ในยุคที่ข้าวสาร กับ ทอง ราคาใกล้เคียงกันแบบนี้ เราคงต้องทบทวนตัวเองดูอย่างจริงจังแล้วหล่ะว่า มีอะไรที่จะประหยัดได้บ้าง ดูเหมือนว่า ความประหยัดที่เราปฏิบัติอย่างคุ้นเคยมาตลอด ก็ยังไม่พอซะแล้ว คงต้องเพิ่มขนาด "ความประหยัด" มากยิ่งขึ้น ด้วยการ "สำนึกถึงประโยชน์" ของสิ่งต่างๆ ที่จะซื้อ จะหา หรือจะทิ้ง ทำลาย ต้องคิดเพิ่มขึ้นว่า สมควรหรือยัง
ลองตรึกตรองดูว่า ทุกวินาที ทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน ทุกเดือน และทุกปี เราใช้ประโยชน์ทุกสิ่งอย่างคุ้มค่าแล้วหรือยัง
เคล็ดลับความ "ร่ำรวย" อยู่ที่ การรู้จักกิน รู้จักใช้ ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่เน้นประหยัดนะ เพราะว่าถ้าใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าแล้วละก็ขอรับรองเลยว่า "รวย" ชัวร์
เคล็ดลับความสำเร็จอยู่ที่ ใช้ "เวลา" ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ แล้วเราก็มีรางวัลให้ตัวเองเสมอ เวลาจะซื้อ หรือ จะทิ้งอะไรก็ขอให้ท่องคาถาว่า "มีประโยชน์อะไรบ้าง" ถ้าท่อง 3 จบ ประหยัด 15% ท่อง 5 จบ ประหยัด 30% ท่อง 7 จบ ประหยัด 50% ท่อง 9 จบ ประหยัด 100%
บอกไปก็คงไม่เข้าใจอยากรู้ต้องลองทำ แต่ไม่ต้องเร่งรีบนะ ค่อยๆทำ เป็นธรรมชาติ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ค่อยฝึกไป ยกตัวอย่างง่ายๆ ใกล้ตัว เช่น รับประทานบ่อยไป เยอะไป ก็สิ้นเปลืองเงิน เปลืองเวลา เปลืองพลังงาน ที่ต้องใช้ย่อย ขับถ่าย อึดอัด อีดอาด เสื้อผ้าก็ต้องปรับตามขนาดรูปร่างที่เปลี่ยนไป ต้องเสียเวลาไปลดน้ำหนัก เผลอบางคนเปลืองเงินไปกับค่ายา ค่าคอร์สลดความอ้วน เผลอๆ จะได้โรคภัยไข้เจ็บเสริมทัพอีกซะด้วย
เอาเป็นว่า พอดี เพียงพอ ก็จะ ร่ำรวย สวย และ สุขกาย สุขใจ ใช้ไปเถอะ กินไปเถอะ นอนไปเถอะ ถ้าจะเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ในยุคที่ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เริ่มแผลงฤทธิ์เนื่องจากได้รับความกดดันที่ถูก มนุษย์ ที่ไม่มี ธรรม เบียดเบียนมามากแล้ว จนกระทั่งเกิดวิกฤตต่างๆ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ล้วนแต่เกิดจากการใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าทั้งนั้น
ที่สำคัญคือ ควรทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งของตัวเอง และส่วนรวม ด้วยหล่ะ
สวัสดีคะ
บันทึกนี้ เขียนได้เตือนใจได้ดีทีเดียว การประหยัด รู้จักใช้ และพอเพียง จะช่วยเราได้ ในสถานการณ์เช่นนี้คะ
ดิฉันขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับตัวอักษรที่เขียนบันทึกคะ ลองอ่านที่บันทึก รูปแบบตัวอักษร เพิ่มเสน่ห์ชวนอ่าน นะคะ