บันทึก “จากบัวหลวง สู่บัวสาย” บันทึกการเดินทางของอี๋กับการเดินทางหาประสบการณ์ ทริปนี้เราจะไปจัดสัมมนาที่จังหวัดอุบลราชธานี บนเส้นทางจากปทุมธานี (จุดเริ่มต้น) ก็น่าประหลาดดีที่ 2 เมืองมีสัญลักษณ์เป็นดอกบัวเช่นกัน เราก็เลยอยากเรียกการเดินทางครั้งนี้ว่า “จากบัวหลวงสู่บัวสาย” คำว่าบัวสายได้มาจากชาวอุบลราชธานีนั่นเอง
เช้าวันแรก 14 ก.พ.2551
วันนี้ตื่นตอนเช้าตรู่ อาบน้ำ แล้วปลุกสามีสุดที่รักให้มาส่งที่ท่ารถหน้า ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต สถานที่นัด เวลาประมาณ 6.30 น. เพื่อรอรถตู้ของทีมงานมารับ วันนี้อากาศเย็น สบายๆ (รึเพราะไม่ค่อยมีธุระที่ต้องออกจากบ้านเช้าขนาดนี้ไม่ทราบ)
เพื่อนแนทมาถึงที่นัดหมายก่อนเวลานัด ....พอเจอกัเรารอรถอีกพักใหญ่ สำหรับเรื่องรถทีมงาน การนัดหมายผิดพลาดเล็กน้อย ทำให้เราต้องเดินเท้าไปหารถตู้เอง แต่ก็ได้พบกันในที่สุด
เมื่อมาถึงรถมีน้องๆหนุ่มๆทั้ง 4 คน ส่วนใหญ่แต่งกายในชุดลำลอง ออกไปทางชุดนอนงัวเงีย ตื่นขึ้นมา กล่าวสวัสดีทักทายกันไม่ถึง 2 คำได้ ก็กลับไปหลับตามเดิม..ก่อนออกเดินทางก็แวะทำธุระจนเรียบร้อย ยกมือไหว้ขอพรพระให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครั้งหนึ่ง แล้วเราก็พร้อมลุยกัน........
ที่นอนราคาล้านกว่าบาท
จากฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตจนถึง มธ. ศูนย์รังสิตไม่ได้การพูดจากันของคนในรถตู้มากนัก อากาศในรถจึงสงบมาก ถึงมากที่สุด และเราอ่านหนังสือขณะรถวิ่งไม่ได้เวียนศีรษะ มองไปออกนอกรถทิวทัศน์ที่คุ้นตาก็วิ่งผ่านตัว......เรื่อยๆ จนในที่สุด เราก็ตัดสินใจนอนดีกว่า หันมามองหน้ากับเพื่อนแนท เพื่อหาทางปรับเบาะให้นอนลง เมื่อจัดการได้เรียบร้อย......................ทิวทัศน์รอบข้างก็ดับลงในเวลาต่อมา.....รู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าเรามาจอดที่ปั๊ม ปตท.แห่งหนึ่งเพื่อรับประทานอาหารเช้า
“นอนบนรถอีกแล้วเรา” การเปลี่ยนที่นอนจากเบาะราคาไม่กี่พัน มานอนที่นอนเคลื่อนที่ราคาล้านกว่าบาทนี่ช่างเป็นธรรมดาของชีวิตคนทำงานกองถ่ายอยู่แล้ว (ชินจริงๆ) มันเป็นเมจิกบางอย่างของการเดินทางกับทีมงานบนรถตู้เพราะเพียงไม่กี่ชั่วโมง ความสนิทสนมก็จะเพิ่มขึ้นเหมือนรู้จักกันมานาน เพราะเรากิน นอน คุยกันในจำนวนคนไม่มาก สถานที่จำกัด ไม่จำกัดว่าจะเป็นงานลักษณะใดก็จะต้องมนต์นี้ของรถตู้แน่นอน...ดังนั้นบรรยากาศในรถตู้ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อนอนกันเต็มอิ่ม... เด็กกำลังโตทั้งหลายก็ร้องหาอะไรรับประทานกันทันที เป็นอย่างนี้ไปตลอดการเดินทาง....................
