กิจกรรม Shop Share &
Learn
เป็นธรรมเนียมของชาวจิระศาสตร์วิทยา เมื่อมีอาคันตุกะมาศึกษา-ดูงาน
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้
คณะผู้บริหารและตัวแทนครูอาจารย์ที่ว่างจะมาดูแลต้อนรับ
อำนวยความสะดวก เริ่มต้นด้วยการแนะนำคณะบุคลากรหลักๆ
อาคาร-สถานที่และนำเสนอวีดิทัศน์แนะนำโรงเรียนโดยภาพรวม ใช้เวลาประมาณ
๑๕-๒๐ นาที โดยใช้สถานที่ห้องประชุมอาคาร ๙
ต่อจากนั้นทีมงานของโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา
ที่มาต้อนรับได้นำคณะผู้มาศึกษา-ดูงานไปเยี่ยมชมกิจกรรมการเรียนการสอน
(ระยะนี้นักเรียนกำลังสอบปลายภาคเรียน)
ชมห้องเรียน-ห้องประกอบต่างๆตลอดจนสนทนาสอบถามพูดคุยกับครูอาจารย์และพนักงานของโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยาที่ปฏิบัติงานตามพื้นที่ต่างๆในโรงเรียน
ใช้เวลาประมาณ ๒๐-๓๐ นาที
เสร็จจากการเดินเยี่ยมชมตามพื้นที่แล้ว คณะผ้มาศึกษา-ดูงาน
ได้ไปรับประทานอาหารว่าง (น้ำชา กาแฟ โอวัลตินและทานขนมไทยๆ
จำพวกขนมกล้วย ขนมฟักทอง ฯลฯ
ซึ่งโรงเรียนจัดเตรียมไว้ที่หอประชุมจิระวิทยาคาร อาคาร
๕) ระหว่างที่รับประทานอาหารว่าง ดร.สุทธาทิพ ไชยรัตนะ และ
ดร.ปฐมพงศ์ ศุภเลิศ รองผู้อำนวยการโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา
ได้แนะนำให้ผู้มาศึกษา-ดูงาน
รับทราบแนวทางการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับตัวแทนครูโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา
ซึ่งได้นำนิทรรศการผลงานการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดจนนำเสนอตัวอย่างแฟ้มเอกสาร
ผลงานของฝ่ายต่างๆ
เมื่อรับประทานอาหารว่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผอ.จิระพันธุ์ พิมพ์พันธุ์
ได้เกริ่นนำเล่าเรื่องการบริหารจัดการในโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา
ในลักษณะการกระจายอำนาจจากผู้บริหารระดับสูงไปสู่คณะครูและบุคลากรในโรงเรียน
รูปแบบคณะกรรมการชุดต่างๆ
ซึ่งได้มาจากกระบวนการสรรหาและการเลือกตั้งตัวแทนจากครูและบุคลากรในโรงเรียน
อาทิ คณะกรรมการสภาครู คณะกรรมการสายชั้น
คณะกรรมการกลุ่มสัมพันธ์เอื้ออาทร STAR: Small Team Activity
Relationship คณะกรรมการฝ่ายวิชาการ กิจการนักเรียน
บุคลากร อาคาร-สถานที่ ธุรการ-การเงิน
และฝ่ายความสัมพันธ์กับชุมชน เป็นต้น
ภายหลังจากแนะนำบทบาทอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ผู้อำนวยการโรงเรียน
ได้ให้ตัวแทนฝ่ายต่างๆเล่าประสบการณ์การจัดกิจกรรม/โครงการต่างๆในฝ่ายของตนเอง
โดยมีผู้แทนนำเสนอเรื่องราว ดังต่อไปนี้
๑)
อาจารย์ชรินทร์ เดือนแจ่ม กรรมการฝ่ายกิจการนักเรียน
เล่าเรื่อง "การจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน"
โดยทางโรงเรียนได้ขอความร่วมมือจากครูประจำชั้นรับผิดชอบร่วมกับครูพิเศษ
ทำหน้าที่ติดตาม ดูแลช่วยเหลือ
แนะนำนักเรียนในเรื่องการเรียนและการประพฤติปฏิบัติตนให้ถูกต้อง
นอกจากนั้นยังอาศัยกลไกของสภานักเรียน และสโมสรอินเตอร์แรคท์
(Interact Club)
ช่วยกำกับดูแลอีกทางหนึ่งด้วยทำให้โอกาสที่นักเรียนจะประพฤติปฏิบัติตนไม่ถูกไม่ควรน้อยลงหรือไม่มีโอกาสเลย
๒)
อาจารย์สมควร พรอยู่ศรี
กรรมการฝ่ายกิจการนักเรียนและผู้ช่วยฯฝ่ายแผน เล่าเรื่อง
"กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน"
โรงเรียนได้สนับสนุนส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมชมรม
ชุมนุมต่างๆตามความถนัด ความสนใจของแต่ละบุคคล
จัดให้มีกิจกรรมเวทีศักยภาพ
(แสดงความสามารถทางด้านดนตรีและศิลปการแสดง)
ดังจะเห็นได้ว่าพระเอก-นางเอกลิเก "ศรราม-น้ำเพชร"
ก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาระเบียบวินัยและคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน
๓)
อาจารย์ฉวีวรรณ ปุยสุวรรณ กรรมการฝ่ายบุคลากร เล่าเรื่อง
"การพัฒนาบุคลากร"
โรงเรียนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร
เชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพด้านความรู้
ความสามารถที่ไม่เหมือนกัน และทุกคนสามารถพัฒนาได้ทั้งครู คนงาน
และคนขับรถ ดังนั้นนับตั้งแต่กระบวนการสรรหา พัฒนา
และการบำรุงรักษาให้บุคลากรมีขวัญกำลังใจในการทำงาน
