วันนี้ผมและพี่ๆ ในสสจ.น่าน ได้นัดคุณหมอชาตรี เจริญศิริ ที่ห้องประชุม ๓ โรงพยาบาลน่าน ที่นี่เป็นศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน เพื่อที่จะคุยเรื่อง KM ด้วย วันนี้ห้อง ๓ คึกคักเป็นพิเศษ ได้พบอาจารย์หมอบุญยงค์ วงศ์มิตร ที่ปรึกษาประชาคมจังหวัดน่าน ท่านได้กรุณา Lecture เรื่อง KM ให้พวกเราฟังว่า
.........ความเป็นมนุษย์ต้องมีความรู้ มนุษย์สร้างความรู้ได้ และใช้ความรู้ได้ แต่ที่เกิดปัญหาต่างๆ ในปัจจุบัน เพราะเราไม่ใช้ความรู้ และคิดว่าความรู้มัน Static อยู่อย่างนั้น ซึ่งความรู้ที่แท้นั่นเป็นพลวัตร
KM Process
๑. Capture Knowledge เป็นการค้นคว้าหาว่าความรู้อยู่ตรงไหน ซึ่งความรู้นี้มักเป็นความรู้ที่เปิดเผย (Explicit Knowledge) ซึ่งความรู้นี้ก็ได้มาจาก Information และ Information ก็มาจาก Data ที่ดีนั่นเอง
๒. To Develope Knowledge เป็นการนำความรู้ที่เราได้ค้นคว้ามาพัฒนาผ่านกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เช่น Research และ Research and Development ซึ่งกระบวนการนี้จะนำไปสู่การพัฒนาเป็น Explicit Knowledge ได้อีกเช่นกัน
๓. To Utilize เป็นการนำความรู้ที่ได้พัฒนามาแล้วมาใช้ประโยชน์ในงานประจำจนเกิดเป็นความรู้ที่ฝังลึกในตัวคน (Tacit Knowledge)
KM นอกจากตัว Knowledge แล้วสำคัญคือ Management ซึ่งการจัดการจะต้องอาศัย Input Process และ Output
........คนไทยเราไม่ใคร่ชอบบันทึก และไม่ค่อยมี Research Mind (ใจใฝ่รู้......Why, What, How)
สิ่งสำคัญคือต้องมีจริยธรรม (Moral) ในการที่จะควบคุมการใช้ Knowledge ให้เป็นในทางที่ถูกต้องด้วย........
อาจารย์ทิ้งท้ายไว้ว่า “จงพยายามทำตัวเองให้เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีของคนอื่น”
ผมถึงบางอ้อไปหลายเรื่องครับ เลยเอามาเล่าต่อ.........................
ไม่มีความเห็น