จตุคาม 20 บาท9.00 น. เช้านี้บรรยากาศออกจะครึ้มๆ อากาศหนาว เราจึงเลือกข้าวต้มมาเป็นอาหารเช้าที่ผิดเวลามากๆ แต่ที่ร้านนี้มีหนุ่มๆของเราได้ไปทำบุญ และได้รับเหรียญ ลักษณะคล้ายจตุคาม จากเจ้าของร้าน อีก ด้านหนึ่งเป็นพระพิฆเนศวร ก็เป็นเหรียญสวยดี เราสามารถทำบุญเท่าไรและขอรับมากี่องค์ก็ได้ น้องๆก็บริจาคไปคนละ 20 บาท
มานึกถึง..เรื่อง “ศรัทธามาเก็ตติ้ง” ที่เคยผ่านตาตอนที่จตุคามได้รับความนิยมอย่างสูง.................การทำการตลาดกับศรัทธานี้ “จตุคามรามเทพ” นี่เป็นตัวอย่างที่ดีๆจริงๆ
เยี่ยมร้าน T-NET ร้านเกมสีเขียว
เวลาประมาณ 16.30 น. เดินทางถึงอุบลราชธานีเพื่อเข้าพักโรงแรมชื่อว่า อุบลบุรี รีสอร์ท สวย น่ารัก สงบๆดี แลดูเป็นโรงแรมของพวกข้าราชการที่มาพักนี้ในจังหวัดแน่นอน พวกเรารีบเอาสัมภาระไปเก็บในห้องนัดหมายพบกันที่รถ เวลา 17.00 น. เพื่อไปสำรวจสถานที่จัดงานจัดเรตติ้ง เกม ในเสาร์ที่ 16 ก.พ.2551 ทางทีมงานนัดหมายกับ ว่าที่ รต. สมหมาย เจ้าของร้านอินเตอร์เน็ต ชื่อ T-NET เพื่อขอนุญาติเข้ามาไปชมร้านและ บรรยากาศ
คุณ สมหมายบอกเล่าให้ทีมงานฟังว่า ทางชมรมผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เนตและเกมจังหวัดอุบลราชธานีมีโครงการเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมร่วมกับทางจังหวัดเพื่อจัดงานวัฒนธรรมโดยใช้ICT เข้ามาช่วยในงานวันบุญพระเวส ในวันที่ 21-22 ก.พ.2551 นี้........ดีแฮะ..นัดหมายเวลาที่เราจะเจอกันพรุ่งนี้แล้วจึงขอตัวไปหาร้านอาหารต่อไป
GPRS อัจฉริยะ
เรื่องขำๆในวันแรกของการเดินทาง เราเพิ่งทราบว่า รถตู้คันที่เรานั่งมาเครื่อง GPRS เพื่อช่วยในการบอกทิ้งทาง ช่างสะดวกซะจริงเลยสมัยนี้...เราเลยท้าทายเจ้า GPRS นี้ด้วยการขับรถออกนอกเส้นทาง.. ก็มีเสียงเย็นๆ ของเครื่องบอกว่า “คุณกำลังออกนอกเส้นทาง กรุณายูเทิร์นกลับค่ะ” ขำดี
แต่เราเรียกว่า GPRS อัจฉริยะคือ มันสามารถบอกทางลัดเพื่อจะเดินทางไปถึงโรงแรมที่เราพักได้อย่างถูกต้อง.......... “300 เมตรแล้ว.เลี้ยวซ้ายค่ะ” “ตรงไปค่ะ” “อีก 500 เมตรจะถึงจุดหมายค่ะ”
เลยเกิดข้อสงสัยว่า เขาออกแบบมาได้อย่างไร ให้สามารถมีข้อมูลของถนนเส้นเล็กๆแบบนี้ได้
วาเลนไทน์ที่ไกลคนรัก
หลังจากรับประทานอาหารเย็นและจะเดินทางกลับโรงแรม มี เป็นจักรยานยนต์คันนึ่งนอนอยู่เลนข้างๆ และ มีเด็กวัยรุ่นลักษณะที่ใครๆเรียกว่า “สก๊อย”เจ็บ และมีแผล ฟกช้ำ นั่งอยู่ที่ฟุตบาท อืม!! น้องคงมาเที่ยวกันแล้วรถล้มซินะ เด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันหนึ่งคน กำลังจัดการกับรถอยู่...เราไม่ได้มีโอกาสลงไปช่วยคู่รักวัยรุ่นคู่นี้...ประกอบกับระหว่างทางที่มาเราสังเกตเห็นว่ามีร้านรวงหลายตกแต่งด้วยลุกโป่งรูปหัวใจสีแดง อ๋อ..ใช่แล้ววันวาเลนไทน์นี่เอง..แต่วันนี้เราก็ออกเดินทางมาไกลตั้งหลายร้อยกิโลเมตร ทันใดนั้นก็มี SMS เข้ามาที่มือถือ “สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ” คุณนายแม่นั่นเอง...ดีใจจังเลย ปกติคุณนายแม่จะเป็นคนกุ๊กกิ๊กโดยพื้นฐานอยู่แล้ว เมื่อมีวันพิเศษอะไรก็จะมี SMS แบบนี้มาอย่างสม่ำเสมอ...ทุกเทศกาลจริงๆ รักแม่จัง
โทรหาแม่แล้วบอกรักไปหนึ่งที ..สบายใจ..
