เจ้าชายน้อย
Le Petit Prince
วรรณกรรมเรื่องเจ้าชายน้อย นับเนื่องอยู่ในวรรณกรรมประเภทนิทานสำหรับเด็ก และสำหรับผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน งานประพันธ์ที่นำเสนอในท่วงทำนองผสมผสานระหว่างกวีนิพนธ์ และงานแฟนตาซีโดยอิงสารัตถะแห่งวัฒนธรรมตะวันตก เนื้อหาง่าย ๆ แต่แพรวพราวด้วยความคิดฝัน จะนำพาผู้อ่านไปเผชิญกับปัญหาไร้พรหมแดนอันได้แก่การเลือกทางเดินในชีวิต (คริสติอ็อง เดอปิแอร์ ผู้ช่วยที่ปรึกษาฝ่ายความร่วมมือด้านภาษาฝรั่งเศส สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสระจำประเทศไทย)
เจ้าชายน้อยเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงของแซงเตก–ซูเปรี ผลงานชิ้นนี้รับการแปลถึง 130 ภาษาเผยแพร่ไปทั่วโลก จำนวนพิมพ์รวมกันกว่า 50 ล้านเล่ม จัดเป็นวรรณกรรมคลาสสิกของโลกอีกเล่มหนึ่ง
เนื้อหาของเจ้าชายน้อยเป็นหนังสือพร้อมภาพประกอบฝีมือผู้เขียน เนื้อหาแพรวพราวไปด้วยความคิดฝัน เจ้าชายน้อยมาจากดวงดาวที่ บี 612 เด็กน้อยผู้มีดวงหน้าที่อ่อนโยนบริสุทธิ์ ยิ้มเศร้า ๆ มีผ้าพันคอปลิวไสวตามสายลม ยืนโดดเดี่ยวกระจ้อยร่อยท่ามกลางท้องฟ้าอันเวิ้งว้างกว้างไกล และกล่าวกันว่านักบินซึ่งพบเจ้าชายน้อย ก็คือตัวแซงเตก–ซูเปรีนั้นเอง เพราะแซงเตก- ซูเปรีคือหัวหน้าหน่วยประจำสถานีบินที่กาปจูนบีในแอฟริกา งานของเขานอกจากหน้าที่ส่งวิทยุติดต่อกับศูนย์หน่วยงานแล้ว หน้าที่ที่สำคัญคือ คอยช่วยเหลือออกค้นหานักบินที่ประสบอุบัติเหตุ เพราะสมัยนั้นเป็นระยะเริ่มบุกเบิกด้านการบิน ซึ่งทำให้เขาต้องเป็นทั้งช่างซ่อมเครื่องบินและแพทย์ไปในขณะเดียวกัน
ความเป็นนักบินของแซงเตก–ซูเปรี ยังปรากฏอยู่ในบทที่1 และที่ 2 ของหนังสือ เช่น พวกผู้ใหญ่แนะนำว่าฉันควรจะเลิกยุ่งกับการวาดภาพงูเหลือมชนิดที่เห็นด้านนอกหรือด้านในเสีย และหันมาสนใจเล่าเรียนวิชาภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ และไวยากรณ์แทน ฉันจึงละทิ้งอาชีพวาดรูปจิตรกรอันสูงส่งนี้เสียตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ดังนั้นฉันจึงได้อาชีพใหม่ ฉันหัดขับเครื่องบิน ฉันบินไปเกือบทั่วโลก ฉันดำรงชีวิตอย่างเดียวดาย ไร้คนสนทนากันอย่างเข้าอกเข้าใจอย่างแท้จริง กระทั่งเมื่อ 6 ปีมานี้ เครื่องบินของฉันเสียอยู่กลางทะเลทรายซาฮารา มีอะไรบางอย่างในเครื่องยนต์ขัดข้อง..........ฉันจึงต้องซ่อมด้วยตนเองอยู่คนเดียว.........................จวบจนรุ่งสางก็มีเสียงเล็ก ๆ ปลุกขึ้น และนั่นได้ทำให้(ฉัน)ได้พบกับเจ้าชายน้อย
เจ้าชายน้อยที่ยอมละจากดอกไม้และโลกของเขามา เพื่อแสวงหาความจริงแห่งชีวิต มารยาของดอกไม้เพียงดอกเดียว ทำให้เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก ต้องเร่ร่อนไปพบคนประเภทต่าง ๆ มีทั้งพระราชา ชายขี้เมา นักธุรกิจ คนจุดโคม นักภูมิศาสตร์ แต่ละคนล้วนหมกมุ่นอยู่กับงานหรือความคิดของตนเพื่อหนีสภาพความเป็นจริงซึ่งตนเองไม่ยอมรับ ต่อเมื่อเจ้าชายน้อยพบสุนัขจิ้งจอกในทะเลทราย จึงได้ตระหนักว่าความจริงแห่งชีวิต คือชีวิตต้องการความรัก และความรักเป็นเรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องของความรู้สึกรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวรักนั่นเอง ก็คงเป็นคำตอบได้ถึงความรักความซื่อตรงต่อดอกไม้ของเจ้าชายน้อย และทำให้เจ้าชายน้อยได้เดินทางกลับไปหาดอกไม้ของเขา ณ ดวงดาวที่เขาเคยจากมา
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลถึง 130 ภาษา พิมพ์ไปเป็นจำนวน 50 ล้านเล่ม การถ่ายทอดเรื่องราวจากต้นฉบับน่าประทับใจมากมาย และการถ่ายทอดเป็นภาษาไทยก็งดงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เป็นวรรณกรรมเยาวชน และของทุกคนอีกเล่มหนึ่งที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่านกัน นิทานสำหรับเด็ก ปรัชญาชวนคิดสำหรับผู้ใหญ่ อาณาจักรแห่งความฝัน ความงดงามของภาษาที่แสนบริสุทธิ์ อยากให้ทุกคนได้มาสร้างความประทับใจร่วมกัน
ขอบคุณค่ะที่ย่อยเรื่องให้ฟัง เพราะอ่านไม่จบซักที จะเก็บไปให้นักเรียนอ่านเผื่อใครสนใจจะไปอ่านเล่มจริงบ้าง