เรื่องนี้ต้องขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ
*****************
เรื่องนี้ ครูวุฒิเพิ่งนั่งคุยกับพ่อครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ไปไม่นาน
เมื่อวันที่ครูวุฒิไปเยี่ยมพ่อครูบาฯครั้งล่าสุด 29 มค. 51
ว่าสิ่งหนึ่งโคกเพชรอยากได้ไว้ให้นักเรียนใช้และบริการข้อมูลข่าวสารให้กับชุมชนก็คือ
“ระบบอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม”
ซึ่งพ่อครูบาฯได้ให้เกียรติเขียนถึงความมุ่งหวังของครูวุฒิในเรื่องนี้ไว้
ในบันทึก ครูกับควาย
ที่ครูวุฒิอยากได้อินเตอร์เน็ตระบบดาวเทียม เป็นเพราะว่า
ระบบอินเตอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์
ที่หน่วยเหนือเคยเช่ามาให้โรงเรียนต่างๆใช้เมื่อ 2-3 ปีก่อน
กลายเป็นขยะให้ครูนั่งเฝ้าและปัดฝุ่นมาตลอด นับตั้งแต่ติดตั้งมาเลยก็ว่าได้
ซึ่งพวกเราก็ได้แต่ปรารภกันว่า “สงสัยสัญญาณอินเตอร์เน็ตมันคงกลับไปกับช่างแล้ว”
เพราะเรียกว่าหายไปทั้งช่างทั้งสัญญาณเลย
หลังจากมาติดตั้งให้แล้วและกลับมาดูอีก 2 ครั้งตามหนังสือแจ้งของโรงเรียน
ในขณะที่โรงเรียนในอำเภอ โรงเรียนในฝัน
มีระบบ ADSL และระบบของ CAT เป็นทางด่วนส่วนตัว
ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า
เพียงแค่ในตัวอำเภอและหมู่บ้านในเขตอำเภอเดียวกัน
เราก็ต่างกันมากแล้วในโอกาสการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสากล
แล้วเราจะติดเครื่องมือเกี่ยวกับสมองกล
และพลานุภาพแห่งการสื่อสารยุคใหม่เหล่านี้ให้กับเด็กได้อย่างไรล่ะ
เพราะลำพังครูเองก็ยังหาทางเข้าไม่เจอ
นอกจากการมีบ้านพักอยู่ในตัวเมืองและอำเภอเท่านั้น
*****************
แต่เมื่อวันศุกร์ 15 ก.พ.51 ที่ผ่านมา
โรงเรียนบ้านโคกเพชร (เล็กจ้อย ไกลปืนเที่ยง สุดเสียงสังข์อุปถัมภ์)
ได้มีโอกาสสัมผัสกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วพอใช้ได้เป็นครั้งแรก
เพราะอยู่ๆโดยไม่มีสัญญาณและการนัดหมายล่วงหน้า
(ซึ่งหน่วยเหนือของเราท่านมักมีเรื่องเซอร์ไพรซ์เราผู้ใต้บังคับบัญชาแบบนี้เกือบทุกครั้ง)
ครูวุฒิซึ่งกำลังอยู่ในพิธีการงานเผาศพเพื่อครูรุ่นน้องผู้กระอักพิษร้ายของเกณฑ์อาจารย์ 3
ที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวละโลกนี้ไปเพียงลำพัง
(ดังที่ครูวุฒิได้บันทึกไว้เป็นข้อพิจารณาสำหรับเบื้องบนแล้ว)
ก็ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากคุณครูที่โรงเรียนว่า
“มีรถทีโอทีสีสวย มาติดตั้งจานรับสัญญาณอินเตอร์เน็ต IPstar ให้”
ครูวุฒิก็ดีใจสิครับ เพราะอยากมีให้เด็กและชุมชนได้ใช้มานานแล้ว
วันนี้มีมาติดตั้งให้โดยไม่คาดฝันและวาดหวัง
ดังนั้น พอเสร็จงานพิธีก็รีบบึ่งรถกลับมาทันที
และเมื่อช่างติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.
ครูวุฒิก็สาธิตให้เด็กๆชั้น ป.6 (บางส่วน) ดูทันที จนถึง 18.00 น.
แบบเวลาอะไรจะไวปานนั้น
ซึ่งในวันเปิดเรียนต่อมา (18 ก.พ. 51) เด็กๆก็ได้เริ่มใช้ในทันที
และเมื่อวานนี้เอง (19 ก.พ.)
ปณิธานการเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารและวิชาการชุมชน
ของโคกเพชรก็เริ่มประจักษ์ชัดขึ้น
เมื่อระบบดังกล่าวสามารถให้บริการนำสืบค้นข้อมูล
เรื่อง “การเลี้ยงและการซื้อขายปลาบู่” และ “การเพาะเลี้ยงและการตลาดของชวนชม”
ให้กับชุมชนได้ถึง 2 คณะต่อเนื่องกัน
ซึ่งมีผลต่อความมั่นใจในการรวมกลุ่มและประชุมจัดตั้ง
“วิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาและเกษตรผสมผสานตำบลโคกเพชร”
อย่างเป็นทางการในฉับพลันทันที
(ก่อนนี้เป็นเพียงกลุ่มสนใจเท่านั้น)
(บรรยากาศการประชุมจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนคนเลี้ยงปลาและเกษตรผสมผสานฯ หลังการสืบค้นข้อมูลแล้ว)
เห็นไหมครับ?
