สภาพของเด็กเร่ร่อนไม่เปลี่ยนแปลง ยังควมีเด็กเร่ร่อน อยู่หลายจุดในจังหวัดขอนแก่น ดูเหมือนหน่วยราชการก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร ครั้นมาไปบำบัดที่สถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด (ด้านข้างค่ายสีหราชเดโชชัย ค่าย ร8)เด็กที่ออกมาก็มาเร่ร่อนต่อ พาไปฝึกอาชีพก็หนีออกมา มาอยู่ที่เดิม ไม่ บขส.รถแดง ก็ที่คิวรถปรับอากาศ สวนรัชดานุสรณ์ (หลัง บขส รถแดง)ริมบึงแก่นนคร ตามตลาดสดหลังตลาดวายแล้ว ตลาดโต้รุ่ง หน่วยงานต่างๆ หาทางออกไม่พบ แม้องค์กรเอกชนที่ว่าแน่ก็ต้องยอม หลังจากที่พาเด็กไปอยู่ด้วยหลายคน ใครไม่ชอบก็หนีออกมา เอาน้ำเย็นเข้าลูบ สารพัดวิธี ต้องไม่ลืมว่าเด็กเหล่านี้บางคนครอบครัวแตกแยก มีพ่อเลี้ยงทำร้าย แม่เมาตลอดปี ทะเลาะกันตบตีกัน ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน ใครก็ตามที่เดินเข้าไปหาเด็ก หลายคนสงสารอยากเอาไปเลี้ยง เอาไปอยู่ด้วย เด็กจะวิ่งหนีสุดชีวิต คิดว่าเค้าคงรักเสรีภาพ ที่ไม่ต้องการให้ใครมาพันธนาการเขา องค์กรเอกชนแห่งหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ไปสอนหนังสือ พามาอยู่ด้วย จาก 10 เหลือ 5 เหลือ 4 ที่อยู่ได้เพราะรักพ่อ รักแม่ ผู้ประสานงานมูลนิธิฯ จำนวนหนึ่งได้เรียนหนังสือ จบ ม6 มา(เรียนศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน) จะไปหางานทำ ไม่มีใครกล้าคำประกันทั้งความเสียหายและความประพฤติ ต้องใช้ข้าราชการระดับ 7 ขึ้น โรงงาน บริษัทถึงจะยอมให้ทำงาน เวลาไปทำงาน หากเด็กเคยมีนิสัยลักขโมย เด็กจะทำและจะโดนไล่ออก ทีนี้ก็ไม่มีใครกล้าคำประกันเขาอีก ชีวิตของเด็กเหล่านี้ทางออก น่าจะให้เขาได้ค้าขาย น่าจะเหมาะกว่าทำงานโรงงาน บริษัท ต้องให้ความใกล้ชิดและดูแลในระยะต้นๆอย่างจริงจัง ที่เล่ามาเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย แต่เขาคือชีวิต เยาวชนของเราที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต หลายหน่วยงานต้องประสานกัน ไม่มีใครเก่งหรอก ต้องสานกันทุกด้าน สร้างอนาคตเด็กเฟหล่านี้ต้องอดทน อยากสะท้อนว่าตราบใดก็ตามที่คนยากคนจนยังมีอยู่มากมาย สภาพชีวิตไม่ดีขึ้น เด็กเร่ร่อนจะมีมากขึ้นเพราะฐานของครอบครัวเขาไม่แข็งแรง ต้องช่วยกันแกปัญหานี้ เพราะนี้จะกลายเป็นปัญหาสังคมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ไม่มีความเห็น