เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ผมได้รับเชิญจาก สำนักงาน ก.ค.ศ.ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิร่วมประชุมกลุ่มสนทนาตรวจสอบหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา(Focus Group) ที่โรงแรมเฟิสท์ โดยมี ดร.พนม พงษ์ไพบูลย์ เป็นประธานการประชุม ซึ่งการทำหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 79 กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และมีหน้าที่พัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสม ในอันที่จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความก้าวหน้าแก่ราชการ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด
ร่างหลักเกณฑ์ที่นำเสนอสรุปได้ว่า
1.ผู้บังคับบัญชาทุกคน ทุกระดับ ต้องพัฒนาตนเองให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา พัฒนาหน่วยงานหรือสถานศึกษาให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และพัฒนาข้าราชการครูผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาให้มีคุณลักษณะของความเป็นครู มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความก้าวหน้าแก่ราชการ
2.ผู้บังคับบัญชาทุกคน ทุกระดับมีหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและได้มาตรฐาน ถือว่าการทำงานและการเรียนรู้เป็นเรื่องเดียวกัน จำเป็นต้องพัฒนาตลอดเวลา ซึ่งข้าราชการครูผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทุกคนมีหน้าที่ต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงทางวิชาการและด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้บังคับบัญชานำผลการพัฒนาไปใช้เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาดำเนินการบริหารทรัพยากรบุคคล เช่น การเลื่อนขั้นเงินเดือน เปลี่ยนตำแหน่งหรือสายงาน การเลื่อนวิทยฐานะ การยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นต้น
วิธีการ ที่นำเสนอกันนั้น ส่วนใหญ่ระบุว่า ควรมีมาตรฐานครู หรือสมรรถนะเฉพาะของครูที่ชัดเจน แล้วหน่วยงานมีการประเมิน/สำรวจความต้องการจำเป็น(NA) เป็นฐานข้อมูล แล้วแต่ละคนมีการวางแผนพัฒนาตนเอง(ID Plan) แล้วดำเนินการพัฒนาตามความต้องการจำเป็น ซึ่งอาจพัฒนาโดยสถานศึกษาเอง หรือพัฒนาโดยหน่วยงานภายนอกที่มีหลักสูตรเป็นที่ยอมรับ เป็นทางเลือกที่หลากหลาย โดยจะต้องไม่ใช้การเกณฑ์ครูไปอบรมแบบเหมาโหลเหมือนที่ผ่านมา ศธ.อาจจัดคูปองให้แก่ครูเพื่อใช้ในการพัฒนาตนเอง(กำหนดชั่วโมง) เมื่อกลับมาก็มีการพัฒนาการทำงาน มีการนิเทศภายใน และประเมินความก้าวหน้า โดยผลการประเมินจะต้องส่งผลต่อการบริหารงานบุคคล (ไม่ใช่ทำดีแค่ไหนก็ได้ขั้นครึ่งเหมือนกันหมด) และมีอีกหลายๆประเด็นที่ผู้ทรงคุณวุฒให้ข้อเสนอแนะในที่ประชุม เพื่อให้ ก.ค.ศ.ไปกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการฯต่อไป
ไม่มีความเห็น