... คนไทยพอพูดถึงเรื่อง "ไข่" กับ "นม" แล้ว ดูเหมือนจะแบ่งเป็นพรรค เป็นฝัก เป็นฝ่าย ซีกหนึ่งชอบไข่ อีกซีกหนึ่งชอบนม รบกันทางความคิด... วันนี้มีข่าวดีมาฝากพวกเราที่เดินทางสายกลางเรื่องไข่ครับ ท่านอาจารย์ดอกเตอร์ลุค ดจุสส์ และดอกเตอร์ เจ. ไมเคิล กาซีอาโน และคณะ แห่งโรงพยาบาลบริแกน แอนด์ วีเมนส์ และวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ ทำการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างคุณหมอผู้ชาย 21,327 คน (Physicians' Health Study) เริ่มจากปี 1981 (พ.ศ. 2524) ติดตามไปนานกว่า 20 ปี ... ผลการศึกษาพบว่า คุณหมอผู้ชายที่ชอบกินไข่กับไม่ชอบกินไข่มีอายุยืนไม่เท่ากัน ขั้นแรกให้แบ่งก่อนว่า เป็นเบาหวานหรือไม่ หลังจากนั้นค่อยว่ากันว่า กินไข่สัปดาห์ละกี่ฟอง คุณหมอผู้ชายที่เป็นเบาหวานนั้น... ถ้ากินไข่ ไม่ว่าจะสัปดาห์ละกี่ฟองจะมีโอกาสตายจากโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันกำเริบ (heart attack) และเส้นเลือดสมองแตก-ตีบตันรวมกันเป็น 2 เท่า ... คุณหมอผู้ชายที่ไม่เป็นเบาหวานนั้น... ถ้ากินไข่ ไม่เกินสัปดาห์ละ 6 ฟอง ไม่พบว่า มีโอกาสตาย (จากโรคข้างต้น) เพิ่มขึ้น ทว่า... ถ้ากินไข่สัปดาห์ละ 7 ฟองขึ้นไปพบว่า โอกาสตายจากโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันกำเริบ (heart attack) และเส้นเลือดสมองแตก-ตีบตันรวมกันเพิ่มขึ้น 23% ... สรุปว่า โอกาสเสี่ยงตายจากโรคหัวใจอุดตันกำเริบ และเส้นเลือดสมองแตก-ตีบตันดังตาราง
... เมื่อวิเคราะห์เจาะลึกลงไปพบว่า คุณหมอผู้ชายที่กินไข่มากที่สุดมีลักษณะเฉพาะ (เมื่อเทียบกับคุณหมอที่กินไข่น้อยกว่า หรือไม่กินไข่) ดังต่อไปนี้
... กลุ่มคุณหมอที่ชอบกินไข่มากที่สุดมีจุดอ่อนที่อายุมากกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ว่า คุณหมอสหรัฐฯ รุ่นหลังๆ จะกินไข่น้อยลง เนื่องจากกลัวโคเลสเตอรอลในไข่แดง (ไข่ขาวไม่มีโคเลสเตอรอล) นอกจากนั้นยังมีจุดอ่อนที่อ้วนมากกว่า กินเหล้ามากกว่า สูบบุหรี่มากกว่า ออกกำลังน้อยกว่า กินอาหารเช้าที่เป็นธัญพืชน้อยกว่า... มีดีอย่างเดียวคือ กินผักมากกว่า ... การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า อาหารเช้าที่ทำจากธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท(เติมรำ) อาหารเช้าทำจากรำ ฯลฯ เป็นอาหารเช้ากลุ่มที่ต่อต้านโรคอ้วนได้ดีมากเป็นพิเศษ คนที่ไม่กินอาหารเช้ามีแนวโน้มจะเสี่ยงอ้วนมากขึ้น คนที่กินเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบ "ดื่มหนัก" เสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันเลือดสูง และเส้นเลือดสมองแตกเพิ่มขึ้น ... ท่านอาจารย์ดอกเตอร์รอเบิร์ท เอคเคล แห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐฯ อดีตประธานสมาคมโรคหัวใจสหรัฐฯ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ไข่ดีหรือไม่ดี... ไข่เป็นอาหารชั้นดี ทว่า... ไข่มีโคเลสเตอรอล การยึดหลัก "สายกลาง" หรือความพอดีมีความสำคัญในการกินอาหารทุกชนิด ... ผู้เขียนมีประสบการณ์เห็นชาวเอเชียใต้ ซึ่งอาจเป็นชาวอินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน หรือบังคลาเทศท่านหนึ่งสั่งไข่ดาวเป็นอาหารเช้า ท่านสั่ง "ไข่แดงหนึ่ง-ไข่ขาวสอง" ซึ่งฟังดูเข้าท่ามากๆ เพราะคนเราไม่ควรกินไข่แดงเกินวันละ 1 ฟอง ไข่แดงมีโคเลสเตอรอลประมาณ 225 มิลลิกรัมจากขีดจำกัด 300 มิลลิกรัมใน 1 วัน ... เรียนเสนอให้พวกเรายึดหลัก "สายกลาง" ในเรื่องการใช้ชีวิตให้มาก โดยเฉพาะไข่นี่... ถ้าเป็นไปได้ เรียนเสนอให้กินไข่แดงไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟองไว้ก่อน เพราะเราอาจจะมีโรคไขมันในเลือด หรือโคเลสเตอรอลสูงโดยไม่รู้ตัวได้ แถมคนอีกหลายคนอาจจะมีเบาหวาน หรือภาวะใกล้เป็นเบาหวานโดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน ส่วนนมนั้น... ถ้าอายุเกิน 2 ปีแล้ว ควรเลือกชนิดไขมันต่ำ หรือไม่มีไขมันไว้ก่อนน่าจะดี เนื่องจากนมเต็มส่วนมีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างมาก (ประมาณ 23-25% ต่อ 200 มิลลิลิตร) ... ถ้าวันไหนกินไข่แดง หรือกินนมไขมันเต็มส่วน... ควรลดอาหารมันๆ อาหารทอด และเนื้อสัตว์ให้น้อยลง กินผัก ถั่ว ผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัย ถ้ากินไข่ขาวซึ่งไม่มีโคเลสเตอรอล หรือนมไม่มีไขมัน... สบายใจได้เลย ทว่า... ถ้าเลือกได้ ควรเลือกนมที่เสริมวิตามิน D เพราะจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมได้มากทีเดียว ... ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ...
ที่มา
|
ขอบพระคุณคุณหมอวัลลภ ที่นำเสนอเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ ครับ
หมอสุข
กลูโคลนิโอเจเนสิส คืออะไรค่ะ
วันสงกรานต์ ชวนให้ สำราญจิต
ชวนลิขิต ให้มวลมิตร คิดสร้างสรรค์
สงกรานต์นี้ ชวนทำดี ดีทุกวัน
ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมกันสร้าง พลังใจ
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ
ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอสุข...
คนเรานี่แปลกมากๆ ครับ...
ส่วนน้ำตาล...
คนไข้เบาหวาน...
ขอขอบคุณ... คุณ apple n angle
กลูโคนีโอเจเนซิส
ขอขอบคุณอาจารย์หมอเจ๊...