คำว่า "ผิด" คือไม่ถูก ไม่ตรงกับความจริงที่กำหนดไว้ เชื่อว่าหลายท่านคงจะคุ้นเคยกับคำคำนี้ดี แต่ความผิดหรือการกระทำที่ผิดนั้นมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของคนเราอย่างมหาศาล ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับบรรทัดฐานที่ถูกต้องตามครรลอง พูดง่ายๆ ก็คือเพราะเคยทำสิ่งที่ผิดมาก่อนจึงได้รู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร ความผิดจึงเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง...
พูดถึงเรื่องความผิด นับเป็นโชคมหาโชคของมนุษยชาติที่มีผู้ประดิษฐ์คิดค้น "น้ำยาลบความผิด" "น้ำยาลบคำผิด" เป็นสินค้ามาให้ผู้คนได้บริโภคกันอย่างทั่วหน้าทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นครู เป็นศิษย์ พนักงานราชการ วิสาหกิจ พ่อค้าแม่ขาย ฯลฯ ได้ใช้บริการลบความผิดทั้งหลายให้หายไปในพริบตา
เพราะความผิดแท้ๆ เชียวทำให้คุณเบทท์ ซึ่งเป็นพนักงานพิมพ์ดีดในสำนักงานเล็กๆ แห่งหนึ่ง เธอพิมพ์ผิดบ่อยๆ จึงต้องปกปิดร่องรอยโดยหาวัตถุสีขาวมาแปะป้ายทับลงไป และเธอก็เลือกใช้สีขาวจากหลอดสีที่ใช้วาดเขียนนั่นเอง...ผลงานการลบความผิดครั้งนั้นทำให้เธอปิ๊งไอเดียแปรสภาพห้องครัวของบ้านเป็นห้องแล็ปทดลองน้ำยา ลิควิดเปเปอร์ จนสุดท้าย สามารถขายลิขสิทธิ์ให้บริษัทยิลเลตด้วยวงเงินเกือบสองพันล้านบาท...นี่แหละครับประโยชน์ของความผิด..
การที่คนเราจะรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร สิ่งนี้คืออะไรก็จะต้องรู้ว่าสิ่งนั้นไม่ใช่อะไร สิ่งนี้ไม่ใช่อะไรด้วยเหมือนกัน ความผิดหรือสิ่งไม่ถูกจึงเป็นเสมือนอีกด้านหนึ่งของเหรียญที่มีความหมาย หรือความสำคัญอยู่มากทีเดียว ใครสักคนเคยพูดไว้ว่า "ไม่มีใครฉลาดพอที่จะทำผิดได้ทุกครั้ง" คำนี้อาจเป็นสัจธรรมที่จะนำมาขบคิด ปล่อยให้ความผิดทั้งหลายในตัวศิษย์ได้โอกาสพัฒนาไปสู่ความไม่ผิด ให้เขาได้รู้สึกว่าความผิดไม่ใช่สิ่งเลวร้ายแต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่มีครูคอยชี้แนะและอดทนรอโอกาสที่ศิษย์ได้พบกับความสำเร็จอีกครั้ง...ครูทุกคนคงจำได้ว่า วิชาจิตวิทยา 101 สมัยที่เรียนวิชาครูมานั้นสอนนักสอนหนาว่าคนทุกคน ต้องการความสำเร็จ ต้องการมีตัวตน มีที่ยืนอยู่ในโลกใบนี้...ซึ่งก็เป็นความต้องการตามธรรมชาติ แต่เด็กของเราหลายคนไม่ใช่หรือที่ล้มเหลวในห้องเรียนและถูกผลักดันให้ต้องออกไปหาตัวตน หาที่ยืนหรือหาคนยอมรับบนท้องถนน...