ดิฉันได้มีโอกาสเดินทางไปนอกเมืองเจนไน สองข้างทางนอกเมืองเป็นทุ่งโล่งๆ
คล้ายบ้านเราซึ่งเพื่อนบอกว่าที่ดินนอกเมืองเริ่มแพงเพราะนักธุรกิจซื้อไว้ทำ
โรงงานอุตสาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ตามรายทางให้เห็นอยู่ประปราย
บ้างแล้ว สิ่งที่เห็นว่ามีมากตามเส้นทางที่ผ่านไปอีกสิ่งหนึ่งคือมหาวิทยาลัยเอกชน
ทางด้านวิศวกรรมและการแพทย์หลายแห่ง เป็นอาคารใหม่ กว้างใหญ่ สวยงาม
เพื่อนบอกว่าเป็นของนักการเมืองเพราะเป็นสาขาที่เป็นที่นิยม มีคนเรียนมาก
คนที่มีฐานะดีก็สามารถเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนได้ ค่าเรียนแพงจึงสามารถ
จ้างอาจารย์ดีๆ มาสอนได้ แสดงให้เห็นว่ารัฐเตรียมความพร้อม เตรียมคนเพื่อรองรับ
การเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม
ชาวอินเดียโดยทั่วไปใช้รถยนต์คันเล็กๆ ที่ผลิตในประเทศเพื่อประหยัดน้ำมัน
อินเดียเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์ได้เองมานานแล้วซึ่งได้พัฒนารูปแบบให้ทันสมัย
ราคาไม่แพงนักสำหรับรถเล็กๆ ที่ประหยัดน้ำมัน ดิฉันเองเห็นแล้วชื่นชมค่ะ
ชาวอินเดียตัวใหญ่ๆ แบบฝรั่งมีเยอะ แต่ขับรถคันเล็กๆ ดูแล้วไม่สมดุล แต่ขนาดของ
รถก็กว้างพอที่จะนั่งได้ทั้งครอบครัว ที่อินเดียน้ำมันแพงมาก ทุกคนต้องช่วยกันประหยัด
สิ่งที่อยากชวนท่านคิดคือการคิดเป็น ทำเป็น ดิฉันลองถามช่างคนไทยของ
บริษัทฟอร์ดที่พบกันโดยบังเอิญบนเครื่องบินไปอินเดียว่าคนไทยสร้างรถเองได้ไหม
เขาบอกได้ ดิฉันก็คิดว่าได้เพราะมีบริษัทต่อรถของคนไทยอยู่บ้าง แต่ไม่มาก ทำอย่างไร
ประเทศไทยจะสามารถออกแบบ ผลิต และจำหน่ายรถที่เป็นยี่ห้อของไทยเอง แทนที่
จะเป็นของต่างชาติ เราภาคภูมิใจนักหนาว่าเป็น Hub หรือศูนย์กลางการผลิตรถยนต์
แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (??) แต่พนักงานบริษัทรถยนต์ของต่างชาติในไทย
ทำงานเหมือนเครื่องจักร ผลิตนาทีละ 10 คันทำเป็นแต่แผนกนั้นแผนกเดียวเหมือน
คนที่เย็บเสื้อโหล ชำนาญแต่ส่วนเดียว ไม่สามารถสร้างความรู้ทั้งหมดของขบวนการ
ทำงาน ขบวนการผลิตได้ ไม่ทราบว่าถ้าเขาย้ายฐานไปผลิตที่ประเทศอื่นหมด
ช่างไทยเหล่านั้นจะสามารถใช้ความรู้และประสบการณ์ผลิตรถได้เองไหม
คนไทยไม่มีความเป็นชาตินิยม หากสินค้าเป็นยี่ห้อไทยรับรองว่าขายยาก รัฐบาล
ไม่ว่าในสมัยใดก็ตามไม่มีนโยบายการสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในสังคมในระยะยาว
เราคิดถึงผลประโยชน์เฉพาะหน้ามากกว่าที่จะสอนให้คนคิดเป็นทำเป็น ดังนั้น เราจึง
เป็นผู้บริโภคมากกว่าที่จะเรียนรู้เพื่อสร้าง และขายเอง? ผิดกับประเทศเพื่อนบ้านเรา
เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซียที่สามารถผลิตรถยนต์โดยใช้ยี่ห้อของตนเอง ท่านมีความคิดเห็น
อย่างไรบ้างคะ
-------------------------------------
ขณะนี้สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท และบัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหิดล กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษารอบสอง ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-
8 มีนาคม 2551 เรามีหลักสูตรปริญญาโท เอกอินเดียศึกษา ให้ท่านได้พิจารณาเพื่อมา
ร่วมค้นหาความเป็น "เอก" ในงานศึกษา วิจัยของท่านในมิติต่างๆ ที่ท่านสนใจ
เกี่ยวกับ "อินเดีย" เพื่อประโยชน์ในการทำงานกับประเทศชาติและกับชาวอินเดียต่อไป
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-800-2308-14 ต่อ 3101, 3308 www.lc.mahidol.ac.th
หากท่านมีผลการศึกษาในระดับปริญญาโทดี ท่านอาจมีสิทธิได้รับทุนไปศึกษา
ในระดับปริญญาเอกที่อินเดีย
ครับ อยู่ที่นโยบายของผู้บริหาร(รัฐบาล) ที่จะนำมาใช้หรือไม่
เคยมีคำขวัญสมัยจอมพล ป. ว่า "เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย"
ผมคิดว่ายังใช้ได้อยุ่นะครับ
เพียงแต่ว่าผู้นำคนนั้น จะต้องเป็นคนเก่ง ดี และมีคุณธรรม