ช่องว่างระหว่างคนเมืองและชนบทในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเริ่มแคบเข้ามาบ้างแล้ว
และนี่คือพลังอำนาจและอานุภาพของข้อมูลข่าวสาร
ที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้คนอย่างเห็นได้ชัด
ครูวุฒิจึงอยากได้มากๆ
อยากได้จนถึงกับลงทุนปลูกไผ่เพื่อจะหาตังค์มาเช่าเอง
อย่างที่พ่อครูบาท่านพูดถึงนั่นแหละครับ
ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองปณิธานการเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารและวิชาการชุมชนของโรงเรียน
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว๊บไซต์ของโคกเพชรเรื่องที่ 54 ที่นี่ ครับ)
ซึ่งโคกเพชรตั้งปณิธานไว้เพราะเห็นว่ามีความจำเป็นมากในยุคข้อมูลข่าวสารปัจจุบัน
และโรงเรียนควรจะต้องเป็นที่พึ่งของชุมชนในเรื่องนี้
(และถ้า อบต.จะเข้ามาเป็นเจ้าภาพหลักได้ก็ยิ่งดี โรงเรียนจะช่วยเป็นผู้บริหารโครงการให้)
*************
และความน่าตื่นตาตื่นใจ
ที่ต่อเนื่องมากับเรื่องตื่นเต้นของโคกเพชรในเรื่องดังกล่าวนี้ก็คือ
เนื้อหาในบทความ “หนุน ทีโอที ครูออนไลน์ ลดช่องว่างคนในเมืองกับชนบท”
ของคอลัมน์ “รายงานหน้า 8” ของ นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 19 ก.พ. 51
ครูวุฒิอยากให้ทุกท่านได้อ่าน ที่นี่ และ ที่นี่ ครับ
ซึ่งถ้าเป็นไปได้จริงไม่กินแห้วดังว่า
“เด็กๆและการศึกษาของไทย คงค่อยๆลดอาการป่วยไข้จากโรคตานขโมยข่าวสารและองค์ความรู้สากล”ลงได้บ้าง
แม้ไม่หายสนิท ไม่สมบูรณ์ผ่องใสเป็นไยยอง
เหมือนทองเนื้อเก้าอย่างคนในเมืองที่อ้วนพีมาตั้งแต่เกิด
ก็น่าจะพอมีแรงเอาตัวรอด
ท่ามกลางวิกฤติการณ์ในทุกด้านของสังคมชนบทได้ตามสมควร
เรื่องนี้ ครูวุฒิจึงของปราบมือดังๆให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
และขอแสดงความ “ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ” ด้วยความจริงใจครับ
สวัสดีครับ...
ชื่ชมและยินดีกับความมุ่งมาดปรารถนาที่เป็นรูปร่างอย่างที่ใจหวังนะครับ ..
ในบันทึกนี้ ผมเห็นเรื่องที่น่าสนใจหลายประการ ซึ่งหมายถึงการสะท้อนภาพการศึกษา เช่น การศึกษาในโลกไร้พรมแดนที่ต้องพึ่งพิงระบบการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี, บทบาทการศึกษาแบบมีส่วนร่วมระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ซึ่งหมายถึง อบต. ด้วยเช่นกัน
...
ประมาณปี 2545 ผมเป็นผู้ดำเนินการโครงการหนึ่งตามนโยบายรัฐบาล โดยพานิสิตไปอยู่ในพื้นที่เป็นเวลา 1 เดือน เป็นค่ายเรียนรู้และสร้างบางสิ่งบางอย่างให้กับชุมชน ... และสิ่งหนึงที่เป็นเรื่องตลกมากก็คือ เขากำหนดหมู่บ้านมาให้เราลงพื้นที่ แต่หมู่บ้านเหล่านั้น หรือ อบต. กลับไม่มีระบบอินเตอร์เน็ต ทั้ง ๆ ที่ในนโยบายให้นิสิตนักศึกษาไปพัฒนาชุมชนด้วยระบบเว็บไซด์
สิ่งเหล่านี้เลยเป็นเรื่องขำ เพราะขนาด อบต. ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ แต่กลับให้เราไปทำกิจกรรมในเรืองอินเตอร์เน็ต ข้อมูลที่ส่วนกลางมีนั้น ไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลยครับ ซึ่งไม่ต่างกับยุคหนึ่งที่ซื้อคอม ฯ ไปให้โรงเรียนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้
....
อย่างไรก็ตาม, ยินดีด้วยนะครับ และเชื่อว่า ครูวุฒิจะใช้เทคโนโลยีนี้ต่อยอดและสร้างคุณภาพชีวิตของการศึกษาได้อย่างเต็มที่ อย่างน้อยก็ในโรงเรียนของครูวุฒินันแหละ
เป็นกำลังใจให้...ครับ
สวัสดีครับ ครูวุฒิ
"ระบบสารสนเทศชุมชนในฝัน"
สวัสดีครับท่านอาจารย์นิโรธ
(ระบบสารสนเทศชุมชนต่อ)