ลักษณะของกฎหมายระหว่างประเทศ ก่อนที่จะกล่าวถึงลักษณะของกฎหมายระหว่างประเทศ จะขอกล่าวถึงความหมายและประเภทของกฎหมายระหว่างประเทศ ดังต่อไปนี้
ความหมายของกฎหมายระหว่างประเทศ
กฎหมายระหว่างประเทศ (International Law) หมายถึง กฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในแต่ละประเทศ หรือ ระเบียบข้อบังคับทั้งปวงของสังคมระหว่างประเทศ ที่กำกับและควบคุมความประพฤติหรือพฤติกรรมของบุคคลระหว่างประเทศให้สามารถอยู่รวมกันได้อย่างสันติสุข
ซึ่งในปัจจุบันนี้ กฎหมายระหว่างประเทศมิได้จำกัดบทบาทอยู่แต่เพียงในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังได้ขยายบทบาทเข้ามาใช้บังคับภายในประเทศอีกด้วย โดยได้เข้ามาควบคุมพฤติกรรมขององค์กรของรัฐและปัจเจกชนด้วย และยังให้ความคุ้มกันแก่ปัจเจกชนมิให้ผู้ใดละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยให้ความคุ้มครองแก่เด็ก และสตรี ตลอดจนสิ่งแวดล้อม และการดำเนินคดี หรือลงโทษต่างๆ แก่ผู้ประกอบอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม .
ประเภทของกฎหมายระหว่างประเทศ
กฎหมายระหว่างประเทศสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง (Public International Law) ซึ่งเป็นการศึกษาถึงที่มาและหลักเบื้องต้นของกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งถือว่ารัฐหรือประเทศเอกราชแต่ละประเทศที่มีฐานะเป็นบุคคล ไม่ว่าจะเป็นประเทศเล็กหรือประเทศใหญ่ หรือไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนา หรือกำลังพัฒนาก็ตาม ย่อมมีสิทธิและหน้าที่เหมือนกับบุคคลธรรมดา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแต่ละประเทศอาจจะต้องมีความสัมพันธ์ต่อกัน หรืออาจมีเรื่องพิพาทโต้แย้งกันขึ้นได้ จึงจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์ และสาระสำคัญเกี่ยวกับเขตแดนของรัฐ ทะเลหลวง การทำสนธิสัญญา การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศ การทำสงคราม การสงบศึก และความเป็นกลาง เป็นต้น .
2. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล (Private International Law) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในทางคดีบุคคล ซึ่งความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้หมายถึง ความเกี่ยวพันในสิทธิและหน้าที่ทางแพ่งของพลเมืองแห่งประเทศหนึ่งกับพลเมืองแห่งประเทศซึ่งเรียกว่าคนต่างด้าว ไม่ว่าคนต่างด้าวนั้นจะอยู่ในประเทศของตนหรือเข้ามาอยู่ในอีกประเทศหนึ่งในฐานะผู้เข้ามาอาศัยอยู่ก็ตาม หรือในระหว่างคนต่างด้าวด้วยกันเองที่เข้าไปอยู่ในประเทศอื่น ซึ่งความเกี่ยวพันระหว่างกัน ในระหว่างพลเมืองของแต่ละประเทศที่ต่างกันนั้น อาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคล ทรัพย์ หนี้ และวิธีได้สิทธิต่างๆ ในทรัพย์ ซึ่งเหตุที่ประเทศต่างๆ ต้องเข้ามาเกี่ยวพันกันก็เพราะประเทศทั้งหลายนั้นต่างต้องเป็นผูพิทักษ์และระวังรักษาผลประโยชน์ของพลเมืองแห่งประเทศของตน ด้วยเหตุดังกล่าวจึงก่อให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศ โดยมีมูลเหตุมาจากกฎหมายเอกชนของประเทศหนึ่ง แตกต่างกับของอีกประเทศหนึ่ง
3. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา (Criminal International Law) เป็นการศึกษาถึงการเกี่ยวพันระหว่างประเทศในทางคดีอาญา ซึ่งการเกี่ยวพันระหว่างประเทศในรูปนี้นั้นได้แก่ ความเกี่ยวพันกันโดยเหตุที่พลเมืองกระทำความผิดอาญา กล่าวคือ พลเมืองของประเทศหนึ่งกระทำความผิดแล้วหลบหนีเข้าไปในอีกประเทศหนึ่ง หรือมีการเริ่มต้นกระทำความผิดในประเทศหนึ่งแล้วการกระทำความผิดนั้นสำเร็จลงในอีกประเทศหนึ่ง หรือการกระทำความผิดในทะเลหลวงหรือในอากาศ อันถือว่าเป็นเขตแดนระหว่างประเทศที่ไม่มีประเทศใดเป็นเจ้าของ หรือกระทำความผิดตามกฎหมายอาญาของประเทศเจ้าของสัญชาติของคนต่างด้าวนั้น ดังนั้นจึงเกิดมีปัญหาขึ้นว่าจะใช้กฎหมายของประเทศใดมาลงโทษ ศาลของประเทศใดจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี หรือหลักการและปัญหาของการส่งผู้ร้ายข้ามแดน การส่งประเด็นไปสืบ ผลบังคับคดี และผลแห่งคำพิพากษาในคดีอาญาของศาลในต่างประเทศ .
ลักษณะของกฎหมายระหว่างประเทศ
จากข้อความดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้เห็นว่ากฎหมายระหว่างประเทศมีลักษณะดังนี้
กฎหมายระหว่างประเทศมีลักษณะสำคัญ คือ
1. กฎหมายระหว่างประเทศมีสภาพบังคับแตกต่างไปจากสภาพบังคับของกฎหมายภายใน
2. กฎหมายระหว่างประเทศแตกต่างไปจากมารยาท และอัธยาศัยไมตรีอันดีระหว่างประเทศ หรือศีลธรรมซึ่งไม่มีสถานะเป็นกฎหมาย และไม่มีโทษด้วย
3. กฎหมายระหว่างประเทศลงโทษโดยหลักการความรับผิดชอบของรัฐ
ไม่มีความเห็น