เดินทางกับอาจารย์ประมวลก่อนนอน
ในการเดินทางครั้งนี้ เราพกหนังสื่อ ชื่อ “การเดินทางสู่อิสรภาพ” ของ อ.ประมวล เพ็งจันทร์ ที่เล่าถึงการเดินทางของชายชราที่ต้องการเดินทางกลับบ้านเพื่อกลับไปหาเด็กชายคนเดิมเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้วที่บ้านเกิด จากเชียงใหม่ สู่ เกาะสมุย การเดินเท้าโดยไม่ใช่เงิน และไม่ขอความช่วยเหลืออันเป็นการเดือดร้อนคนอื่น
เราได้ยินชื่อหนังสือเล่มนี้มานานพอสมควร และจริงๆเราก็มีหนังสือเล่มนี้มานานหลายเดือนแล้วเช่นกันตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค.2550 เพราะสามีเราเป็นศิษย์คนหนึ่งของอาจารย์เหมือนกัน และเราก็ได้รับฟังเรื่องราวของอาจารย์มานานแล้ว เหมือนเราก็ได้ฟังคำสอนของอาจารย์จากคนอื่นๆรอบตัวตลอดเวลา..
วันดี เวลาเหมาะ เราก็หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เพียง 29 หน้าแรก เราก็รู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ในความตอนหนึ่ง เล่าถึง วันที่อ.ลาออกจาการเป็นครู หรง น. มัธยมปลาย เมื่อได้ฟังว่าทำไม อ.จะทำอะไร? เพื่ออะไร?ก็บอกว่า เข้าใจแล้วว่าที่พี่สาวแนะนำให้ตนเองมาเป็นศิษย์ของอาจารย์และร้องไห้และกล่าวขอบคุณพี่สาวที่อยู่ข้างๆ ต่อหน้าสายตาศิษย์คนอื่นมากมาย
“ เถียน” นักศึกษาที่เคารพอาจารย์คนหนึ่งแนะนำน้องสาวตั้งแต่ มัธยมให้มาเป็นศิษย์ของอ. ไม่นานก็มีเด็กใส่ชุดนักศึกษาน่ารักมาแนะนำตัวว่าเป็นน้องของเถียน และ นักศึกษาคนนั้นคือ “ถิง” ซึ่งเป็นพี่ของหรงนั่นเอง” เราประทับใจตรงนี้มาก และเราได้รู้จักเถียนตัวจริงแล้วด้วยเพราะเป็นรุ่นน้องของสามีนั่นเอง.....
เราเลยคิดว่า.....สิ่งที่ได้วันนี้คือ พรุ่งนี้การเดินทางของเราต้องได้บางสิ่งกลับไปแน่นอน
โปรดติดตามตอนต่อไป............ติดตามอ่านครับ
พอพูดถึงอุบล ผมมีเพื่อน สอนอยู่ที่ ม.อุบลครับอยู่คนหนึ่งครับ คิดถึงเพื่อน คนนี้จัง
รออ่านอีกคนค่ะ