ในตอนที่ 2 ผมได้บอกไว้ว่า ถ้าไม่รู้ที่ไปที่มาของอะไรก็แล้วแต่ที่เรากำลังดำเนินการอยู่มันทำให้ไม่ค่อยโล่งในความรู้สึก (อ่าน ตอนที่ 2) จึงขอเล่าในส่วนที่รู้ความเป็นมาของ การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA)
PMQA ย่อมาจาก Public Sector Management Quality Award ความหมายที่เป็นภาษาไทยก็หมายถึง รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ แต่ในการที่สำนักงาน ก.พ.ร. ได้นำมาดำเนินการกับส่วนราชการนั้นก็เพื่อ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ส่วนราชการต่าง ๆ นำไปใช้เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการให้เป็นหน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานสูง มีมาตรฐานการทำงานเทียบกับมาตรฐานสากล ซึ่งก็หมายถึงว่าไม่ได้หวังว่าให้หน่วยงานทำเพื่อรับรางวัล แต่ทำเพื่อตรวจความพกพร่อง เพื่อจะได้มีโอกาสในการปรับปรุงให้ดีขึ้น
ก่อนมาถึง PMQA ในประเทศไทยนั้น มีที่มาว่า ช่วง ทศวรรษ 1980 ประเทศสหรัฐสูญเสียความสามารถ ในการแข่งขันทางธุรกิจ อันเนื่องมาจากว่าประเทศอื่นที่เป็นคู่แข่งเขามีการพัฒนาปรับปรุงอยู่อย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ส่งสินค้าเข้าไปในสหรัฐ ถือว่าเป็นการตีตลาดในประเทศไปเลย สหรัฐคงเห็นท่าไม่ดี ปี ค.ศ.1987 ได้ริเริ่มสร้างเกณฑ์คุณภาพขึ้น เพื่อที่ให้องค์กรในประเทศได้เกิดการบริหารจัดการที่ดี โดยใช้ชื่อว่า Malcolm Baldrige National Quality Award (MBNQA) กรอบแนวคิดต่าง ๆ มาจากการระดมสมองจากผู้บริหารและนักวิชาการระดับแนวหน้าของประเทศ และในที่สุดเกณฑ์นี้ก็เป็นแนวทางการปรับปรุงการบริหารขนานใหญ่ในสหรัฐ และในที่สุดเขาก็ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในตลาดโลกในเวลาไม่นาน
จนมาถึงปัจจุบัน เกณฑ์คุณภาพ MBNQA ได้รับการยิมรับว่าเป็นแนวทางในการบริหารองค์กรที่มีประสิทธิผลที่สุด ความยอดเยี่ยมคือสามารถปรับใช้กับองค์องค์ทุกประเภท
ประเทศไทยก็ได้สร้างเกณฑ์คุณภาพขึ้น พื้นฐานทางด้านเทคนิคและกระบวนการเช่นเดียวกับรางวัลคุณภาพแห่งชาติประเทศสหรัฐ โดยมุ่งหวังว่าให้องค์กรธุรกิจปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อส่งมอบคุณค่าที่ลูกค้าต้องการ
และก็มาถึงส่วนราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการจัดทำเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐขึ้น เพื่อให้ส่วนราชการได้นำไปใช้ ในการยกระดับ ส่วนใหญ่ก็เพื่อสร้างโอกาสในการปรับปรุงยังไม่ถึงการประกวดรับรางวัล
มีโมเด็ลที่เป็นเครื่องมือหลายโมเด็ลที่ได้ศึกษาเรียนรู้แล้ว ทำให้เป็นเครื่องช่วยคิดช่วยกระตุ้นให้เกิดภาพในการพัฒนาหลาย ๆ ด้านเกิดขึ้น คือศึกษาแล้วสอนให้เราสามารถคิดอะไรได้อย่างเป็นระบบไม่ล่องลอย สามารถนำไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันก็ได้ ทำให้มองเห็นว่าทุกอย่างมีองค์ประกอบของมัน และทุกส่วนที่เป็นองค์ประกอบหรือโครงสร้างนั้นต้องแข็งแรง โดยองค์รวมจึงจะแข็งแรงได้ PMQA เป็นเสมือนเครื่องมือแพทย์ที่ตรวจวินิจฉัยร่างกายขององค์กร ว่าอวัยวะส่วนใดที่ไม่แข็งแรงก็ทำแผนเพื่อปรับปรุงสุขภาพซะ แล้วก็ดำเนินการปรับปรุง ในขณะที่ปรับปรุงก็ไม่ประมาทประเมินการปรับปรุงนั้นอยู่ตลอดว่ากระบวนการที่ปรับปรุงนั้นดีแล้วยังถ้ายังก็ปรับปรุงกระบวนการใหม่ เพื่อให้ดีขึ้น
ขอบคุณน้องตุกที่มาเยี่ยมและแลกเปลี่ยน อยากให้แลกเปลี่ยนบรรยากาศการดำเนินการของยะลาบ้าง