การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้

การสืบเสาะหาความรู้เป็นวิธีการพื้นฐานของมนุษย์

เพื่ออำนวยความสะดวกในการสอนแบบนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และให้คำแนะนำที่เพียงพอเพื่อให้แน่ใจในทิศทางและความสำเร็จในการค้นพบมโนทัศน์และหลักการทางวิทยาศาสตร์

ครูที่ให้แนวทางสืบเสาะที่ดีจะเป็นผู้ที่เป็นนักอนุรักนิยมอย่างหนึ่ง  ที่จะช่วยให้นักเรียนใช้ความคิด ผู้สอนได้ช่วยนักเรียนโดยใช้ศิลปะของการตั้งคำถาม เพื่อที่จะให้นักเรียนได้ค้นพบโดยตัวเขาเอง และใช้การคิดของเขาเอง

ในการอภิปรายแบบสืบเสาะ โดยทั่วไปจะเริ่มจากคำถามปลายปิดแล้วค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่เป็นปลายเปิดมากขึ้น  จุดประสงค์เบื้องต้นในการใช้วิธีการแบบสืบเสาะก็เพื่อที่จะกระตุ้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาการคิดแบบวิพากษ์ (critical thinking) พฤติกรรมเชิงสร้างสรรค์ และความสามารถที่หลากหลาย

ในการศึกษาแบบสืบเสาะหาความรู้ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เรียนจะต้องมีโอกาสที่จะใช้สมองในการคิด  เป็นการเรียนรู้ในการคิดอย่างมีเหตุผล และอย่างสร้างสรรค์ มีส่วนเป็นอย่างมากในการเพิ่มมโนทัศน์ของตัวเองในแต่ละบุคคล (preson's self-concept)

การสืบเสาะหาความรู้และการลงมือศึกษา  ดร.ริชาร์ต ซัชแมน (1966) ได้กล่าวไว้ว่า "การสืบเสาะหาความรู้ เป็นวิธีการพื้นฐานของการเรียนรู้ของมนุษย์ "  เป้าหมายหลักของการสอนวิทยาศาสตร์คือการพัฒนาการรู้วิทยาศาสตร์สำหรับประชาชนทุกคน "ส่วนที่เน้นย้ำหลักสำหรับการศึกษาสำหรับการรู้วิทยาศาสตร์ (scientific literacy) จะต้องอยู่บนฐาน่ของกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์

Wayne Welch กล่าวถึงการสืบเสาะหาความรู้ว่า "กระบวนการโดยทั่วไปซึ่งมนุษย์แสวงหาสารสนเทศหรือความเข้าใจให้เกิดในใจอย่างกว้างๆ นั่นคือการสืบเสาะหาความรู้แบบแนวทางในการคิด  การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เป็นซับเซ็ตของการสืบเสาะหาความรู้ทั่วไปเกี่ยวข้องกับโลกธรรมชาติ และมีทางนำด้วยความเชื่อและข้อตกลงเบื้องต้นที่แน่นอนมั่นคง 

Wilson ได้กล่าวถึงการสืบเสาะหาความรู้ว่าเป็นแบบจำลองกระบวนการของการสอนขึ้นอยู่กับทฤษฎีการเรียนรู้และพฤติกรรม  การสืบเสาะหาความรู้ให้ผลเป็นอะไร ที่ใดและเมื่อไรก็ตามที่กระตุ้นท้าทายความคาดหวังที่มีอยู่ของผู้มีส่วนร่วม  จุดเน้นของการสืบเสาะหาความรู้ไม่ใช่เพียงแต่ให้ได้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์หรือผลงานการสร้างของนักวิทยาศาสตร์  แต่เป็นการเน้นย้ำว่ามนุษย์ตัดสินใจในทุกเรื่องอย่างไร