เป็นกระบวนการที่ฝ่ายบุคลากรได้เข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบร่วมกับฝ่ายบริหาร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาบุคลากรกิจกรรมสำคัญๆที่จัดได้ผลดี
เช่น กิจกรรมการเข้าค่ายคุณธรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต,
กิจกรรมมิตรภาพ-อวยพรวันเกิด, กิจกรรมครอบครัวสัมพันธ์,
กิจกรรมการแข่งขันกีฬาบุคลากร, กิจกรรมกีฬานันทนาการ (Fit & Firm)
ฯลฯ
๔)
อาจารย์ธนภรณ์ จันทร์ประเสริฐ และอาจารย์ปราณี
ประวาลพฤกษ์ กรรมการฝ่ายวิชาการ ได้เล่าเรื่อง "แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผล
ระดับปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน"
ทั้งนี้ได้เน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้โมเดลจิระศาสตร์
(Jirasart Teaching's Model)
เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ลักษณะบูรณาการจากประสบการณ์ตรงทั้งในและนอกห้องเรียน
มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง
และเน้นการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนผ่านกิจกรรมการพัฒนาผู้เรียนอย่างหลากหลาย
พร้อมทั้งมีระบบการรายงาน"พัฒนาการ/ความพร้อมของผู้เรียน"ให้ผู้ปกครองทราบความก้าวหน้าหรือปัญหาอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง
นำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาผู้เรียนระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองอย่างดียิ่ง
สะท้อนองค์ความรู้นำไปสู่การประยุกต์ใช้ (
AAR:After Action Review)
ภายหลังจากคณะครู
(คุณกิจตัวจริง) ได้เล่าประสบการณ์ของฝ่ายต่างๆแล้ว
คณะผู้มาศึกษา-ดูงาน ซึ่งประกอบด้วยครูอนุบาล และ ป.๑-๖
ได้แยกย้ายเข้ากลุ่มย่อยเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในลักษณะเจาะลึกลงถึงแก่น
ตามความสนใจของแต่ละคน โดยมีคณะครูของโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา
ทำหน้าที่เป็นคุณอำนวยและคุณกิจ ส่วนคุณลิขิตต่างคนต่างจดกันเอง
ตอนท้ายสุดของการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้
อาจารย์เสรี
ปาลเดชพงศ์
ผู้อำนวยการโรงเรียนเลิศหล้า ได้กล่าวว่า "โรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา เปรียบเสมือนตลาดวิชา"
ซึ่งโรงเรียนต่างๆสามารถเข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์
ความรู้ได้อย่างหลากหลาย อันเนื่องมาจากความใจกว้าง เปิดใจ
ให้ข้อมูลความรู้ ความคิดเห็นอย่างจริงใจของท่านผู้อำนวยการจิระพันธุ์
พิมพ์พันธุ์ และคณะผู้บริหาร รวมทั้งคุณครู
อาจารย์ของโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยาทุกท่าน
สำหรับประสบการณ์
ความรู้ที่ได้รับในวันนี้จะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนเลิศหล้า
ทั้ง ๓ โรงเรียน (ถนนเพชรเกษม, ถนนนวมินทร์ และถนนกาญจนาภิเษก)
ดังต่อไปนี้
๑)
การกระจายอำนาจ (Decentralization)
ของผู้บริหาร
ให้ครูและบุคลากรมีส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ
๒)
การสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของโรงเรียนร่วมกัน (Sense of
belonging) ทั้งครู คนงาน และคนขับรถมีความรัก
ความสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและช่วยกันพัฒนาโรงเรียน
๓)
การพัฒนาบุคลากร (Personnel
Development)
โดยการเปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรได้เข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนา
ศึกษา-ดูงาน และศึกษาต่อ
พร้อมทั้งสนับสนุนส่งเสริมให้บุคลากรแสดงความรู้ความสามารถตามความถนัดความสนใจ
๔)
การใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์และคุ้มค่า (Utility
of
Resources) เห็นได้ชัดเจนว่าโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยามีเนื้อที่ค่อนข้างจำกัดแต่ทุกพื้นที่ได้ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ใช้สอย
สามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และเป็น "ครูที่พูดไม่ได้"
ก่อนจากลากันในวันนี้ ได้มีลิเก "ศรราม-น้ำเพชร" สองพระเอก-นางเอกลิเกชื่อดัง มาร้องลิเกออดอ้อนผู้ฟัง และเวลา ๑๒.๓๐ น.คณะผู้มาศึกษา-ดูงานจึงได้เดินทางกลับ
ปฐมพงศ์ ศุภเลิศ
๖ มี.ค.๔๙