กลิ่นปาก


กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ

กลิ่นปาก

กลิ่นปากหรือปากเหม็น หรือลมหายใจไม่สะอาด หากเกิดขึ้นกับใครก็ทำให้ขาดความมั่นใจ จะปรึกษาใครก็รู้สึกเป็นสิ่งน่าอาย บทความนี้อาจจะช่วยให้ท่านลดกลิ่นปาก ตำแหน่งที่เกิดกลิ่นปากมากที่สุดคือลิ้นเนื่องจากผิวลิ้นหยาบ ดังนั้นหากเกิดกลิ่นปากลองทำความสะอาดลิ้นก่อนเป็นอันดับแรก

กลไกการเกิดกลิ่นปาก

  • เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในปากตายทำให้เกิดสาร sulfur ออกมาจึงเกิดกลิ่น
  • แบคทีเรียสลายอาหารที่อยู่ในปาก
  • น้ำลายลดลงทำให้เชื้อแบคทีเรีย หรืออาหารไม่ถูกชะล้าง

สาเหตุ

  • การไม่ดื่มน้ำหรือไม่รับประทานอาหาร ทำให้แบคทีเรียไม่ถูกชะล้างจึงเกิดกลิ่นปาก
  • โรคฟัน เช่นฟันผุ สุขลักษณะช่องปากไม่ดี มีการขังของเศษอาหารในช่องปาก
  • กลิ่นจากอาหารที่รับประทานเข้าไป เช่นกาแฟ สุรา หอมใหญ่ กระเทียม พริก บุหรี่
  • หายใจทางปากเนื่องจากเป็นหวัด
  • โรคระบบทางเดินหายใจ เช่นผีในปอด ไซนัสอักเสบ คออักเสบ เป็นต้น
  • โรคบางชนิดเช่น โรคไต โรคตับ

การทดสอบกลิ่นปาก

ล้างข้อมือด้วยสบู่ให้สะอาดแล้วล้างน้ำจนสะอาด ใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง เลีย 4 ครั้งหลังจากนั้น 30 นาทีให้ดมว่ามีกลิ่นหรือไม่

การดูแลรักษา

  • ให้รับประทานอาหารครบ 3 มื้อทุกวัน
  • ให้ดื่มน้ำมะนาวซึ่งจะเพิ่มปริมาณน้ำลาย
  • ให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
  • เคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอมระหว่างมืออาหาร
  • แปรงฟันหลังอาหารทุกครั้ง และให้แปรงลิ้น
  • ใช้ Dental flossing
  • หากแปรงเสียให้เปลี่ยนแปรง

ถ้าอาการไม่ดีภายหลังจากได้ปฏิบัติแล้ว 10 วันให้ปรึกษาทันต์แพทย์ หรือแพทย์ของท่าน

กลิ่นปากในเด็ก

ท่านผู้ปกครองหากเด็กมีกลิ่นปากไม่หาย ท่านไม่ต้องกังวลว่าจะเด็กจะมีโรคเหมือนผู้ใหญ่ เช่น โรคที่ศีรษะ คอ และกระเพาะอาหารเพราะว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของกลิ่นปากเกิดจากในปาก สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่

  • สุขอนามัยไม่ดี มีเศษอาหารและเชื้อแบคทีเรียเหลือตามซอกฟัน เด็กมักจะมีกลิ่นมากมากในตอนเช้า หากเป็นมากจะมีตอนสาย
  • ฟันผุ บางรายเด็กไม่มีอาการปวดฟันแต่มีฟันผุ
  • ไซนัสอักเสบทั้งเฉียบพลันและเรื้อรังสามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้ นอกจากกลิ่นปากเด็กโดยมากจะเกิดอาการ น้ำมูกไหล ไอกลางคืน
  • คออักเสบ เด็กจะมีไข้เจ็บคอ และมีกลิ่นปาก
  • ภูมิแพ้ทำให้มีเสมหะไหลไปที่คอทำให้เกิดกลิ่นปาก

คำแนะนำ

1 อย่าทำให้เด็กขาดความมั่นใจ ควรใช้โอกาสนี้สอนเด็กแปรงฟัน และล้างปาก

2 เลือกแปรงที่มีขนาดเหมาะกับปากและมีขนอ่อนนุ่มพอควรพร้อมยาสีฟัน ยาสีฟันควรมีสาร fluoride

3 ควรแปรงฟันพร้อมเด็ก ให้เด็กแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง

4 สอนเด็กใช้ Dental flossing

5 หากเห็นเศษอาหารติดที่คอก็ให้เด็กกรวกคอบ้วนปาก

6 ให้ตรวจฟันทุกปี

มีกลิ่นปากไม่ใช่หรือตลกนะครับรักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 175728เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2008 16:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

    สวัสดีค่ะ นักแสวงหา

  • แวะมาทักทาย และเป็นกำลังใจให้ค่ะ
  • การทดสอบกลิ่นปากด้วยวิธีที่บอกไว้ในบันทึก แปลกดีนะคะ ยังไม่เคยทดสอบด้วยวิธีนี้เลย เห็นทีต้องลองซะแล้ว ฮิๆ
  • แปรงลิ้นด้วยหลังแปรงฟันก็ทราบมานะคะ แต่เวลาแปรงทีไรรู้สึกจักจี้ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ เลยเลิกแปรงซะเลย
  • ขอบคุณค่ะสำหรับสาระดีๆ  ที่นำมาฝาก 

P   ยินดีครับที่อาจารย์เข้ามาเยี่ยมเยือนกัน

         ผมคิดว่าอาจารย์ต้องฝืนทำนะครับ  นานๆไปก็จะชินเอง

         แล้วผมจะนำเรื่องราวดีๆ มีสาระมาฝากอีกนะครับ

         อย่าลืมเข้ามาอ่านนะครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท