากเขียนหรือแต่งอาขยานเป็นจังครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณนะค่ะที่นำเรื่องราวดี ๆ มาร่วมแบ่งปันค่ะ ขอแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คำสำคัญ คลิก เพื่อศึกษาเพิ่มเติมค่ะ
สวัสดีค่ะ...ธ.วัชชัย
***ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ
***นอกจากอาขยานบทหลักที่มีในบทเรียน...จะมีบทอาขยานบทรองที่ครูกำหนดให้และมีบทอาขยานอิสระที่นักเรียนเลือกมาท่องตามความสนใจค่ะ
***ความเรียงร้อยแก้วดีๆ...ก็ต้องสนับสนุนให้มากเพราะนักเรียนในปัจจุบันส่วนใหญ่ให้ความสนใจน้อยลงจริงๆ
สวัสดีค่ะ...ครูดอย
***เคยแนะนำนักเรียนที่อยากแต่งคำประพันธ์ให้เก่งด้วยการให้ฝึกอ่านคำประพันธ์ทุกประเภท...ทุกวัน.....เท่าที่มีโอกาสจะซึมซับจนแต่งได้เองค่ะ
สวัสดีค่ะ *-*( D.i.N.@ )"+"
ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ...การมีพันธมิตรที่ดีทำให้ได้ศึกษาเพิ่มเติม...การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นพลังและขุมทรัพย์ที่มีค่าอนันต์จริงๆนะคะ...ดิฉันดีใจทุกครั้งที่ได้รับคำแนะนำ "ผู้แนะนำเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ให้"อย่างแท้จริงค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์กิติยา
อาขยาน เป็นเรื่องที่ควรจัดการให้กับนักเรียนมากๆ ครูอ้อยให้นักเรียนท่องก่อนเรียน นอกจากนักเรียนจะไม่ลืมแล้ว ยังเป็นการทำสมาธิ ให้เกิดความพร้อมด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เขียนกลอนด้วยรู้สึกสัมผัสชัดผ่าน อาขยานอ่านด้วยหัวใจที่ใส่ฝัน
เรียบเรียงร้อยเรื่องราวก้าวให้ทัน แต้มเติมชั้นเชิงช่องครรลองชน
ครูปพิชญา พรหมกันธา
โรงเรียน วารีเชียงใหม่